84000.org::...
04-หัตถกคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้สงเคราะห์บริษัทด้วยสังคหวัตถุ ๔ หัตถกคฤหบดี เป็นราชโอรสของพระเจ้าอาฬวกะ แห่งกรุงอาฬวี แคว้นอาฬวี มีพระ นามว่า อาฬวกะ ถูกยักษ์จับ ขณะเมื่ออาฬวกุมาร ยังอยู่ในวัยเยาว์ พรเจ้าอาฆวกะผู้เป็นพระราชบิดาเสด็จประพาส ป่าเพื่อล่าสัตว์ พระองค์ฆ่าเนื้อได้ตัวหนึ่งแล้วตัดเป็น ๒ ท่อน ผูกคล้องไว้ที่ปลายคันธนูใช้คัน ธนูแทนคานหาบเนื้อนั้นกลับสู่พระนคร ขณะที่เสด็จกลับสู่พระนครได้เข้าไปพักเหนื่อยที่โคน ต้นไทรใหญ่ริมทางและที่ต้นไทรนั้นมียักษ์สิงสถิตอยู่ ถ้ามีคนเข้ามาในร่มเงาของต้นไทรนั้นก็ จะต้องตกเป็นอาหารของยักษ์ทุกคน เมื่อยักษ์เห็นพระราชาประทับนั่งที่โคนต้นไทรของตน จึงออกมาจับที่พระหัตถ์แล้วกล่าวว่า ท่านต้องเป็นอาหารของเรา พระราชาสะดุ้งพระทัยหวาดกลัวภัยอย่างที่สุด ไม่เห็นอุบายอย่างอื่นที่จะให้รอดพระ ชนม์ได้ จึงตรัสแก่ยักษ์ว่า ถ้าท่านปล่อยเราไป เราขอให้ปฏิญญาแก่ท่านว่าจะส่งมนุษย์หนึ่ง คนพร้อมด้วยถาดอาหารมาให้ท่านกินทุกวัน ยักษ์รับปฏิญญาแล้วปล่อยพระราชาไป ตั้งแต่วันนั้นพระราชาได้ส่งนักโทษในเรือน จำไปเป็นอาหารของยักษ์ทุกวัน จนนักโทษหมดเรือนจำ เมื่อไม่มีนักโทษส่งไปแล้วจึงรับสั่งให้ จับคนแก่ไปให้ยักษ์วันละคนจนกระทั่งคนแก่ก็หมดไป ทั้งเมือง จากนั้นรับสั่งให้จับตัวเด็ก ๆ ส่งไปให้ยักษ์ ด้วยวิธีนี้ครอบครัวพ่อแม่ที่มีลูกหลานพากันอพยพหนีไปอยู่เมืองอื่นกันหมด พุทธานุภาพปราบยักษ์ วันหนึ่งในเวลาใกล้รุ่ง พระบรมศาสดาทรงตรวจดูสัตว์ผู้มีอุปนิสัยควรแก่การบรรลุ มรรคผล ได้ทอดพระเนตรเห็นอุปนิสัยของอาฬวกกุมาร ผู้ซึ่งได้ตั้งความปรารถนาไว้นานถึง แสนกัป ก็ถ้าพระราชาผู้เป็นพระบิดา เมื่อไม่มีเด็กอื่นจะส่งไปให้แก่ยักษ์แล้ว ก็จัดส่งโอรส ของพระองค์เองไปให้ยักษ์ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นในเวลาเย็นวันนั้น พระพุทธองค์ได้เสด็จไปยัง ต้นไทรที่อยู่อาศัยของอาฬวกยักษ์ประทับนั่งบนอาสนะของอาฬวกยักษ์นั้น ขณะนั้น สาตาคิรยักษ์และเหมวตยักษ์ เหาะผ่านมาทางนั้นได้เห็นพระบรมศาสดา ประทับนั่งในที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ จึงเข้าไปเฝ้ากราบถวายบังคมแล้วถอยออกไปกล่าวมุทิตา กถาแสดงความยินดีกับอาฬวกยักษ์ว่า ท่านอาฬวกยักษ์ ท่านมีโชคได้ลาภอันประเสริฐแล้ว ขณะนี้พระบรมโลกนาถศาสดา เสด็จมาประทับยังที่นั่งของท่าน ขอท่านจงไปเฝ้ากราบถวายบังคมและฟังพระธรรมเทศนาเถิด แต่อาฬวกยักษ์ผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอได้ฟังดังนั้น ก็โกรธที่พระสมณโคดม รุกล้ำล่วงสู่ แดนของตน จึงประกาศที่จะต่อสู้เพื่อขับไล่พระสมณโคดมไปให้พ้นจากสถานที่ของตน พร้อมทั้งชักชวนสรตาคิรยักษ์ และเหมวตยักษ์ให้ร่วมด้วยช่วยกันทำศึกในครั้งนี้ แต่ยักษ์ทั้ง สองไม่ยอมร่วมด้วย อาฬวกยักษ์จึงประทุษร้ายขับไล่พระพุทธองค์ด้วยตนเองเพียงผู้เดียว อาฬวกยักษ์ แม้จะรุกรานพระบรมศาสดาด้วยกำลังโดยวิธีการต่าง ๆ ก็ไม่สามารถจะ ได้รับชัยชนะ จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีถามปัญหา ๘ ข้อ พระพุทธองค์ทรงวิสัชนาแก้ได้ทั้งหมดเมื่อ จบการแก้ปัญหาอาฬวกยักษ์ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันมีศรัทธามั่นคงไม่หวั่นไหวในพระ รัตนตรัย คลายความโกรธและหายจากความโหดร้ายกลับมีจิตเมตตาต่อผู้อื่น วันรุ่งขึ้น ราชบุรุษทั้งหลายเมื่อไม่ได้เด็กภายนอกไปให้ยักษ์ จึงกราบทูลพระราชาให้ ทรงทราบพระราชาเมื่อไม่มีใครอื่นที่จะส่งไป ก็เกรงภัยจะมาถึงตนจึงได้ส่งอาฬวกกุมารวางลง ที่มือของยักษ์ ฝ่ายอาฬวกยักษ์พอรับเด็กมาแล้วได้น้อมเข้าไปถวายวางลงบนพระหัตถ์ของพระ ศาสดา พระพุทธองค์ทรงรับแล้วส่งกลับคืนในมือของยักษ์อีก อาฬวกยักษ์ได้นำเด็กไปวางใน มือของพวกราชบุรุษที่นำมาอีกครั้งหนึ่ง พระราชกุมารนั้นโดยอาการที่ถูกส่งจากมือหนึ่งไปยัง อีกมือหนึ่งนี้ จึงได้รับการขนานนามว่า หัตถกอาฬวกกุมาร และได้รอดพ้นจากการเป็น อาหารของยักษ์ด้วยพระพุทธบารมี หัตถกอาฬวกกุมาร นั้น เมื่อเจริญวัยขึ้นมาได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระบรมศาสดา ได้บรรลุเป็นพระอนาคามี ประกาศตนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต เมื่อเขาจะไปในที่ใด ๆ ก็จะมีอุบาสกผู้เป็นอริยะ ๕๐๐ คน ติดตามแวดล้อมตลอดเวลา พระบรม ศาสดาได้ตรัสถามเขาว่า มีหลักสงเคราะห์บริษัทบริวารอย่างไร ? หัตถกอาฬวกกุมาร กราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์สงเคราะห์ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ประการ คือ ๑. ทาน ถ้าเขายินดีด้วยการให้ข้าพระองค์ก็สงเคราะห์ด้วยการให้ ๒. ปิยวาจา ถ้าเขายินดีด้วยการพูดจาไพเราะน่ารักข้าพระองค์ก็ สงเคราะห์ด้วยวาจาไพเราะน่ารัก ๓. อัตถจริยา ถ้าเขายินดีด้วยการให้ทำกิจที่เกิดขึ้นจนสำเร็จข้าพระองค์ก็ สงเคราะห์ด้วยการช่วยทำกิจที่เกิดขึ้นจนสำเร็จ ๔. สมานัตตตา ถ้าเขายินดีด้วยการวางตนเสมอกัน ข้าพระองค์ก็สงเคราะห์ ด้วยการด้วยการวางตนเสมอกัน พระบรมศาสดาทรงอนุโมทนาในการสงเคราะห์บริษัทบริวารของเขาแล้ว ประกาศยก ย่องหัตถกอาฬวกกุมาร ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลาย ในฝ่าย ผู้สงเคราะห์บริษัทด้วยสัคหวัตถุ ๔
04-หัตถกคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้สงเคราะห์บริษัทด้วยสังคหวัตถุ ๔ หัตถกคฤหบดี เป็นราชโอรสของพระเจ้าอาฬวกะ แห่งกรุงอาฬวี แคว้นอาฬวี มีพระ นามว่า อาฬวกะ
หัตถกคฤหบดี เป็นราชโอรสของพระเจ้าอาฬวกะ แห่งกรุงอาฬวี แคว้นอาฬวี มีพระ นามว่า อาฬวกะ
84000.org...::
สารบัญหลักหมวดอุบาสก | 01 | 02 | 03 | 04 | 05 | 06 | 07 | 08 | 09 | 10 |