บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) การค้นหาคำว่า คติ 5 ผลการค้นหาพบ 2 ตำแหน่ง ดังนี้ :-
[***] กามคุณ 5 ดู [6] กามคุณ 5. [***] กำลัง 5 ของพระมหากษัตริย์ ดู [230] พละ 5 ของพระมหากษัตริย์ [216] ขันธ์ 5 หรือ เบญจขันธ์ (กองแห่งรูปธรรมและนามธรรม 5 หมวด ที่ประชุมกันเข้าเป็นหน่วยรวม ซึ่งบัญญัติเรียกว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นต้น, ส่วนประกอบ 5 อย่างที่รวมเข้าเป็นชีวิต the Five Groups of Existence; Five Aggregates) 1. รูปขันธ์ (กองรูป, ส่วนที่เป็นรูป, ร่างกาย พฤติกรรม และคุณสมบัติต่างๆ ของส่วนที่เป็นร่างกาย, ส่วนประกอบฝ่ายรูปธรรมทั้งหมด, สิ่งที่เป็นร่างพร้อมทั้งคุณและอาการ corporeality) 2. เวทนาขันธ์ (กองเวทนา, ส่วนที่เป็นการเสวยอารมณ์, ความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือเฉยๆ feeling; sensation) 3. สัญญาขันธ์ (กองสัญญา, ส่วนที่เป็นความกำหนดหมาย, ความกำหนดได้หมายรู้ในอารมณ์ 6 เช่นว่า ขาว เขียว ดำ แดง เป็นต้น perception) 4. สังขารขันธ์ (กองสังขาร, ส่วนที่เป็นความปรุงแต่ง, สภาพที่ปรุงแต่งจิตให้ดีหรือชั่วหรือเป็นกลางๆ, คุณสมบัติต่างๆ ของจิต มีเจตนาเป็นตัวนำ ที่ปรุงแต่งคุณภาพของจิต ให้เป็นกุศล อกุศล อัพยากฤต mental formations; volitional activities) 5. วิญญาณขันธ์ (กองวิญญาณ, ส่วนที่เป็นความรู้แจ้งอารมณ์, ความรู้อารมณ์ทางอายตนะทั้ง 6 มีการเห็น การได้ยิน เป็นต้น ได้แก่ วิญญาณ 6 consciousness) ขันธ์ 5 นี้ ย่อลงมาเป็น 2 คือ นาม และ รูป; รูปขันธ์จัดเป็นรูป, 4 ขันธ์ นอกนั้นเป็นนาม. อีกอย่างหนึ่ง จัดเข้าในปรมัตถธรรม 4 : วิญญาณขันธ์เป็น จิต, เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์ เป็น เจตสิก, รูปขันธ์ เป็น รูป, ส่วน นิพพาน เป็นขันธวินิมุต คือ พ้นจากขันธ์ 5 เรื่องขันธ์ 5 พึงดูประกอบในหมวดธรรมอื่นๆ เช่น 1. รูปขันธ์ ดู [38] รูป 2๑, 28; [39] มหาภูต 4; [40] อุปาทายรูป 24. 2. เวทนาขันธ์ ดู [110] เวทนา 2; [111] เวทนา 3; [112] เวทนา 5; [113] เวทนา 6. 3. สัญญาขันธ์ ดู [271] สัญญา 6. 4. สังขารขันธ์ ดู [119] สังขาร 3; [120] สังขาร 3; [129] อภิสังขาร 3; [263] เจตนา 6. 5. วิญญาณขันธ์ ดู [268] วิญญาณ 6. นอกนี้ ดู [356] จิตต์ 89; [355] เจตสิก 52
[***] คติ 5 ดู [351] ภูมิ 4 หรือ 31.
1. อบายภูมิ 4 (ภูมิที่ปราศจากความเจริญ planes of loss and woe; unhappy planes) 1) นิรยะ (นรก woeful state; hell) 2) ติรัจฉานโยนิ (กำเนิดดิรัจฉาน animal kingdom) 3) ปิตติวิสัย (แดนเปรต ghost-sphere) 4) อสุรกาย (พวกอสูร host of demons) 2. กามสุคติภูมิ 7 (กามาวจรภูมิที่เป็นสุคติ, ภูมิที่เป็นสุคติซึ่งยังเกี่ยวข้องกับกาม sensuous blissful planes) 1) มนุษย์ (ชาวมนุษย์ human realm) 2) จาตุมมหาราชิกา (สวรรค์ชั้นที่ท้าวมหาราช 4 ปกครอง realm of the Four Great Kings) 3) ดาวดึงส์ (แดนแห่งเทพ 33 มีท้าวสักกะเป็นใหญ่ realm of the Thirty-three Gods) 4) ยามา (แดนแห่งเทพผู้ปราศจากความทุกข์ realm of the Yama gods) 5) ดุสิต (แดนแห่งเทพผู้เอิบอิ่มด้วยสิริสมบัติของตน realm of satisfied gods) 6) นิมมานรดี (แดนแห่งเทพผู้ยินดีในการเนรมิต realm of the gods who rejoice in their own creations) 7) ปรนิมมิตวสวัตดี (แดนแห่งเทพผู้ยังอำนาจให้เป็นไปในสมบัติที่ผู้อื่นนิรมิตให้ realm of gods who lord over the creation of others) ภูมิทั้ง 11 ใน 2 หมวดนี้ รวมเป็น กามาวจรภูมิ 11 (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในกาม sensuous planes) 3. รูปาวจรภูมิ 16 (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูป, ชั้นรูปพรหม form-planes) ก. ปฐมฌานภูมิ 3 (ระดับปฐมฌาน first-Jhana planes) 1) พรหมปาริสัชชา (พวกบริษัทบริวารมหาพรหม realm of great Brahmas attendants) 2) พรหมปุโรหิตา (พวกปุโรหิตมหาพรหม realm of great Brahmas ministers) 3) มหาพรหม (พวกท้าวมหาพรหม realm of great Brahmas) ข. ทุติยฌานภูมิ 3 (ระดับทุติยฌาน second-Jhana planes) 4) ปริตตาภา (พวกมีรัศมีน้อย realm of Brahmas with limited lustre) 5) อัปปมาณาภา (พวกมีรัศมีประมาณไม่ได้ realm of Brahmas with infinite lustre) 6) อาภัสสรา (พวกมีรัศมีสุกปลั่งซ่านไป realm of Brahmas with radiant lustre) ค. ตติยฌานภูมิ 3 (ระดับตติยฌาน third-Jhana planes) 7) ปริตตสุภา (พวกมีลำรัศมีงามน้อย realm of Brahmas with limited aura) 8) อัปปมาณสุภา (พวกมีลำรัศมีงามประมาณหามิได้ realm of Brahmas with infinite aura) 9) สุภกิณหา (พวกมีลำรัศมีงามกระจ่างจ้า realm of Brahmas with steady aura) ง. จตุตถฌานภูมิ 37 (ระดับจตุตถฌาน fourth-Jhana planes) 10) เวหัปผลา (พวกมีผลไพบูลย์ realm of Brahmas with abundant reward) 11) อสัญญีสัตว์ (พวกสัตว์ไม่มีสัญญา realm of non-percipient beings) (*) สุทธาวาส 5 (พวกมีที่อยู่อันบริสุทธิ์ หรือ ที่อยู่ของท่านผู้บริสุทธิ์ คือ ที่เกิดของพระอนาคามี pure abodes) คือ 12) อวิหา (เหล่าท่านผู้ไม่เสื่อมจากสมบัติของตน หรือผู้ไม่ละไปเร็ว, ผู้คงอยู่นาน realm of Brahmas who do not fall from prosperity) 13) อตัปปา (เหล่าท่านผู้ไม่ทำความเดือดร้อนแก่ใคร หรือผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร realm of Brahmas who are serene) 14) สุทัสสา (เหล่าท่านผู้งดงามน่าทัศนา realm of Brahmas who are beautiful) 15) สุทัสสี (เหล่าท่านผู้มองเห็นชัดเจนดี หรือผู้มีทัศนาแจ่มชัด realm of Brahmas who are clear-sighted) 16) อกนิฏฐา (เหล่าท่านผู้ไม่มีความด้อยหรือเล็กน้อยกว่าใคร, ผู้สูงสุด realm of the highest or supreme Brahmas) 4. อรูปาวจรภูมิ 4 (ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในอรูป, ชั้นอรูปพรหม formless planes) 1) อากาสานัญจายตนภูมิ (ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีอากาศไม่มีที่สุด realm of infinite space) 2) วิญญาณัญจายตนภูมิ (ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีวิญญาณไม่มีที่สุด realm of infinite consciousness) 3) อากิญจัญญายตนภูมิ (ชั้นที่เข้าถึงภาวะไม่มีอะไร realm of nothingness) 4) เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ (ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ realm of neither perception nor non-perception) ปุถุชน พระโสดาบัน และพระสกทาคามี ย่อมไม่เกิดในสุทธาวาสภูมิ; พระอริยะไม่เกิดในอสัญญีภพ และในอบายภูมิ; ในภูมินอกจากนี้ ย่อมมีทั้งพระอริยะ และมิใช่อริยะไปเกิด. ในพระไตรปิฎก ไม่พบที่ใดแสดงรายชื่อภูมิทั้งหลายไว้ทั้งหมดในที่เดียว บาลีแสดงรายชื่อภูมิมากที่สุด (มีเฉพาะชั้นสุคติภูมิ) พบที่ ม.อุ. 14/318-332/216-225 (M.III. 99-103) กล่าวตั้งแต่มนุษย์ขึ้นไปจนถึงอรูปาวจรภูมิ. ในบาลีแห่งทีฆนิกาย เป็นต้น* แสดงคติ (ที่ไปเกิดของสัตว์, แบบการดำเนินชีวิต destiny; course of existence) ว่ามี 5 คือ นิรยะ ติรัจฉานโยนิ เปตติวิสัย มนุษย์ และเทพ (พวกเทพ heavenly world ได้แก่ภูมิ 26 ตั้งแต่จาตุมหาราชิกาขึ้นไปทั้งหมด) จะเห็นว่าภูมิ 31 สงเคราะห์ลงได้ในคติ 5 ทั้งหมด ขาดแต่อสุรกาย อย่างไรก็ดีในอรรถกถาแห่งอิติวุตตกะ** ท่านกล่าวว่า อสูร สงเคราะห์ลงในเปตตวิสัยด้วย จึงเป็นอันสงเคราะห์ลงได้บริบูรณ์ และในคติ 5 นั้น 3 คติแรกจัดเป็นทุคติ (woeful courses) 2 คติหลังเป็นสุคติ (happy courses). * ที.ปา. 11/281/246; ม.มู 12/170/148; องฺ.นวก. 23/272/450 (D.III.234; M.I.73; A.IV.459) ** อุ.อ. 174; อิติ.อ. 168 (approx., UdA.140; ItA.101) อนึ่ง พึงเทียบภูมิ 4 หรือ ภูมิ 31 ข้อนี้ กับ [162] ภูมิ 4 ที่มาในพระบาลีด้วย กล่าวคือ ภูมิ 4 หรือ 31 ชุดนี้ จัดเข้าในภูมิ 3 ข้อต้นใน [162] ภูมิ 4 ดังนี้ อบายภูมิ 4 และกามสุคติภูมิ 7 รวมเข้าเป็นกามาวจรภูมิ (11) ส่วนรูปาวจรภูมิ (16) และ อรูปาวจรภูมิ (4) ตรงกัน รวมภูมิทั้งหมด 31 นี้ เป็นโลกียภูมิ พ้นจากนี้ไปเป็นโลกุตตรภูมิ ดู [162] ภูมิ 4; [198] อบาย 4; [207] อรูป 4; [270] สวรรค์ 6.
|
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=คติ_5&detail=on
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%A4%B5%D4_5&detail=on
บันทึก ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗, ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๓๕, พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]