บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
สามปี สี่ปี ชื่อการนับปี ชื่อ อเนกวสฺสคณิโก เพราะอรรถว่าปีนั้นเกิดขึ้นแล้วนับได้หลายปี. บทว่า ตสฺสสฺสุ ตัดบทเป็น ตสฺส ภเวยฺยุํ แปลว่า พึงมีแก่ฝีนั้น. บทว่า อเภทนมุขานิ ความว่า มิใช่แตกเพราะถูกคนใดคนหนึ่งทำแล้ว แต่เป็นปากแผลที่เกิดแต่กรรมอย่างเดียวแท้ๆ. บทว่า เชคุจฺฉิยํเยว ได้แก่ น่าเกลียดคือเป็นของปฏิกูลทั้งนั้น. บทว่า จาตุมฺมหาภูติกสฺส ได้แก่ กายสำเร็จด้วยมหาภูตรูป ๔. บทว่า โอทนกุมฺมาสุปจยสฺส ได้แก่ กายสะสม คือเจริญเติบโตแล้วด้วยข้าวสุกและขนมสด. บทว่า อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺส ความว่า มีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา ด้วยอรรถว่ามีแล้วไม่มี. มีการปกปิดเป็นธรรมดาด้วยการลูบไล้ เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็น มีการนวดฟั้นเป็นธรรมดา ด้วยแขนเพื่อบรรเทาความเจ็บไข้ที่อังคาพยพน้อยใหญ่. อีกอย่างหนึ่ง ในเวลาเป็นหนุ่มมีการนวดฟั้นเป็นธรรมดา ด้วยการทายาและบีบเป็นต้น เพื่อให้อวัยวะน้อยใหญ่เหล่านั้นๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ดี สมบูรณ์ด้วยการให้นอนบนขาทั้งสองอยู่ในห้อง ก็มีความแตกกระจัดกระจายเป็นสภาพ ก็ในข้อนี้ ท่านกล่าวความดับแห่งกายนั้น ด้วยบทว่าไม่เที่ยง และด้วยบทว่าแตกและทำลาย. ท่านกล่าวความเกิดด้วยบทที่เหลือ. บทว่า นิพฺพินทถ ท่านแสดงว่า เธอทั้งหลายจงระอา คือละทิ้งกายนี้เสียเถิดดังนี้. ในสูตรนี้ ท่านกล่าวถึงวิปัสสนามีกำลังด้วยประการฉะนี้. จบอรรถกถาคัณฑสูตรที่ ๕ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ สีหนาทวรรคที่ ๒ ๕. คัณฑสูตร จบ. |