พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์


: ค้นหาพระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ :


413 พิธีอุทยคามินีของพราหมณ์

ปัญหา นายคามณี อสิพันธกบุตรกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า นิครนถ์นาฏบุตรสอนว่า ใครก็ตามที่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม และพูดเท็จ จะต้องเข้าถึงอบายและนรกอย่างแน่นอน กรรมใดที่คนทำเป็นส่วนมากจนเป็นนิสัย จะนำเขาเข้าสู่นรก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นอย่างไร?

พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนนายคามณี นิครนถ์นาฏบุตรแสดงธรรมแก่พวกสาวกว่า กรรมใดมาก กรรมนั้นย่อมนำบุคคลไป เมื่อเป็นเช่นนั้น จักไม่มีใครไปอบาย ตกนรกตามคำของนิครนถ์นาฏบุตร
“ดูก่อนนายคามณี ท่านจะเป็นความข้อนั้นเป็นอย่างไร บุรุษผู้ฆ่าสัตว์ ถือเอาของที่เขามิได้ให้ ประพฤติผิดในกาม เป็นผู้กล่าวเท็จ ในกลางคืนก็ดี ในกลางวันก็ดี รวมทั้งสมัยและมิใช่สมัยก็ดี เวลาไหนมากกว่า? เวลาฆ่าสัตว์ หรือเวลาไม่ฆ่าสัตว์?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาที่เขาฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จน้อยกว่า เวลาที่เขาไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดประเวณี ไม่พูดเท็จมากกว่าโดยแท้”
“ดูก่อนนายคามณี เมื่อเป็นเช่นนี้จักไม่มีใครไปสู่อบาย ตกนรกตามคำของนิครนถ์นาฏบุตรที่ว่ากรรมใด ๆ มีมาก เขาจักถูกกรรมนั้นนำไป....
“ดูก่อนนายคามณี ส่วนพระตถาคตอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ทรงตำหนิการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม และพูดเท็จ และตรัสว่า จงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ โดยอเนกปริยายสาวกผู้เลื่อมใสในพระศาสดานั้น ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคทรงตำหนิปาณาติบาต และตรัสว่า จงเว้นจากปาณาติบาต สัตว์ที่เราฆ่ามีอยู่มากมาย ข้อนั้นไม่ดีไม่งาม เราพึงเดือดร้อนเพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย บาปกรรมนั้นจักเป็นอันยกเลิกไม่ได้ เขาพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมละปาณาติบาตนั้นด้วย ย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตต่อไปด้วย เป็นอันว่าเขาละบาปกรรมก้าวล่วงบาปกรรมได้ด้วยประการอย่างนี้”

อสังทสูตร สฬา. สํ. (๖๐๘-๖๑๘)
ตบ. ๑๘ : ๓๙๐-๓๙๙ ตท. ๑๘ : ๓๔๗-๓๕๒
ตอ. K.S. ๔ : ๒๒๓-๒๒๗

<หน้าก่อน<<< สารบัญ >>>หน้าถัดไป>

:: อธิบายอักษรย่อแหล่งอ้างอิง ::
:: ค้นหาความหมายของศัพท์ จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ::


: ถ้าหน้านี้มีการพิมพ์ผิดขอความกรุณาส่งข้อความถึง webmaster :