389 ถ้าไม่ระวังจะตกเป็นทางของอายตนะ
ปัญหา ภิกษุที่ไม่สังวรระวังอาตยนะ ย่อมตกเป็นทาสของอายตนะอย่างไร
?
พุทธดำรัสตอบ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งไม่ได้อบรมไม่ได้พัฒนากายคตาสติ
จักษุย่อมฉุดภิกษุนั้นไปในรูปอันเป็นที่พึงพอใจ...หูย่อมฉุดภิกษุนั้นไปในเสียงอันเป็นที่พอใจ....
จมูกย่อมฉุดไปในกลิ่นอันน่าพอใจ ลิ้นย่อมฉุดไปในรสอันน่าพอใจ
กายย่อมฉุดไปในโผฏฐัพพะอันน่าพอใจ ใจย่อมฉุดไปในธรรมารมณ์อันน่าพอใจรูป...
เสียง... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ...ธรรมารมณ์ อันไม่น่าพอใจ
ย่อมเป็นของปฏิกูล เปรียบเหมือนบุรุษจับสัตว์ ๖ ชนิด ซึ่งมีวิสัยต่างหาก
มีโคจรต่างกัน แล้วผูกด้วยเชือกอันเหนียวแน่น คือ จับงู
จระเข้ นก สุนัขบ้าน สุนัขจิ้งจอก ลิง แล้วผูกด้วยเชือกอันเหนียวแน่น
ครั้นแล้วพึงขมวดปมไว้ตรงกลาง ปล่อยไป...
ทีนั้นแล สัตว์ทั้ง ๖ ชนิด ซึ่งมีวิสัยต่างกัน มีโคจรต่างกัน
พึงดึงไปหาโคจรและวิสัยของตนๆ งูพึงดึงด้วยคิดว่าเราจักเข้าไปสู่จอมปลวก
จระเข้พึงดึงด้วยคิดว่าจักลงน้ำ นกพึงดึงด้วยคิดว่าเราจักบินขึ้นสู่อากาศ
สุนัขบ้านพึงดึงด้วยคิดว่าเราจักเข้าบ้าง สุนัขจิ้งจอกพึงดึงด้วยคิดว่าเราจักเข้าสู่ป่าช้า
ลิงพึงดึงด้วยคิดว่า เราจักเข้าไปสู่ป่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแลสัตว์ ๖ ชนิดเหล่านั้น ต่างก็จะไปตามวิสัยของจน
ๆ พึงลำบาก เมื่อนั้น บรรดาสัตว์เหล่านั้น สัตว์ใดมีกำลังกว่าสัตว์ทั้งหลาย
สัตว์เหล่านั้นพึงอนุวัตรคล้อยตามไปสู่กำลังแห่งสัตว์นั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้เห็นรูปด้วยจักษุ
ฟังเสียงด้วยหู ดมกลิ่นด้วยจมูก ลิ้มรสด้วยลิ้น ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ย่อมไม่น้อมใจไปใน รูป... เสียง...
กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ...ธรรมารมณ์ อันน่ารัก เป็นผู้เข้าไปตั้งกายคตาสติไว้
มีใจหาขอบเขตมิได้ ย่อมรู้ชัดซึ่งเจโตวิมุต ปัญญาวิมุต อันเป็นที่ดับไปอย่างสิ้นเชิง
แห่งอกุศลกรรมอันลามกเหล่านั้น อันบังเกิดขึ้นแก่เธอตามความเป็นจริง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษจับสัตว์ ๖ ชนิด
ซึ่งวิสัยต่างกันแล้วผูกด้วยเชือกเหนียวแน่น ครั้นแล้วพึงผูกไว้ที่หลักหรือเสาอันมั่นคง
เมื่อนั้นสัตว์เหล่านั้นพึงยืนแนบ นั่งแนบ นอนแนบหลักหรือเสานั่นเอง
คำว่าเสาหรือหลักเป็นชื่อของกายคตาสติเพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่ากายคตาสติ
เราทั้งหลายจักอบรม กระทำให้มาก กระทำให้เป็นยานพาหนะ กระทำให้เป็นที่ตั้งให้มั่นคง
สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล
ฉัปปาณสูตร สฬา. สํ. (๓๔๘-๓๕๐)
ตบ. ๑๘ : ๒๔๖-๒๔๙ ตท. ๑๘ : ๒๓๐-๒๓๒
ตอ. K.S. ๔ : ๑๓๐-๑๓๒
<หน้าก่อน<<<
สารบัญ >>>หน้าถัดไป>
::
อธิบายอักษรย่อแหล่งอ้างอิง ::
:: ค้นหาความหมายของศัพท์ จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ::