ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๘ ปริวาร
ปริยายวาร ที่ ๖
[๘๘๔] วิวาทาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? มีฐานเท่าไร? มีวัตถุเท่าไร? มีภูมิเท่าไร มีเหตุเท่าไร? มีมูลเท่าไร? ภิกษุวิวาทกันด้วยอาการเท่าไร? วิวาทาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะ เท่าไร? อนุวาทาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? มีฐานเท่าไร? มีวัตถุเท่าไร? มีภูมิเท่าไร? มีเหตุเท่าไร? มีมูลเท่าไร? ภิกษุโจทด้วยอาการเท่าไร? อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะเท่าไร? อาปัตตาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? มีฐานเท่าไร? มีวัตถุเท่าไร? มีภูมิเท่าไร? มีเหตุเท่าไร? มีมูลเท่าไร? ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการเท่าไร? อาปัตตาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ เท่าไร? กิจจาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? มีฐานเท่าไร? มีวัตถุเท่าไร? มีภูมิเท่าไร? มีเหตุ เท่าไร? มีมูลเท่าไร? กิจเกิดด้วยอาการเท่าไร? กิจจาธิกรณ์ย่อมระงับด้วยสมถะเท่าไร? [๘๘๕] ถามว่า วิวาทาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? ตอบว่า มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นประธาน มีความไม่โลภ ความ ไม่โกรธ ความไม่หลง เป็นประธาน. ถ. มีฐานเท่าไร? ต. มีฐาน คือ เรื่องทำความแตกร้าวกัน ๑๘. ถ. มีวัตถุเท่าไร? ต. มีวัตถุทำความแตกร้าวกัน ๑๘. ถ. มีภูมิเท่าไร? ต. มีภูมิ คือ วัตถุทำความแตกร้าวกัน ๑๘. ถ. มีเหตุเท่าไร? ต. มีเหตุ ๙ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓. ถ. มีมูลเท่าไร? ต. มีมูล ๑๒. ถ. ภิกษุวิวาทกันด้วยอาการเท่าไร? ต. ภิกษุวิวาทกันด้วยอาการ ๒ คือ เห็นว่าเป็นธรรม ๑ เห็นว่าไม่เป็นธรรม ๑. ถ. วิวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะเท่าไร? ต. วิวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ ๒ คือ ด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยเยภุยยสิกา ๑ [๘๘๖] ถามว่า อนุวาทาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? ตอบว่า มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นประธาน มีความไม่โลภ ความ ไม่โกรธ ความไม่หลง เป็นประธาน. ถ. มีฐานเท่าไร? ต. มีฐาน คือ วิบัติ ๔. ถ. มีวัตถุเท่าไร? ต. มีวัตถุ คือ วิบัติ ๔. ถ. มีภูมิเท่าไร? ต. มีภูมิ คือ วิบัติ ๔. ถ. มีเหตุเท่าไร? ต. มีเหตุ ๙ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓. ถ. มีมูลเท่าไร? ต. มีมูล ๑๔. ถ. ภิกษุโจทด้วยอาการเท่าไร? ต. ภิกษุโจทด้วยอาการ ๒ คือ ด้วยวัตถุ ๑ ด้วยอาบัติ ๑. ถ. อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะเท่าไร? ต. อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ ๔ คือ ด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยสติวินัย ๑ ด้วย อมูฬหวินัย ๑ ด้วยตัสสปาปิยสิกา ๑. [๘๘๗] ถามว่า อาปัตตาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? ตอบว่า มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นประธาน มีความไม่โลภ ความ ไม่โกรธ ความไม่หลง เป็นประธาน. ถ. มีฐานเท่าไร? ต. มีฐาน คือ กองอาบัติ ๗. ถ. มีวัตถุเท่าไร? ต. มีวัตถุ คือ กองอาบัติ ๗. ถ. มีภูมิเท่าไร? ต. มีภูมิ คือ กองอาบัติ ๗. ถ. มีเหตุเท่าไร? ต. มีเหตุ ๙ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓. ถ. มีมูลเท่าไร? ต. มีมูล คือ สมุฏฐานอาบัติ ๖. ถ. ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการเท่าไร? ต. ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ ๖ คือ ไม่ละอาย ๑ ไม่รู้ ๑ สงสัยแล้วขืนทำ ๑ สำคัญว่าควรในของไม่ควร ๑ สำคัญว่าไม่ควรในของควร ๑ ลืมสติ ๑. ถ. อาปัตตาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะเท่าไร? ต. อาปัตตาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ ๓ คือ ด้วยสัมมุขาวินัย ๑ ด้วยปฏิญญาตกรณะ ๑ ด้วยติณวัตถารกะ ๑. [๘๘๘] ถามว่า กิจจาธิกรณ์มีอะไรเป็นประธาน? ตอบว่า มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นประธาน มีความไม่โลภ ความ ไม่โกรธ ความไม่หลง เป็นประธาน. ถ. มีฐานเท่าไร? ต. มีฐาน คือ กรรม ๔. ถ. มีวัตถุเท่าไร? ต. มีวัตถุ คือ กรรม ๔. ถ. มีภูมิเท่าไร? ต. มีภูมิ คือ กรรม ๔. ถ. มีเหตุเท่าไร? ต. มีเหตุ ๙ คือ กุศลเหตุ ๓ อกุศลเหตุ ๓ อัพยากตเหตุ ๓. ถ. มีมูลเท่าไร? ต. มีมูล ๑ คือ สงฆ์. ถ. กิจเกิดด้วยอาการเท่าไร? ต. กิจเกิดด้วยอาการ ๒ คือ ด้วยญัตติ ๑ ด้วยอปโลกน์. ๑ ถ. กิจจาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะเท่าไร? ต. กิจจาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะอย่างหนึ่ง คือ ด้วยสัมมุขาวินัย. [๘๘๙] ถามว่าสมถะ มีเท่าไร? ตอบว่า สมถะมี ๗ คือ สัมมุขาวินัย สติวินัย อมูฬหวินัย ปฏิญญาตกรณะ เยภุยยสิกา ตัสสปาปิยสิกา ติณวัตถารกะ สมถะมี ๗ เหล่านี้. ถ. บางทีสมถะ ๗ เหล่านี้ เป็นสมถะ ๑๐ สมถะ ๑๐ เป็นสมถะ ๗ ด้วยอำนาจ วัตถุโดยปริยาย หรือ? ต. บางทีเป็นได้ ก็บางทีเป็นได้อย่างไร? คือ วิวาทาธิกรณ์มีสมถะ ๒ อนุวาทาธิกรณ์ มีสมถะ ๔ อาปัตตาธิกรณ์มีสมถะ ๓ กิจจาธิกรณ์มีสมถะ ๑ อย่างนี้ที่สมถะ ๗ เป็นสมถะ ๑๐ สมถะ ๑๐ เป็นสมถะ ๗ ด้วยอำนาจวัตถุโดยปริยาย.
ปริยายวารที่ ๖ จบ
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๖๗๔๙-๖๘๔๐ หน้าที่ ๒๕๗-๒๖๐. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=6749&Z=6840&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=68              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=884              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [884-889] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=8&item=884&items=6              The Pali Tipitaka in Roman :- [884-889] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=8&item=884&items=6              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ https://84000.org/tipitaka/read/?index_8              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr5/en/brahmali# https://suttacentral.net/pli-tv-pvr5/en/horner-brahmali

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :