ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๘ ปริวาร
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท
[๔๗๓] พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสส เพราะปัจจัยคือพยายามปล่อยอสุจิ ณ ที่ไหน ทรงปรารภใคร เพราะเรื่อง อะไร ... ใครนำมา.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๔.

คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑
ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัยคือ พยายามปล่อยอสุจิ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระเสยยสกะ. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระเสยยสกะ พยายามปล่อยอสุจิ. ถ. ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น มีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปันนบัญญัติ หรือ? ต. มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ อนุปันนบัญญัติไม่มี ในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น. ถ. มีสัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ หรือ? ต. มีแต่สัพพัตถบัญญัติ. ถ. มีสาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ หรือ? ต. มีแต่อสาธารณบัญญัติ. ถ. มีเอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติ หรือ? ต. มีแต่เอกโตบัญญัติ. ถ. บรรดาปาติโมกขุทเทศ ๕ สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้นจัดเข้าในอุเทศไหน? นับเนื่องในอุเทศไหน? ต. จัดเข้าในนิทาน นับเนื่องในนิทาน. ถ. มาสู่อุเทศโดยอุเทศที่เท่าไร? ต. มาสู่อุเทศโดยอุเทศที่ ๓. ถ. บรรดาวิบัติ ๔ เป็นวิบัติอย่างไหน? ต. เป็นศีลวิบัติ. ถ. บรรดาอาบัติ ๗ กอง เป็นอาบัติกองไหน? ต. เป็นอาบัติกองสังฆาทิเสส. ถ. บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ นั้น เกิดด้วยสมุฏฐาน เท่าไร?

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๕.

ต. เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา ... ถ. ใครนำมา? ต. พระเถระทั้งหลายนำสืบๆ กันมา.
รายนามพระเถระผู้ทรงพระวินัย
พระเถระเหล่านี้ คือ พระอุบาลี พระทาสกะ พระโสณกะ พระสิคควะ รวมเป็นห้า ทั้งพระโมคคัลลีบุตร นำพระวินัยมาในทวีป ชื่อว่าชมพูมีสิริ. แต่นั้น พระเถระผู้ ประเสริฐ ผู้มีปัญญามากเหล่านี้ คือ พระมหินทะ ๑ พระอิฏฏิยะ ๑ พระอุตติยะ ๑ พระสัมพละ ๑ ... พระเถระผู้ประเสริฐ มีปัญญามากเหล่านี้ รู้พระวินัยฉลาดในมรรคา ได้ประกาศพระวินัยปิฎกไว้ในเกาะตามพปัณณิ.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒
[๔๗๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัยคือถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับมาตุคาม ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับมาตุคาม. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓
[๔๗๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัยคือพูดเคาะมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๖.

ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีพูดเคาะมาตุคาม ด้วยวาจาชั่วหยาบ. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ คือ บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย บางทีเกิดแต่กาย วาจา และจิต.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔
[๔๗๖] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ กล่าวคุณแห่งการบำเรอตนด้วยกามในสำนัก มาตุคาม ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายี กล่าวคุณแห่งการบำเรอตนด้วยกามในสำนักมาตุคาม. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๕
[๔๗๗] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ถึงความเป็นผู้เที่ยวชักสื่อ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีถึงความเป็นผู้เที่ยวชักสื่อ. มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วย สมุฏฐาน ๖ คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่วาจา มิใช่กาย มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย บางทีเกิดแต่กายวาจาและจิต.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๗.

คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๖
[๔๗๘] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ให้ทำกุฎีด้วยอาการขอเอาเอง ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ เมืองอาฬวี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภภิกษุชาวเมืองอาฬวี. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุชาวเมืองอาฬวี ให้ทำกุฎีด้วยอาการขอเอาเอง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗
[๔๗๙] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ให้ทำวิหารใหญ่ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระฉันนะ. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระฉันนะแผ้วถางพื้นที่วิหาร ได้สั่งให้ตัดต้นไม้ที่เขาสมมติว่า เป็นเจดีย์ต้นหนึ่ง. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๘
[๔๘๐] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือความกำจัดภิกษุ ด้วยธรรมมีโทษถึงปาราชิก อันหามูลมิได้ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๘.

ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่พระเมตติยะและพระภุมมชกะ ตามกำจัดท่านพระทัพพมัลลบุตร ด้วยธรรมมีโทษถึงปาราชิกอันหามูลมิได้. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๙
[๔๘๑] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ถือเอาเอกเทศบางอย่างแห่งอธิกรณ์อันเป็น เรื่องอื่น ให้เป็นเพียงเลส ตามกำจัดภิกษุด้วยธรรมอันมีโทษถึงปาราชิก ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่พระเมตติยะ และพระภุมมชกะถือเอาเอกเทศบางอย่างแห่งอธิกรณ์ อันเป็นเรื่องอื่น ให้เป็นเพียงเลส ตามกำจัดท่านพระทัพพมัลลบุตร ด้วยธรรมอันมีโทษถึง ปาราชิก. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๐
[๔๘๒] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ไม่สละกรรมเพราะสวด สมนุภาสน์ครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภพระเทวทัต. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่พระเทวทัตต์เกียกตะกายเพื่อทำลายสงฆ์ ผู้พร้อมเพรียงกัน.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๒๙.

มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๑
[๔๘๓] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ภิกษุผู้ประพฤติตามภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ผู้ไม่ สละกรรม เพราะสวดสมนุภาสน์ครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปได้ประพฤติตาม เข้าพวกพระเทวทัตผู้ตะเกียกตะกาย เพื่อทำลายสงฆ์. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแก่กาย วาจา และจิต.
คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๒
[๔๘๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือ ภิกษุผู้ว่ายาก ไม่สละกรรมเพราะสวด สมนุภาสน์ครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครโกสัมพี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภท่านพระฉันนะ. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระฉันนะ อันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่โดยชอบธรรม ได้ทำตน ให้เป็นผู้อันใครๆ ว่ากล่าวไม่ได้. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต.

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๑๓๐.

คำถามและคำตอบในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓
[๔๘๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะปัจจัย คือภิกษุผู้ประทุษร้ายสกุล ไม่สละกรรมเพราะ สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ จบ ณ ที่ไหน? ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี. ถ. ทรงปรารภใคร? ต. ทรงปรารภภิกษุพวกพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะ. ถ. เพราะเรื่องอะไร? ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุพวกพระอัสสชิ และพระปุนัพพสุกะถูกสงฆ์ลงปัพพาชนียกรรม แล้วกลับหาว่า ภิกษุทั้งหลายถึงความพอใจ ถึงความขัดเคือง ถึงความหลง ถึงความกลัว. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือเกิดแต่กาย วาจา และจิต ...

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ บรรทัดที่ ๓๒๕๖-๓๔๒๘ หน้าที่ ๑๒๓-๑๓๐. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=3256&Z=3428&pagebreak=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=32              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=473              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [473-485] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=8&item=473&items=13              The Pali Tipitaka in Roman :- [473-485] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=8&item=473&items=13              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ https://84000.org/tipitaka/read/?index_8              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.9/en/brahmali#pli-tv-pvr1.9:10.0 https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.9/en/horner-brahmali#Prv.1.9:Bu-Pj.4

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :