ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๙. มัฏฐกุณฑลีวิมาน
ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในมัฏฐกุณฑลีวิมาน
[๘๓] พราหมณ์ถามเทพบุตรนั้นว่า ท่านประดับแล้ว มีต่างหูอันเกลี้ยง ทัดทรงดอกไม้ มีตัวลูบไล้ด้วย จันทน์แดง ประคองแขนทั้งสองข้างคร่ำครวญอยู่ในป่าช้า ท่านเป็น ทุกข์ถึงอะไรเล่า? มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรตอบว่า เรือนรถทำด้วยทองคำงามผุดผ่อง เกิดขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าหาคู่ล้อ ของรถนั้นยังไม่ได้ ข้าพเจ้าจักสละชีวิตเพราะความทุกข์นั้น. พราหมณ์กล่าวว่า ดูกรมาณพผู้เจริญ ท่านอยากได้คู่ล้อทำด้วยทองคำ ทำด้วยแก้ว ทำด้วย ทองแดง หรือทำด้วยเงิน ขอจงบอกแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ท่านได้คู่ ล้อนั้น. มาณพตอบแก่พราหมณ์นั้นว่า พระจันทร์อาทิตย์ ย่อมปรากฏในวิถีทั้งสอง รถของข้าพเจ้าทำด้วยทองคำ ย่อมงามด้วยคู่ล้อนั้น. พราหมณ์กล่าวว่า ดูกรมาณพ ท่านเป็นคนโง่ ที่ท่านมาปรารถนา สิ่งที่ไม่ควรปรารถนา ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านจักตาย จักไม่ได้พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง เลย. มาณพกล่าวว่า แม้การไปและการมาของพระจันทร์ และพระอาทิตย์ยังปรากฏอยู่ รัศมี ของพระจันทร์และพระอาทิตย์นั้น ยังปรากฏอยู่ในวิถีทั้งสอง ส่วนคน ที่ตายล่วงลับไปแล้วย่อมไม่ปรากฏ เราทั้งสองคร่ำครวญอยู่ในที่นี้ ใครจะ โง่กว่ากัน. พราหมณ์กล่าวว่า ดูกรมาณพ ท่านพูดจริง เราทั้งสองคนผู้คร่ำครวญอยู่ ข้าพเจ้าเองเป็น คนโง่กว่า เพราะข้าพเจ้าอยากได้บุตรที่ตายไปแล้ว เหมือนทารกร้องไห้ อยากได้พระจันทร์ฉะนั้น ท่านมารดข้าพเจ้าผู้เร่าร้อนให้สงบ ยังความกระ- วนกระวายทั้งปวงให้ดับเหมือนบุคคลดับไฟ ที่ลาดเปรียงด้วยน้ำฉะนั้น ลูกศรคือความโศกอันเสียบแทงหทัยของข้าพเจ้า อันท่านผู้บรรเทาความ โศกถึงบุตรแก่ข้าพเจ้า ผู้ถูกความโศกครอบงำแล้ว ถอนขึ้นแล้ว ดูกร- มาณพ ข้าพเจ้าเป็นผู้มีลูกศรคือความโศก อันท่านถอนขึ้นแล้ว เป็น ผู้เย็น ดับสนิท จะไม่เศร้าโศก ไม่ร้องไห้ เพราะฟังคำของท่าน ท่าน เป็นเทวดา เป็นคนธรรพ์ หรือเป็นท้าวสักกปุรินททะ ท่านเป็นใคร หรือเป็นบุตรของใคร ไฉนข้าพเจ้าจะรู้จักท่านเล่า? มาณพกล่าวว่า ท่านเผาบุตรที่ป่าช้าเองแล้ว คร่ำครวญร้องไห้ถึงบุตรคนใดบุตรคนนั้นคือ ข้าพเจ้า ทำกุศลกรรมแล้ว ถึงความเป็นสหายของเทพเจ้าชาวไตรทศ. พราหมณ์ถามว่า เมื่อท่านให้ทานน้อยหรือมากในเรือนของตน หรือรักษาอุโบสถกรรม- เช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่เคยเห็น ท่านไปสู่เทวโลกได้เพราะกรรมอะไร? มาณพกล่าวว่า เมื่อข้าพเจ้าป่วยเป็นไข้ได้รับทุกข์ มีกายกระสับกระส่ายอยู่ในที่อยู่ของ- ตน ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี ผู้ข้ามพ้นความสงสัย ผู้เสด็จไปดีแล้ว มีพระปัญญาไม่ทราม ข้าพเจ้ามีใจเบิกบานเลื่อมใส ได้ ทำอัญชลีแด่พระตถาคต ข้าพเจ้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชาวไตรทศ เพราะทำกุศลกรรมนั้น. พราหมณ์กล่าวว่า น่าอัศจรรย์หนอ ไม่เคยมีมาแล้วหนอ ผลของอัญชลีกรรมเป็นได้ถึงเช่นนี้ ถึงข้าพเจ้าก็มีใจเบิกบานเลื่อมใส ขอถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งในวันนี้ ทีเดียว. มาณพกล่าวว่า ขอท่านจงมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็น ที่พึ่งในวันนี้ทีเดียว อนึ่ง ท่านจงสมาทานสิกขาบท ๕ อย่าให้ขาดและ ด่างพร้อย คือ จงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์โดยพลัน จงเว้นการถือเอาสิ่งของ ที่เขามิได้ให้ในโลก จงยินดีด้วยภรรยาของตน อย่ากล่าวเท็จ อย่าดื่ม น้ำเมา. พราหมณ์กล่าวว่า ดูกรเทวดาผู้ควรบูชา ท่านเป็นผู้ปรารถนาประโยชน์ ปรารถนาสิ่งเกื้อกูล แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทำตามคำของท่าน ท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมอันยอดเยี่ยม และพระสงฆ์สาวก ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นนรเทพว่าเป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าของดเว้นจากการฆ่าสัตว์ โดยพลัน ของดเว้นการถือเอาสิ่งของที่เขามิได้ให้ในโลก ยินดีในภรรยา ของตน ไม่กล่าวเท็จ และไม่ดื่มน้ำเมา.
จบ มัฏฐกุณฑลีวิมานที่ ๙.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๒๗๐๕-๒๗๗๐ หน้าที่ ๑๑๑-๑๑๓. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=2705&Z=2770&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=2705&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=26&siri=83              ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=83              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=2817              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=30&A=7983              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=2817              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=30&A=7983              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกชองแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]