ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ยมกปกรณ์ ภาค ๒
พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๒
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จิตตยมก
อุทเทส
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๑. ปุคคลวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่ จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลัง ดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่ กำลังดับมีไหม (๖๓) * @เชิงอรรถ : @* ตัวเลข [๑] หมายถึงลำดับหัวข้อธรรม ส่วนตัวเลข (๖๓) หมายถึงข้อที่อธิบายในนิทเทสหน้า ๑๘ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๒] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๖๔)
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๓] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๖๕)
๔. อุปปาทวาร
[๔] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม (๖๖) [๕] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๖๗) [๖] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๖๘) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

๕. นิโรธวาร
[๗] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม (๖๙) [๘] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๗๐) [๙] จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๗๑)
๖. อุปปาทนิโรธวาร
[๑๐] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม (๗๒) [๑๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๗๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๓}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

[๑๒] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักดับ จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๗๔)
๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร
[๑๓] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๗๕)
๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร
[๑๔] จิตของบุคคลใดเกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม (๗๖)
๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร
[๑๕] จิตของบุคคลใดดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม (๗๗)
๑๐. อุปปันนุปปาทวาร
[๑๖] จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๔}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๑. ปุคคลวาร

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วมีไหม (๗๘) จิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๗๙)
๑๑. อตีตานาคตวาร
[๑๗] จิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคล นั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นก็ เคยเกิดใช่ไหม จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด แต่จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของบุคคล นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม จิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด แต่จิตของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตของ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๘๐)
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๑๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ เกิดแล้วใช่ไหม (๘๑)
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๑๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ ดับแล้วใช่ไหม (๘๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๕}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๒๐] จิตของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ บุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของบุคคลนั้น ล่วงไปทุกๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ บุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตของ บุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม (๘๓)
อุทเทสแห่งปุคคลวาร จบ
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๒. ธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๒๑] จิตใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับมีไหม (๘๔)
๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๒๒] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๕)
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๒๓] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๘๖)
๔. อุปปาทวาร
[๒๔] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๗) [๒๕] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๘๘) [๒๖] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๘๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๗}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

๕. นิโรธวาร
[๒๗] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๙๐) [๒๘] จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๙๑) [๒๙] จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๙๒)
๖. อุปปาทนิโรธวาร
[๓๐] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดเคยดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตใดไม่เคยดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๓) [๓๑] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดจักดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๔) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๘}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

[๓๒] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดจักดับ จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๙๕)
๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร
[๓๓] จิตใดกำลังเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดกำลังดับ จิตนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๙๖)
๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร
[๓๔] จิตใดเกิดอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม (๙๗)
๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร
[๓๕] จิตใดดับอยู่ จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม จิตใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม (๙๘)
๑๐. อุปปันนุปปาทวาร
[๓๖] จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดเคยเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๒. ธัมมวาร

จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๙๙) จิตใดเกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดจักเกิด จิตนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๑๐๐)
๑๑. อตีตานาคตวาร
[๓๗] จิตใดเคยเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดจักเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดไม่เคยเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๑๐๑)
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๓๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม (๑๐๒)
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๓๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับแล้วใช่ไหม (๑๐๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร

๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๔๐] จิตใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป ทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะ ที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป ทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นล่วงไป ทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม (๑๐๔)
อุทเทสแห่งธัมมวาร จบ
๑. สุทธจิตตสามัญญะ
๓. ปุคคลธัมมวาร
๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาร
[๔๑] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่ กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ แต่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด แต่กำลังดับมีไหม (๑๐๕) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร

๒. อุปปาทุปปันนวาร
[๔๒] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๑๐๖)
๓. นิโรธุปปันนวาร
[๔๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๑๐๗)
๔. อุปปาทวาร
[๔๔] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๑๐๘) [๔๕] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม (๑๐๙) [๔๖] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม (๑๑๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร

๕. นิโรธวาร
[๔๗] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๑๑๑) [๔๘] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๑๑๒) [๔๙] จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม (๑๑๓)
๖. อุปปาทนิโรธวาร
[๕๐] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม [๕๑] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม [๕๒] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร

๗. อุปปัชชมานนนิโรธวาร
[๕๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
๘. อุปปัชชมานุปปันนวาร
[๕๔] จิตใดของบุคคลใดเกิดอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดอยู่ใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม
๙. นิรุชฌมานุปปันนวาร
[๕๕] จิตใดของบุคคลใดดับอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ดับอยู่ใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่ดับอยู่ จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม
๑๐. อุปปันนุปปาทวาร
[๕๖] จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็เกิดแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เกิดแล้วใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๑. สุทธจิตตสามัญญะ ๓. ปุคคลธัมมวาร

๑๑. อตีตานาคตวาร
[๕๗] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้น ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดจักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว จิตนั้นของ บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่เคยเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้นของ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นมิใช่ไม่เกิดแล้ว จิตนั้น ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาร
[๕๘] จิตที่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าเกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าเกิดแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่เกิดอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ เกิดแล้วใช่ไหม
๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาร
[๕๙] จิตที่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าดับแล้วใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว ก็ชื่อว่าไม่ใช่ดับอยู่ใช่ไหม จิตที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าไม่ใช่ ดับแล้วใช่ไหม
๑๔. อติกกันตกาลวาร
[๖๐] จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น ของบุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้นของ บุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๒. สุตตันตจิตตมิสสกวิเสส

จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น ของบุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม จิตใดของบุคคลใดล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่ดับอยู่ ชื่อว่าล่วงกาลแล้ว จิตนั้น ของบุคคลนั้นล่วงไปทุกๆ ขณะที่ไม่ใช่เกิดอยู่ ก็ชื่อว่าล่วงกาลแล้วใช่ไหม
อุทเทสแห่งปุคคลธัมมวาร จบ
๒. สุตตันตจิตตมิสสกวิเสส
[๖๑] จิตมีราคะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตปราศจากราคะของบุคคลใดกำลังเกิด ... จิตมีโทสะของบุคคลใดกำลังเกิด ... จิตปราศจากโทสะของบุคคลใดกำลังเกิด ... จิตมีโมหะของบุคคลใดกำลังเกิด ... จิตปราศจากโมหะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตหดหู่ของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตฟุ้งซ่านของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตเป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตไม่เป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตมีธรรมอื่นยิ่งกว่าของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตเป็นสมาธิของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตไม่เป็นสมาธิของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตหลุดพ้นแล้วของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตไม่หลุดพ้นแล้วของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ (๑๑๔) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๘. จิตตยมก]

อุทเทส ๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส

๓. อภิธัมมจิตตมิสสกวิเสส
[๖๒] จิตที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังเกิด ฯลฯ จิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาของบุคคลใดกำลังเกิด ... (พึงยกบาลีอุทเทสโดยวิธีนี้ ตลอดจนถึงจิตที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้และที่ไม่เป็น เหตุให้สัตว์ร้องไห้) จิตที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตที่ไม่เป็น เหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลนั้นก็จักดับ ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม จิตที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตที่ไม่เป็นเหตุ ให้สัตว์ร้องไห้ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม (๑๑๕)
อุทเทสแห่งมิสสกวาร จบ
อุทเทสวาร จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๗}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๙ หน้าที่ ๑-๑๗. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=39&siri=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=1&Z=331                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=1              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=39&item=1&items=43              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=8555              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=39&item=1&items=43              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=8555                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu39



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :