ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] วิภังคปกรณ์
๒. ปัญหาปุจฉกะ
[๒๒๑] อินทรีย์ ๒๒ คือ ๑. จักขุนทรีย์ ๒. โสตินทรีย์ ๓. ฆานินทรีย์ ๔. ชิวหินทรีย์ ๕. กายินทรีย์ ๖. มนินทรีย์ ๗. อิตถินทรีย์ ๘. ปุริสินทรีย์ ๙. ชีวิตินทรีย์ ๑๐. สุขินทรีย์ ๑๑. ทุกขินทรีย์ ๑๒. โสมนัสสินทรีย์ ๑๓. โทมนัสสินทรีย์ ๑๔. อุเปกขินทรีย์ ๑๕. สัทธินทรีย์ ๑๖. วิริยินทรีย์ ๑๗. สตินทรีย์ ๑๘. สมาธินทรีย์ ๑๙. ปัญญินทรีย์ ๒๐. อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ ๒๑. อัญญินทรีย์ ๒๒. อัญญาตาวินทรีย์
ติกมาติกาปุจฉา ทุกมาติกาปุจฉา
[๒๒๒] บรรดาอินทรีย์ ๒๒ อินทรีย์เท่าไรเป็นกุศล เท่าไรเป็นอกุศล เท่าไร เป็นอัพยากฤต ฯลฯ เท่าไรเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ เท่าไรไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ @เชิงอรรถ : @ หมายถึงอรหัตตผล (อภิ.สงฺ.อ. ๕๕๓/๓๕๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๒}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๑. ติกมาติกาวิสัชนา

๑. ติกมาติกาวิสัชนา
๑. กุสลติกวิสัชนา
[๒๒๓] อินทรีย์ ๑๐ เป็นอัพยากฤต โทมนัสสินทรีย์เป็นอกุศล อนัญญาตัญ- ญัสสามีตินทรีย์เป็นกุศล อินทรีย์ ๔ ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี อินทรีย์ ๖ ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
๒. เวทนาติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๒ กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยสุขเวทนา สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา หรือสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่สัมปยุต ด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี อินทรีย์ ๓ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วย ทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี ชีวิตินทรีย์ที่สัมปยุตด้วยสุข- เวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี ที่กล่าว ไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยสุขเวทนา สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา หรือสัมปยุตด้วยอทุกขม- สุขเวทนาก็มี
๓. วิปากติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก อินทรีย์ ๓ เป็นวิบาก อินทรีย์ ๒ เป็นเหตุให้เกิดวิบาก อัญญินทรีย์ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ก็มี อินทรีย์ ๙ ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี ที่ไม่เป็นวิบากและไม่ เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
๔. อุปาทินนติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๙ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ อุปาทาน โทมนัสสินทรีย์กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น อารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๓ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๙ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๓}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๑. ติกมาติกาวิสัชนา

๕. สังกิลิฏฐติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๙ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส โทมนัสสินทรีย์ กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๓ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง และไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๓ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของ กิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี อินทรีย์ ๖ ที่ กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่ เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
๖. สวิตักกติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๙ ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร โทมนัสสินทรีย์มีทั้งวิตกและวิจาร อุเปกขินทรีย์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี อินทรีย์ ๑๑ ที่มี ทั้งวิตกและวิจารก็มี ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี
๗. ปีติติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๑ กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติ สหรคตด้วยสุข หรือสหรคตด้วย อุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ ที่สหรคตด้วยปีติแต่ไม่สหรคตด้วยสุขและไม่สหรคตด้วย อุเบกขาก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติก็มี อินทรีย์ ๖ ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่ สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี อินทรีย์ ๔ ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่ สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติ สหรคตด้วยสุข หรือสหรคตด้วยอุเบกขาก็มี
๘. ทัสสนติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๕ ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ โทมนัสสินทรีย์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ต้องประหาณด้วยมรรค เบื้องบน ๓ ก็มี อินทรีย์ ๖ ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๔}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๑. ติกมาติกาวิสัชนา

๙. ทัสสนเหตุติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๕ ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ โทมนัสสินทรีย์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี อินทรีย์ ๖ ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดา- ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
๑๐. อาจยคามิติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๐ ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพาน โทมนัสสินทรีย์เป็น เหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน อัญญินทรีย์ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพาน ก็มี อินทรีย์ ๙ ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี ที่ไม่ เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี
๑๑. เสกขติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๐ ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคล อินทรีย์ ๒ เป็นของเสข- บุคคล อัญญาตาวินทรีย์เป็นของอเสขบุคคล อินทรีย์ ๙ ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี
๑๒. ปริตตติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๐ เป็นปริตตะ อินทรีย์ ๓ เป็นอัปปมาณะ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นปริตตะ ก็มี ที่เป็นมหัคคตะก็มี ที่เป็นอัปปมาณะก็มี
๑๓. ปริตตารัมมณติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ อินทรีย์ ๒ มีปริตตะเป็นอารมณ์ อินทรีย์ ๓ มี อัปปมาณะเป็นอารมณ์ โทมนัสสินทรีย์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมหัคคตะเป็น อารมณ์แต่ไม่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีปริตตะเป็นอารมณ์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๕}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๑. ติกมาติกาวิสัชนา

หรือมีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี อินทรีย์ ๙ ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมหัคคตะ เป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีปริตตะเป็นอารมณ์ มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ หรือมีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี
๑๔. หีนติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๙ เป็นชั้นกลาง โทมนัสสินทรีย์เป็นชั้นต่ำ อินทรีย์ ๓ เป็นชั้นประณีต อินทรีย์ ๓ ที่เป็นชั้นกลางก็มี ที่เป็นชั้นประณีตก็มี อินทรีย์ ๖ ที่เป็นชั้นต่ำก็มี ที่เป็นชั้นกลางก็มี ที่เป็นชั้นประณีตก็มี
๑๕. มิจฉัตตติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๐ ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้น อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์มี สภาวะชอบและให้ผลแน่นอน อินทรีย์ ๔ ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี ที่ไม่ แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี โทมนัสสินทรีย์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี อินทรีย์ ๖ ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี
๑๖. มัคคารัมมณติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ อินทรีย์ ๔ กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์ มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็นอธิบดี อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ไม่ใช่มีมรรค เป็นอารมณ์ ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็น เหตุ หรือมีมรรคเป็นอธิบดีก็มี อัญญินทรีย์ไม่ใช่มีมรรคเป็นอารมณ์ ที่มีมรรคเป็น เหตุก็มี ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็น อธิบดีก็มี อินทรีย์ ๙ ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี ที่มีมรรคเป็น อธิบดีก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีมรรคเป็นอารมณ์ มีมรรคเป็นเหตุ หรือมีมรรคเป็น อธิบดีก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๖}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๑. ติกมาติกาวิสัชนา

๑๗. อุปปันนติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๐ ที่เกิดขึ้นก็มี ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี แต่กล่าวไม่ได้ว่า ยังไม่เกิด ขึ้น อินทรีย์ ๒ ที่เกิดขึ้นก็มี ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี แต่กล่าวไม่ได้ว่า จักเกิดขึ้นแน่นอน อินทรีย์ ๑๐ ที่เกิดขึ้นก็มี ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี
๑๘. อตีตติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ที่เป็นอดีตก็มี ที่เป็นอนาคตก็มี ที่เป็นปัจจุบันก็มี
๑๙. อตีตารัมมณติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ อินทรีย์ ๒ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ หรือ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ อินทรีย์ ๑๐ ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอนาคต- ธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีอดีตธรรม เป็นอารมณ์ มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ หรือมีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี
๒๐. อัชฌัตตติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ที่เป็นภายในตนก็มี ที่เป็นภายนอกตนก็มี ที่เป็นภายในตนและ ภายนอกตนก็มี
๒๑. อัชฌัตตารัมมณติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ อินทรีย์ ๓ มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ อินทรีย์ ๔ ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี อินทรีย์ ๘ ที่มีธรรมภายในตน เป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภาย นอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ มีธรรมภาย นอกตนเป็นอารมณ์ หรือมีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
๒๒. สนิทัสสนติกวิสัชนา
อินทรีย์ ๕ เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ อินทรีย์ ๑๗ เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๗}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

๒. ทุกมาติกาวิสัชนา
๑. เหตุโคจฉกวิสัชนา
[๒๒๔] อินทรีย์ ๔ เป็นเหตุ อินทรีย์ ๑๘ ไม่เป็นเหตุ อินทรีย์ ๗ มีเหตุ อินทรีย์ ๙ ไม่มีเหตุ อินทรีย์ ๖ ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี อินทรีย์ ๗ สัมปยุตด้วยเหตุ อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากเหตุ อินทรีย์ ๖ ที่ สัมปยุตด้วยเหตุก็มี ที่วิปปยุตจากเหตุก็มี อินทรีย์ ๔ เป็นเหตุและมีเหตุ อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ หรือมีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ หรือมีเหตุ แต่ไม่เป็นเหตุ อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและมีเหตุ ที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี อินทรีย์ ๔ เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุ และสัมปยุตด้วยเหตุ หรือสัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ หรือสัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ ที่สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี ที่ กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยเหตุแต่ไม่เป็นเหตุก็มี อินทรีย์ ๙ ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ อินทรีย์ ๔ กล่าวไม่ได้ว่าไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุ หรือไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุ อินทรีย์ ๖ ที่ไม่ เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี
๒. จูฬันตรทุกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ มีปัจจัยปรุงแต่ง อินทรีย์ ๒๒ ถูกปัจจัยปรุงแต่ง อินทรีย์ ๒๒ เห็นไม่ได้ อินทรีย์ ๕ กระทบได้ อินทรีย์ ๑๗ กระทบไม่ได้ อินทรีย์ ๗ เป็นรูป อินทรีย์ ๑๔ ไม่เป็นรูป ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปก็มี ที่ไม่เป็นรูป ก็มี อินทรีย์ ๑๐ เป็นโลกิยะ อินทรีย์ ๓ เป็นโลกุตตระ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นโลกิยะก็มี ที่เป็นโลกุตตระก็มี อินทรีย์ ๒๒ จิตบางดวงรู้ได้ อินทรีย์ ๒๒ จิตบางดวงรู้ไม่ได้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๘}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

๓. อาสวโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นอาสวะ อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของอาสวะ อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี อินทรีย์ ๑๕ วิปปยุตจากอาสวะ โทมนัสสินทรีย์สัมปยุตด้วยอาสวะ อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือเป็น อารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและ เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือเป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่ เป็นอาสวะก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ หรือสัมปยุต ด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและสัมปยุต ด้วยอาสวะ หรือสัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ ที่สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี ที่ กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะก็มี อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ อินทรีย์ ๓ วิปปยุต จากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุต จากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือวิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ ของอาสวะ อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่วิปปยุต จากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่ เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ หรือวิปปยุตจากอาสวะ และไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี
๔. สัญโญชนโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นสังโยชน์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๐๙}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี อินทรีย์ ๑๕ วิปปยุตจากสังโยชน์ โทมนัสสินทรีย์สัมปยุตด้วยสังโยชน์ อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์ หรือเป็น อารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และ เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ หรือเป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ของสังโยชน์ ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วยสังโยชน์ หรือสัมปยุต ด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และ สัมปยุตด้วยสังโยชน์ หรือสัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ อินทรีย์ ๖ กล่าว ไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วยสังโยชน์ ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ก็มี อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ อินทรีย์ ๓ วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ หรือวิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็น อารมณ์ของสังโยชน์ อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจาก สังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของ สังโยชน์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ หรือ วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี
๕. คันถโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นคันถะ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๐}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของคันถะ อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี อินทรีย์ ๑๕ วิปปยุตจากคันถะ โทมนัสสินทรีย์สัมปยุตด้วยคันถะ อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยคันถะก็มี ที่วิปปยุตจากคันถะก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ หรือเป็น อารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและเป็น อารมณ์ของคันถะ หรือเป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ อินทรีย์ ๙ กล่าว ไม่ได้ว่า เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ ที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ หรือสัมปยุต ด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและสัมปยุต ด้วยคันถะ หรือสัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็น คันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ ที่สัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะก็มี อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะ อินทรีย์ ๓ วิปปยุต จากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจาก คันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะ หรือวิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของ คันถะ อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่วิปปยุตจาก คันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็น อารมณ์ของคันถะก็มี ที่วิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่กล่าว ไม่ได้ว่า วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะ หรือวิปปยุตจากคันถะและไม่ เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี
๖-๘. โอฆโคจฉกาทิวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นโอฆะ ฯลฯ ไม่เป็นโยคะ ฯลฯ ไม่เป็นนิวรณ์ อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๑}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๕ วิปปยุตจากนิวรณ์ โทมนัสสินทรีย์สัมปยุตด้วยนิวรณ์ อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์ก็มี ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์ หรือเป็น อารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็น อารมณ์ของนิวรณ์ หรือเป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ ได้ว่า เป็นนิวรณ์และเป็นอารมณ์ของนิวรณ์ ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ หรือสัมปยุต ด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์และสัมปยุตด้วย นิวรณ์ หรือสัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นนิวรณ์ และสัมปยุตด้วยนิวรณ์ ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยนิวรณ์แต่ไม่เป็นนิวรณ์ก็มี อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ อินทรีย์ ๓ วิปปยุต จากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจาก นิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ หรือวิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ ของนิวรณ์ก็มี ที่วิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ หรือวิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็น อารมณ์ของนิวรณ์ก็มี
๙. ปรามาสโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นปรามาส อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของปรามาส อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี อินทรีย์ ๑๖ วิปปยุตจากปรามาส อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยปรามาสก็มี ที่วิปปยุตจากปรามาสก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๒}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส หรือ เป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาส และเป็นอารมณ์ของปรามาส หรือเป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส ที่เป็นอารมณ์ ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ ไม่เป็นปรามาสก็มี อินทรีย์ ๑๐ วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส อินทรีย์ ๓ วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจาก ปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ ของปรามาสก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่วิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุต จากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส หรือวิปปยุตจากปรามาสและไม่เป็น อารมณ์ของปรามาสก็มี
๑๐. มหันตรทุกวิสัชนา
อินทรีย์ ๗ รับรู้อารมณ์ไม่ได้ อินทรีย์ ๑๔ รับรู้อารมณ์ได้ ชีวิตินทรีย์ที่รับรู้ อารมณ์ได้ก็มี ที่รับรู้อารมณ์ไม่ได้ก็มี อินทรีย์ ๒๑ ไม่เป็นจิต มนินทรีย์เป็นจิต อินทรีย์ ๑๓ เป็นเจตสิก อินทรีย์ ๘ ไม่เป็นเจตสิก ชีวิตินทรีย์ที่เป็นเจตสิก ก็มี ที่ไม่เป็นเจตสิกก็มี อินทรีย์ ๑๓ สัมปยุตด้วยจิต อินทรีย์ ๗ วิปปยุตจากจิต ชีวิตินทรีย์ที่ สัมปยุตด้วยจิตก็มี ที่วิปปยุตจากจิตก็มี มนินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยจิต หรือวิปปยุตจากจิต อินทรีย์ ๑๓ ระคนกับจิต อินทรีย์ ๗ ไม่ระคนกับจิต ชีวิตินทรีย์ที่ระคนกับจิต ก็มี ที่ไม่ระคนกับจิตก็มี มนินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า ระคนกับจิต หรือไม่ระคนกับจิต {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๓}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๓ มีจิตเป็นสมุฏฐาน อินทรีย์ ๘ ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ชีวิตินทรีย์ ที่มีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี ที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี อินทรีย์ ๑๓ เกิดพร้อมกับจิต อินทรีย์ ๘ ไม่เกิดพร้อมกับจิต ชีวิตินทรีย์ ที่เกิดพร้อมกับจิตก็มี ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตก็มี อินทรีย์ ๑๓ เป็นไปตามจิต อินทรีย์ ๘ ไม่เป็นไปตามจิต ชีวิตินทรีย์ที่เป็นไป ตามจิตก็มี ที่ไม่เป็นไปตามจิตก็มี อินทรีย์ ๑๓ ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐาน อินทรีย์ ๘ ไม่ระคนกับจิตและ มีจิตเป็นสมุฏฐาน ชีวิตินทรีย์ที่ระคนกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี ที่ไม่ระคนกับ จิตและมีจิตเป็นสมุฏฐานก็มี อินทรีย์ ๑๓ ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิต อินทรีย์ ๘ ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิต ชีวิตินทรีย์ที่ระคนกับจิตมีจิต เป็นสมุฏฐานและเกิดพร้อมกับจิตก็มี ที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและ เกิดพร้อมกับจิตก็มี อินทรีย์ ๑๓ ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิต อินทรีย์ ๘ ไม่ ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิต ชีวิตินทรีย์ที่ระคนกับจิตมีจิต เป็นสมุฏฐานและเป็นไปตามจิตก็มี ที่ไม่ระคนกับจิตมีจิตเป็นสมุฏฐานและเป็นไป ตามจิตก็มี อินทรีย์ ๖ เป็นภายใน อินทรีย์ ๑๖ เป็นภายนอก อินทรีย์ ๗ เป็นอุปาทายรูป อินทรีย์ ๑๔ ไม่เป็นอุปาทายรูป ชีวิตินทรีย์ที่ เป็นอุปาทายรูปก็มี ที่ไม่เป็นอุปาทายรูปก็มี อินทรีย์ ๙ กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ อินทรีย์ ๔ กรรม อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ อินทรีย์ ๙ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา และทิฏฐิยึดถือก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๔}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

๑๑. อุปาทานโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นอุปาทาน อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๑๖ วิปปยุตจากอุปาทาน อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานก็มี ที่วิปปยุตจากอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน หรือ เป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทาน และเป็นอารมณ์ของอุปาทาน หรือเป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ที่เป็นอารมณ์ ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๑๐ ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๑๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและสัมปยุตด้วยอุปาทาน หรือ สัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทาน อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปาทานและ สัมปยุตด้วยอุปาทาน ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ไม่เป็นอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๑๐ วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๓ วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจาก อุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ ของอุปาทานก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ก็มี ที่วิปปยุตจากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน หรือวิปปยุตจากอุปาทานและ ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๕}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

๑๒. กิเลสโคจฉกวิสัชนา
อินทรีย์ ๒๒ ไม่เป็นกิเลส อินทรีย์ ๑๐ เป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๙ ที่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี อินทรีย์ ๑๕ กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง โทมนัสสินทรีย์กิเลสทำให้เศร้าหมอง อินทรีย์ ๖ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองก็มี อินทรีย์ ๑๕ วิปปยุตจากกิเลส โทมนัสสินทรีย์สัมปยุตด้วยกิเลส อินทรีย์ ๖ ที่สัมปยุตด้วยกิเลสก็มี ที่วิปปยุตจากกิเลสก็มี อินทรีย์ ๑๐ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลส และเป็นอารมณ์ของกิเลส หรือเป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส อินทรีย์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส หรือเป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่ เป็นกิเลส อินทรีย์ ๙ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและเป็นอารมณ์ของกิเลส ที่เป็น อารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็น กิเลสก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง หรือกิเลส ทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลส ทำให้เศร้าหมอง หรือกิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลส อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี อินทรีย์ ๑๕ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส หรือสัมปยุต ด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วย กิเลส หรือสัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส อินทรีย์ ๖ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและ สัมปยุตด้วยกิเลส ที่สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุต ด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี อินทรีย์ ๙ วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๓ วิปปยุตจาก กิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส โทมนัสสินทรีย์กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากกิเลส {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๖}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

แต่เป็นอารมณ์ของกิเลส หรือวิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส อินทรีย์ ๓ ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็น อารมณ์ของกิเลสก็มี อินทรีย์ ๖ ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่ วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากกิเลส แต่เป็นอารมณ์ของกิเลส หรือวิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
๑๓. ปิฏฐิทุกวิสัชนา
อินทรีย์ ๑๕ ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค อินทรีย์ ๗ ที่ต้องประหาณ ด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี อินทรีย์ ๑๕ ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ อินทรีย์ ๗ ที่ต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี อินทรีย์ ๑๕ ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค อินทรีย์ ๗ ที่มีเหตุ ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ก็มี อินทรีย์ ๑๕ ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ อินทรีย์ ๗ ที่มีเหตุ ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี อินทรีย์ ๙ ไม่มีวิตก โทมนัสสินทรีย์มีวิตก อินทรีย์ ๑๒ ที่มีวิตกก็มี ที่ไม่มี วิตกก็มี อินทรีย์ ๙ ไม่มีวิจาร โทมนัสสินทรีย์มีวิจาร อินทรีย์ ๑๒ ที่มีวิจารก็มี ที่ ไม่มีวิจารก็มี อินทรีย์ ๑๑ ไม่มีปีติ อินทรีย์ ๑๑ ที่มีปีติก็มี ที่ไม่มีปีติก็มี อินทรีย์ ๑๑ ไม่สหรคตด้วยปีติ อินทรีย์ ๑๑ ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่ไม่สหรคต ด้วยปีติก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๗}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๕. อินทริยวิภังค์]

๒. ปัญหาปุจฉกะ ๒. ทุกมาติกาวิสัชนา

อินทรีย์ ๑๒ ไม่สหรคตด้วยสุข อินทรีย์ ๑๐ ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่ไม่ สหรคตด้วยสุขก็มี อินทรีย์ ๑๒ ไม่สหรตด้วยอุเบกขา อินทรีย์ ๑๐ ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี ที่ไม่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี อินทรีย์ ๑๐ เป็นกามาวจร อินทรีย์ ๓ ไม่เป็นกามาวจร อินทรีย์ ๙ ที่เป็น กามาวจรก็มี ที่ไม่เป็นกามาวจรก็มี อินทรีย์ ๑๓ ไม่เป็นรูปาวจร อินทรีย์ ๙ ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่ไม่เป็นรูปาวจร ก็มี อินทรีย์ ๑๔ ไม่เป็นอรูปาวจร อินทรีย์ ๘ ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่เป็น อรูปาวจรก็มี อินทรีย์ ๑๐ นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ อินทรีย์ ๓ ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ อินทรีย์ ๙ ที่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี อินทรีย์ ๑๑ ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ อินทรีย์ ๑๐ ที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี ที่ ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี อินทรีย์ ๑๐ ให้ผลไม่แน่นอน อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ให้ผลแน่นอน อินทรีย์ ๑๑ ที่ให้ผลแน่นอนก็มี ที่ให้ผลไม่แน่นอนก็มี อินทรีย์ ๑๐ มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อินทรีย์ ๓ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อินทรีย์ ๙ ที่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี ที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี อินทรีย์ ๑๕ ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ โทมนัสสินทรีย์เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ อินทรีย์ ๖ ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี
ปัญหาปุจฉกะ จบ
อินทริยวิภังค์ จบบริบูรณ์
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๒๑๘}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๕ หน้าที่ ๒๐๒-๒๑๘. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=35&siri=20              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=35&A=3433&Z=3731                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=35&i=242              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=35&item=242&items=13              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=54&A=3232              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=35&item=242&items=13              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=54&A=3232                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu35              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/vb5/en/thittila#pts-s221



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :