ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๖. ยสวรรค]

๑. ยสเถราปทาน

๕๖. ยสวรรค
หมวดว่าด้วยพระยสเถระเป็นต้น
๑. ยสเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระยสเถระ
(พระยสเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๑] วิมาน ข้าพเจ้าได้สร้างไว้ดีแล้ว ให้ยื่นลงไปในมหาสมุทร สระโบกขรณีข้าพเจ้าก็สร้างไว้ดีแล้ว ทั้งยังมีนกจักรพากมาส่งเสียงร้องขับขาน [๒] ที่วิมานนั้นแม่น้ำก็ดารดาษด้วยบัวเผื่อน ดอกปทุมและดอกอุบล มีท่าน้ำราบเรียบน่ารื่นรมย์ใจ กระแสน้ำก็ไหลไปเอื่อยๆ [๓] แม่น้ำนั้นก็ชุกชุมไปด้วยปลาและเต่า คลาคล่ำไปด้วยนกนานาชนิด มีนกยูง นกกระเรียน และนกดุเหว่าเป็นต้น ต่างก็ส่งเสียงร้องอย่างไพเราะ [๔] ที่ริมแม่น้ำนี้มีนกพิราบ นกเป็ดน้ำ นกจักรพาก นกกาน้ำ นกกระทา นกสาลิกา นกเขาไฟ นกโพระดก [๕] หงส์ นกกระเรียน นกเค้าแมว นกขมิ้นเหลืองอ่อนมากมายพากันส่งเสียงร้อง แม่น้ำก็สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ มีแก้วมณี แก้วมุกดา และแก้วประพาฬเป็นต้น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๓๓๕}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๖. ยสวรรค]

๑. ยสเถราปทาน

[๖] ต้นไม้ทุกชนิดล้วนเป็นทองคำ แออัดยัดเยียดด้วยลำต้นขนาดต่างๆ ส่องวิมานของข้าพเจ้าให้สว่าง ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดกาลทุกเมื่อ [๗] เครื่องดนตรี ๖๐,๐๐๐ ชิ้นก็บรรเลงอยู่ทั้งเช้าและเย็น สตรี ๑๖,๐๐๐ นาง ก็แวดล้อมข้าพเจ้าอยู่ทุกเมื่อ [๘] ข้าพเจ้าเป็นผู้มีจิตเลื่อมใส มีใจยินดีออกจากวิมานแล้ว กราบไหว้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก มีพระยศยิ่งใหญ่พระองค์นั้น [๙] ข้าพเจ้าครั้นถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จึงทูลนิมนต์พระพุทธองค์พร้อมทั้งภิกษุสงฆ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ทรงเป็นนักปราชญ์พระองค์นั้น ทรงรับนิมนต์แล้ว [๑๐] พระมหามุนี ทรงแสดงธรรมีกถาแก่ข้าพเจ้าแล้ว จึงส่งข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จึงเข้าสู่วิมานของตน [๑๑] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเรียกบริวารชนมาประชุมกันทั้งหมด โดยแจ้งให้ทราบว่า พระพุทธเจ้าจะเสด็จมายังวิมานของเรา ในเวลาเช้า [๑๒] การที่พวกเราอยู่ในที่ใกล้ของพระองค์ นับว่าเป็นลาภของพวกเราที่พวกเราได้ดีแล้ว แม้พวกเราก็จักได้บูชาพระศาสดา ผู้เป็นพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๓๓๖}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๖. ยสวรรค]

๑. ยสเถราปทาน

[๑๓] ข้าพเจ้าจัดตั้งข้าวน้ำเสร็จแล้ว จึงให้คนไปกราบทูลบอกเวลา พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ได้เสด็จมาถึงพร้อมด้วยพระอรหันต์ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ผู้ได้วสี [๑๔] ข้าพเจ้าได้รับเสด็จด้วยดนตรีประกอบด้วยองค์ ๕ ๑- พระพุทธเจ้าผู้เป็นบุรุษสูงสุด ประทับนั่งบนตั่งที่เป็นทองคำล้วน [๑๕] คราวนั้น เครื่องมุงเบื้องบนเป็นทองคำล้วน เหล่าชนพากันกระพือพัดภิกษุสงฆ์ผู้ยอดเยี่ยม [๑๖] ข้าพเจ้าเลี้ยงภิกษุสงฆ์ ให้อิ่มหนำด้วยข้าวน้ำอย่างเพียงพอ ได้ถวายผ้าแก่ภิกษุสงฆ์องค์ละคู่ [๑๗] พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้สมควรรับเครื่องบูชาพระองค์นั้น ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ได้ตรัสคำเป็นพระคาถาเหล่านี้ว่า [๑๘] เราจักประกาศเกียรติคุณ ของผู้ที่เลี้ยงเราและภิกษุเหล่านี้ทั้งหมด ให้อิ่มหนำด้วยข้าวและน้ำ ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด [๑๙] ผู้นั้นจักรื่นเริงในเทวโลกตลอด ๑,๘๐๐ กัป จักเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑,๐๐๐ ชาติ @เชิงอรรถ : @ ดนตรีประกอบด้วยองค์ ๕ คือ (๑) อาตตะ (โทน) (๒) วิตตะ (ตะโพน) (๓) อาตตวิตตะ (บันเฑาะว์) @(๔) ฆานะ (กังสดาล) (๕) สุสิระ (ปี่,สังข์) (ขุ.วิ.อ. ๓๔/๓๗) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๓๓๗}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๖. ยสวรรค]

๑. ยสเถราปทาน

[๒๐] เขาจะเกิดยังกำเนิดใด คือจะเป็นกำเนิดเทวดาหรือกำเนิดมนุษย์ก็ตาม เขาจักมีเครื่องมุงบังที่เป็นทองคำล้วนคอยกางกั้น [๒๑] ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก [๒๒] เขาจักเป็นธรรมทายาทของพระศาสดาพระองค์นั้น เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน [๒๓] เขาจักนั่งในท่ามกลางพระสงฆ์ บันลือสีหนาท ชนทั้งหลายคอยกั้นฉัตรให้เขาแม้ที่เชิงตะกอน เขาจักถูกเผาภายใต้ฉัตร [๒๔] สามัญผลข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ข้าพเจ้าไม่มีความสะดุ้งไม่ว่าจะเป็นที่มณฑปหรือที่โคนไม้ [๒๕] ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ (นับจากกัปนี้ไป) ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายทานทั้งปวง [๒๖] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ [๒๗] การที่ข้าพเจ้ามาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า : ๓๓๘}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๕๖. ยสวรรค]

๒. นทีกัสสปเถราปทาน

[๒๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระยสเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ยสเถราปทานที่ ๑ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๓๓๕-๓๓๙. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=33&siri=141              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=140                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu33              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/thi-ap1/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :