บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๑๔. ปกิณณกนิบาต]
๑๑. สาธินราชชาดก (๔๙๔)
๑๑. สาธินราชชาดก (๔๙๔) ว่าด้วยพระเจ้าสาธินะ (พวกมนุษย์ดีใจยืนประคองอัญชลี ได้กล่าวว่า) [๒๐๒] น่าอัศจรรย์จริงหนอ รถทิพย์ได้ปรากฏแก่พระเจ้าวิเทหะ ผู้เรืองยศ พระองค์ทรงอุบัติขึ้นมาในโลก ทำให้เกิดขนพองสยองเกล้า (พระศาสดาทรงประกาศข้อความนั้นว่า) [๒๐๓] มาตลีเทพบุตร เทพสารถีผู้มีฤทธิ์มาก ทูลเชิญเสด็จพระเจ้าวิเทหะผู้ครอบครองมิถิลานครว่า [๒๐๔] พระราชาผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เป็นใหญ่ทั่วทิศ ขอเชิญพระองค์เสด็จทรงรถทิพย์นี้เถิด เทพชั้นดาวดึงส์ทั้งหลาย พร้อมทั้งองค์อมรินทร์ใคร่จะทรงทัศนาพระองค์ ก็เทพเหล่านั้นระลึกถึงพระองค์ ประชุมพร้อมกันอยู่ที่สภาชื่อสุธรรมา [๒๐๕] ก็ลำดับนั้น พระเจ้าวิเทหะทรงพระนามสาธินะ ผู้ครอบครองมิถิลานคร เสด็จประทับรถทิพย์ ซึ่งเทียมด้วยม้าอัสดร ๑,๐๐๐ ตัว ได้เสด็จไปในสำนักแห่งเทพ (พระมหาราชาประทับยืนบนทิพยยาน ซึ่งเทียมด้วยม้าอัสดร ๑,๐๐๐ ตัวนำไป เสด็จไปอยู่ ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวสภานี้) เทพครั้นเห็นพระราชาเสด็จมาก็ยินดีต้อนรับพระองค์ [๒๐๖] ขอเดชะพระมหาราช พระองค์เสด็จมาดีแล้ว มิใช่เสด็จมาร้าย พระราชาผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ บัดนี้ ขอเชิญประทับ ณ สำนักท้าวสักกเทวราชเถิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๔๕๕}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๑๔. ปกิณณกนิบาต]
๑๑. สาธินราชชาดก (๔๙๔)
[๒๐๗] แม้ท้าวสักกะก็ทรงยินดีต้อนรับ พระเจ้าวิเทหะผู้ครอบครองมิถิลานคร ท้าววาสวะทรงเชื้อเชิญด้วยกามทั้งหลายพร้อมทั้งอาสนะ [๒๐๘] พระราชาผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ เป็นการดีแท้ ที่พระองค์เสด็จมาถึงสถานที่อยู่แห่งเหล่าเทพผู้ครองอำนาจ ขอเชิญประทับอยู่ในหมู่ทวยเทพผู้มั่งคั่งด้วยกามทุกอย่าง ขอพระองค์เสวยกามซึ่งมิใช่ของมนุษย์ ในหมู่เทพชั้นดาวดึงส์เถิด (พระเจ้าสาธินะตรัสกับท้าวสักกะว่า) [๒๐๙] เมื่อก่อน หม่อมฉันอยู่ในสวรรค์ ย่อมยินดีการฟ้อนรำขับร้องและประโคมดนตรี แต่บัดนี้ วันนี้หม่อมฉันนั้นหายินดีในสวรรค์ไม่ พระองค์ผู้ประเสริฐกว่าจอมเทพ อายุของหม่อมฉันสิ้นแล้วหรือ หม่อมฉันใกล้ตายหรือ หรือว่าหม่อมฉันหลงไป (ท้าวสักกะตรัสว่า) [๒๑๐] พระองค์ผู้กล้าหาญ ผู้ประเสริฐกว่านรชน พระชนมายุของพระองค์ยังไม่สิ้นไป ความตายก็ยังอยู่ห่างไกล และแม้พระองค์ก็ยังไม่หลง แต่บุญที่พระองค์เสวยวิบากอยู่ในเทวโลกนี้ของพระองค์เหลืออยู่น้อย [๒๑๑] พระราชาผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เป็นใหญ่ทั่วทิศ ขอเชิญพระองค์ประทับอยู่ด้วยเทวานุภาพ เสวยกามซึ่งมิใช่ของมนุษย์ในหมู่เทพชั้นดาวดึงส์เถิด (พระโพธิสัตว์ทรงห้ามท้าวสักกะว่า) [๒๑๒] สิ่งใดที่ได้มาเพราะเหตุที่ผู้อื่นให้ สิ่งนั้นเปรียบกันได้ เหมือนยานพาหนะที่ยืมเขามา เหมือนทรัพย์ที่ยืมเขามา {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๔๕๖}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๑๔. ปกิณณกนิบาต]
๑๑. สาธินราชชาดก (๔๙๔)
[๒๑๓] ก็สมบัติที่ได้มาเพราะเหตุที่ผู้อื่นให้นั้น หม่อมฉันไม่ปรารถนา บุญทั้งหลายที่หม่อมฉันทำเอง บุญนั้นจะเป็นทรัพย์เฉพาะตนของหม่อมฉัน [๒๑๔] หม่อมฉันนั้นไปอยู่ในหมู่มนุษย์แล้วจะทำกุศลให้มาก ด้วยการให้ทาน การประพฤติธรรมให้สม่ำเสมอ การสำรวมและด้วยการฝึกฝนอินทรีย์ ซึ่งเป็นกรรมที่บุคคลทำแล้วมีความสุข และไม่ทำให้เดือดร้อนในภายหลัง (พระโพธิสัตว์จูงพระหัตถ์พระเจ้านารทะเที่ยวไปในอุทยานได้ตรัสว่า) [๒๑๕] ภูมิภาคตรงนี้คืออุทยานนั้น ตรงนี้คือลำรางไขน้ำพร้อมทั้งอ่างรองรับน้ำที่ไหลเข้ามา ตรงนี้คือภูมิภาคทั้ง ๒ ข้างแห่งลำรางไขน้ำ ซึ่งปกคลุมด้วยหญ้าเขียวขจี ตรงนี้คือแม่น้ำที่มีกระแสไหลอยู่ไม่ขาดสาย [๒๑๖] ตรงนี้คือสระโบกขรณีอันน่ารื่นรมย์ มีนกจักรพากขันขานเสียงระงม ดารดาษไปด้วยดอกมณฑาลก ดอกปทุม และดอกอุบล ที่เหล่าชนพากันหลงใหลยึดถือว่าเป็นของเรา เขาไปไหนหนอ [๒๑๗] ตรงนี้พื้นที่นั้นมีแต่พื้นดินที่รกเท่านั้น มีแต่สวนและแนวป่าเท่านั้นเอง นารทะ เมื่อเรามองไม่เห็นหมู่ชนนั้น ทิศทั้งหลายปรากฏแก่เราเหมือนกับว่างเปล่า (พระเจ้าสาธินะตรัสว่า) [๒๑๘] ข้าพเจ้าได้เห็นวิมานส่องแสงไปทั้ง ๔ ทิศ ต่อพระพักตร์ท้าวเทวราชและต่อหน้าเทวดาชั้นไตรทศ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๔๕๗}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๑๔. ปกิณณกนิบาต]
๑๒. ทสพราหมณชาดก (๔๙๕)
[๒๑๙] เราได้อยู่ในทิพยวิมาน บริโภคกามซึ่งมิใช่ของมนุษย์ ในหมู่เทพชั้นดาวดึงส์ที่มั่งคั่งด้วยกามทุกอย่าง [๒๒๐] เรานั้นละกามเช่นนี้ มาในโลกนี้เพื่อต้องการทำบุญ จะประพฤติธรรมอย่างเดียว ไม่ต้องการราชสมบัติ [๒๒๑] เราจะดำเนินไปตามทางที่ไม่ต้องใช้อาชญา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว เป็นทางที่ท่านผู้ปฏิบัติดีดำเนินไปอยู่สาธินราชชาดกที่ ๑๑ จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๗ หน้าที่ ๔๕๕-๔๕๘. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=27&siri=494 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=27&A=7758&Z=7814 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=1994 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=27&item=1994&items=7 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=40&A=7226 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=27&item=1994&items=7 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=40&A=7226 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu27 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/ja494/en/rouse
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]