ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๖ จุลวรรค ภาค ๑
             [๔๓๙] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติ
จตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
กรรมวาจาอัพภาน
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ ต้องอาบัติ ตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ เธอขอปริวาส ๑ ปักษ์ เพื่ออาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์กะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ ปักษ์ เพื่ออาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ แก่ภิกษุอุทายี เธอกำลังอยู่ปริวาส ได้ต้องอาบัติ ตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอ การชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกา- *สุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุอุทายีเข้าหาอาบัติ เดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบัง ไว้ ๕ วัน เธอขอปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติ ตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่ง ในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันแก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ควรมานัต ได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน กะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุอุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งใน ระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอปริวาส ประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส แล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติ ๓ ตัวแก่ภิกษุอุทายี เธอกำลังประพฤติมานัต ได้ ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุอุทายี เข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกก- *วิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน กะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติ ตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันแก่ภิกษุ อุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งใน ระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ ให้มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกก- *วิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันแก่ภิกษุอุทายี เธอประพฤติมานัตแล้ว ควร อัพภาน ได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งใน ระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ชัก ภิกษุอุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจต- *นิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน เธอขอปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อน เข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้า ด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบัง ไว้ ๕ วัน แก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ขอมานัต ๖ ราตรี เพื่อ อาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน กะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้มานัต ๖ ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๕ วัน แก่ภิกษุอุทายี เธอประพฤติ มานัตแล้ว ขออัพภานกะสงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงอัพภานภิกษุอุทายี นี้เป็นญัตติ ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ ต้องอาบัติ ตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ ๑ ปักษ์ ... เธอประพฤติ มานัตแล้ว ขออัพภานกะสงฆ์ สงฆ์อัพภานภิกษุอุทายี การอัพภาน ภิกษุอุทายี ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่าน ผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง ... ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สาม ... ภิกษุอุทายี อันสงฆ์อัพภานแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้ ฯ
อาบัติสุกกวิสัฏฐิ จบ
-----------------------------------------------------


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ บรรทัดที่ ๕๗๐๗-๕๗๗๐ หน้าที่ ๒๔๓-๒๔๖. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=6&A=5707&Z=5770&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=6&item=439&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=6&item=439&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=6&item=439&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=6&item=439&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=6&i=439              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_6

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :