ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
 ฉบับหลวง   บาลีอักษรไทย    PaliRoman 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
เสลาเถริยาปทานที่ ๑๐
ว่าด้วยบุพจริยาของพระเสลาเถรี
[๑๘๐] ในภัทกัปนี้ พระพุทธเจ้าพละนามว่ากัสสป ผู้เป็นพงศ์พันธุ์แห่ง พราหมณ์ มียศมากประเสริฐกว่าพวกบัณฑิต เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว ครั้งนั้น ดิฉันเกิดในสกุลอุบาสก ในพระนครสาวัตถีอันประเสริฐ เห็นพระพิชิตมารผู้ประเสริฐพระองค์นั้น และฟังธรรมเทศนาแล้ว ถึงพระองค์ผู้มีเพียรเป็นสรณะแล้วสมาทานศีลทั้งหลาย ครั้งหนึ่ง พระมหาวีรเจ้าพระองค์นั้น ผู้องอาจกว่านรชน ทรงประกาศอภิสัม- โพธิญาณของพระองค์ในสมาคมแห่งมหาชนว่า เรามีจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชาและแสงสว่าง ในธรรมที่ไม่เคยฟังมาในกาลก่อนและ ในอริยสัจมีทุกขอริยสัจเป็นต้น ดิฉันได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เล่าเรียน สอบถามภิกษุณีทั้งหลาย ด้วยกุศลกรรมที่ได้ทำแล้วนั้น และด้วย การเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว ได้ไปสู่ภพดาวดึงส์ ในภพหลังครั้งนี้ ดิฉันเกิดในสกุลแห่งเศรษฐีใหญ่ ดิฉันได้เข้าเฝ้า พระพุทธเจ้า ได้ฟังสัทธรรมอันประกาศมัจจุ บวชแล้ว ค้นคว้า อรรถธรรมทั้งปวง ยังอาสวะทั้งปวงให้สิ้นไปแล้ว ได้บรรลุอรหัต โดยกาลไม่นานเลย ข้าแต่มหามุนี หม่อมฉันเป็นผู้มีความชำนาญ ในฤทธิ์ ในทิพโสตธาตุ และในเจโตปริยญาณรู้ปุพเพนิวาสญาณ และทิพจักษุอันหมดจดพิเศษ มีอาสวะทั้งปวงสิ้นไปแล้ว บัดนี้ ภพใหม่มิได้มีอีก หม่อมฉันมีญาณอันปราศจากมลทิน บริสุทธิ์ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และปฏิญาณ เพราะอำนาจพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุดหม่อมฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้หมด สิ้นแล้วตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างพังตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะ อยู่ การที่หม่อมฉันได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ หม่อมฉันบรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาหม่อมฉันได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิวาท ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ หม่อมฉันทำให้แจ้งชัด แล้ว พระพุทธศาสนาหม่อมฉันได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระเสลาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบเสลาเถริยาปทาน.
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. อัฏฐารสหัสสขัตติยกัญญาเถริยาปทาน ๒. จตุราสีติสหัสสพราหมณกัญญาเถริยา- *ปทาน ๓. อุปลทายิกาเถริยาปทาน ๔. สิงคาลมาตาเถริยาปทาน ๕. สุกกาเถริยาปทาน ๖. อภิรูปนันทาเถริยาปทาน ๗. อัฑฒกาสีเถริยาปทาน ๘. ปุณณิกาเถริยาปทาน ๙. อัมพปา- *ลีเถริยาปทาน ๑๐. เสลาเถริยาปทาน.
จบขัตติยกัญญาวรรคที่ ๔.
จบอปทาน.
-----------------------------------------------------


             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๖๖๑๖-๖๖๕๓ หน้าที่ ๒๘๔-๒๘๕. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=6616&Z=6653&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=33&item=180&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=33&item=180&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=33&item=180&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=33&item=180&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=180              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_33

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :