บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ฉบับหลวง บาลีอักษรไทย PaliRoman |
[๒๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วย ปัญญา ในกาลนั้น ควรเรียกภิกษุนั้นว่า ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญาอย่างไร ภิกษุอบรมจิต ให้ดีด้วยปัญญาอย่างนี้ว่า จิตของเราปราศจากราคะแล้ว จิตของเราปราศจากโทสะ แล้ว จิตของเราปราศจากโมหะแล้ว จิตของเราไม่มีราคะเป็นธรรมดา จิตของเรา ไม่มีโทสะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่มีโมหะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่เวียนมา เพื่อรูปราคะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่เวียนมาเพื่ออรูปราคะเป็นธรรมดา ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญาแล้ว ในกาลนั้น ควรเรียก ภิกษุนั้นว่า ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำ เสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี ฯจบสูตรที่ ๕ สิลายูปสูตรที่ ๒ เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ บรรทัดที่ ๘๕๖๐-๘๕๗๒ หน้าที่ ๓๖๙-๓๗๐. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=8560&Z=8572&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=23&item=229&items=1&mode=bracket อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/read/byitem_s.php?book=23&item=229&items=1 อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=23&item=229&items=1&mode=bracket อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีอักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_item_s.php?book=23&item=229&items=1&mode=bracket ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=229 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_23
บันทึก ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]