ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส
             [๖๙๖] มารเสนา เรียกว่า เสนา ในคำว่า มุนีนั้น กำจัดเสนาแล้วในธรรมทั้งปวง
คือ ในรูปที่เห็น ในเสียงที่ได้ยิน ในอารมณ์ที่ทราบ. กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ราคะ
โทสะ โมหะ ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบหลู่ ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่
ความลวง ความโอ้อวด ความกระด้าง ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความ
ประมาท กิเลสทั้งปวง ทุจริตทั้งปวง ความกระวนกระวายทั้งปวง ความเร่าร้อนทั้งปวง ความ
เดือดร้อนทั้งปวง อกุสลาภิสังขารทั้งปวง ชื่อว่ามารเสนา. สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
                          กิเลสกาม เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๑ ของท่าน ความไม่ยินดี เรา
                          กล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๒ ของท่าน ความหิวกระหาย เรากล่าวว่าเป็น
                          มารเสนาที่ ๓ ของท่าน ตัณหา เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๔ ของท่าน
                          ความง่วงเหงาหาวนอน เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๕ ของท่าน ความ
                          ขลาด เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๖ ของท่าน ความลังเลใจ เรากล่าวว่า
                          เป็นมารเสนาที่ ๗ ของท่าน ความลบลู่ ความกระด้าง เรากล่าวว่าเป็น
                          มารเสนาที่ ๘ ของท่าน ลาภ ความสรรเสริญ สักการะ และยศ ที่
                          ได้มาโดยทางผิด เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๙ ของท่าน ความยกตน
                          และข่มคนอื่น เรากล่าวว่าเป็นมารเสนาที่ ๑๐ ของท่าน ดูกรพระยามาร
                          เสนาของท่านนี้ เป็นผู้มีปกติกำจัดบุคคลผู้มีธรรมดำ คนไม่กล้าย่อม
                          ไม่ชนะมารเสนานั้นได้ ส่วนคนกล้าย่อมชนะได้ ครั้นชนะแล้วย่อม
                          ได้ความสุข ดังนี้.
             เมื่อใด มารเสนาทั้งหมด และกิเลสอันทำความเป็นปฏิปักษ์ทั้งหมด อันมุนีชนะ
ให้พ่ายแพ้ ทำลายเสีย กำจัดเสีย ทำให้ไม่สู้หน้าแล้ว ด้วยอริยมรรค ๔ เมื่อนั้น มุนีนั้น
เรียกว่า เป็นผู้กำจัดเสนาแล้ว. มุนีนั้น กำจัดเสนาในรูปที่เห็น ในเสียงที่ได้ยิน ในอารมณ์ที่
ทราบ ในอารมณ์ที่รู้แจ้งแล้ว เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า มุนีนั้น กำจัดเสนาแล้วในธรรมทั้งปวง
คือ ในรูปที่เห็น ในเสียงที่ได้ยิน ในอารมณ์ที่ทราบ.

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ บรรทัดที่ ๗๕๑๔-๗๕๓๖ หน้าที่ ๓๑๖-๓๑๗. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=29&A=7514&Z=7536&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=29&item=696&items=1              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=29&item=696&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=29&item=696&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=29&item=696&items=1              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=29&i=696              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ https://84000.org/tipitaka/read/?index_29 https://84000.org/tipitaka/english/?index_29

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]