ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับภาษาไทย   บาลีอักษรไทย   บาลีอักษรโรมัน 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
ฆฏิการสูตรที่ ๔
[๒๘๗] ฆฏิการเทพบุตร ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ภิกษุ ๗ รูป ผู้เข้าถึงพรหมโลกชื่อว่าอวิหาเป็นผู้หลุดพ้นแล้ว สิ้นราคะ โทสะแล้ว ข้ามพ้นเครื่องข้องต่างๆ ในโลกเสีย ได้แล้ว ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ก็ภิกษุเหล่านั้น คือใครบ้างผู้ข้ามพ้นเครื่องข้องเป็นบ่วงมาร อันแสนยากที่ใครๆ จะข้ามพ้นได้ ละกายของมนุษย์แล้ว ก้าวล่วงเครื่องประกอบอันเป็นทิพย์ ฯ ฆฏิการเทพบุตรกราบทูลว่า คือ ท่านอุปกะ ๑ ท่านผลคัณฑะ ๑ ท่านปุกกุสาติ ๑ รวม เป็น ๓ ท่าน ท่านภัททิยะ ๑ ท่านขัณฑเทวะ ๑ ท่าน พาหุรัคคิ ๑ ท่านลิงคิยะ ๑ (รวมเป็น ๗ ท่าน) ท่านเหล่า นั้นล้วนแต่ละกายของมนุษย์ ก้าวล่วงเครื่องประกอบอันเป็น ทิพย์ได้แล้ว ฯ [๒๘๘] พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ท่านเป็นคนมีความฉลาด กล่าวสรรเสริญภิกษุเหล่านั้น ผู้ ละบ่วงมารได้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นรู้ทั่วถึงธรรมของใคร จึงได้ ตัดเครื่องผูกคือภพเสียได้ ฯ [๒๘๙] ฆ. ท่านเหล่านั้นรู้ทั่วถึงธรรมของผู้ใดจึงตัดเครื่องผูกคือ ภพเสียได้ ผู้นั้นนอกจากพระผู้มีพระภาค และธรรมนั้นนอก จากพระศาสนาของพระองค์แล้วเป็นไม่มี ฯ นามและรูปดับไม่เหลือในธรรมใด ท่านเหล่านั้นได้รู้ธรรม นั้นในพระศาสนานี้ จึงตัดเครื่องผูกคือภพได้ ฯ [๒๙๐] พ. ท่านกล่าววาจาลึก รู้ได้ยาก เข้าใจให้ดีได้ยาก ท่านรู้ทั่วถึงธรรมของใคร จึงกล่าววาจาเช่นนี้ได้ ฯ [๒๙๑] ฆ. ครั้งก่อนข้าพเจ้าเป็นช่างหม้อ ทำหม้ออยู่ใน เวภฬิงคชนบท เป็นผู้เลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นอุบาสกของ พระกัสสปพุทธเจ้า เว้นขาดจากเมถุนธรรม ประพฤติ พรหมจรรย์ ไม่มีอามิส ได้เคยเป็นคนร่วมบ้านกับพระองค์ ทั้งเคยได้เป็นสหายของพระองค์ในปางก่อน ข้าพเจ้ารู้จักภิกษุ ทั้ง ๗ รูปเหล่านี้ ผู้หลุดพ้นแล้ว สิ้นราคะ โทสะแล้ว ข้ามพ้นเครื่องข้องต่างๆ ในโลกได้แล้ว ฯ [๒๙๒] พ. แน่ นายช่างหม้อ ท่านพูดอย่างใดก็ได้เป็นจริงแล้ว อย่างนั้นในกาลนั้น ครั้งก่อนท่านเป็นช่างหม้อ ทำหม้ออยู่ ในเวภฬิงคชนบท เป็นผู้เลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นอุบาสกของ พระกัสสปพุทธเจ้า งดเว้นจากเมถุนธรรม ประพฤติพรหม- จรรย์ ไม่มีอามิส ได้เป็นคนเคยร่วมบ้านกันกับเรา ทั้งได้เคย เป็นสหายของเราในปางก่อน ฯ พระสังคีติกาจารย์กล่าวว่า สหายเก่าทั้งสอง ผู้มีตนอันอบรมแล้ว ทรงไว้ซึ่งสรีระมี ในที่สุด ได้มาพบกันด้วยอาการอย่างนี้ ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๑๙๐๔-๑๙๔๖ หน้าที่ ๘๖-๘๘. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=1904&Z=1946&pagebreak=0 https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=15&item=287&items=6              อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ :- https://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=15&item=287&items=6&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item.php?book=15&item=287&items=6              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลีอักษรโรมัน :- https://84000.org/tipitaka/read/roman_item.php?book=15&item=287&items=6              ศึกษาอรรถกถานี้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=287              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ https://84000.org/tipitaka/read/?index_15 https://84000.org/tipitaka/english/?index_15

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]