ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
ผลการค้นหา คำว่า  “ โสดาบัน ”  :-
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๑  มหาวิภังค์ ภาค ๑
ภิกษุ ๕๐๐ รูปนี้ ภิกษุที่ทรงคุณธรรมอย่างต่ำ ก็เป็นโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็น
ตติยฌาน รูปโน้นได้จตุตถฌาน รูปโน้นเป็นพระโสดาบัน รูปโน้นเป็นพระสกทาคามี รูปโน้น
รูปโน้นได้ตติยฌาน รูปโน้นได้จตุตถฌาน รูปโน้นเป็นพระโสดาบัน รูปโน้นเป็นพระสกทาคามี

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๒  มหาวิภังค์ ภาค ๒
อุปสัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก, ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส, ว่าท่านต้อง
ผู้ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ, ...  ผู้ต้องอาบัติทุกกฏ, ...  ผู้ต้องอาบัติทุพภาสิต, ว่าท่านถึงโสดาบัน, ดังนี้
*สัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านต้องโสดาบัติ, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำพูด.
	ภิกษุจำพวกไรกันแน่ ถึงโสดาบัน, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุกกฏ ทุกๆ คำพูด.
	... พวกเราไม่ใช่เป็นผู้ถึงโสดาบัน, ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุกกฏ ทุกๆ คำพูด.
ผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส ว่าท่านต้องอาบัติถุลลัจจัย
... ผู้ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ ... ผู้ต้องอาบัติทุกกฏ ... ผู้ต้องอาบัติทุพภาสิต ว่าท่านเป็นโสดาบัน
โสดาบัน ว่าท่านเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุกกฏ ทุกๆ คำพูด.
	... มีอนุปสัมบันในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติ
	... อนุปสัมบันจำพวกไรกันแน่ เป็นโสดาบัน ต้องอาบัติทุกกฏ ทุกๆ คำพูด.
	... พวกเราไม่ใช่เป็นผู้เป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุกกฏ ทุกๆ คำพูด.
อาบัติทราม คือ พูดกะอุปสัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติ
ทุพภาสิต ว่าท่านเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
ความประพฤติอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น
	... มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
	... ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโสดาบัน ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
	... พวกเราไม่ใช่ผู้เป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
กระทบอาบัติทราม คือ พูดกะอนุปสัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ... อาบัติสังฆา-
ว่าท่านเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
ความประพฤติอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอนุปสัมบันผู้เป็นโสดาบัน ว่าท่านเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น
	... มีอนุปสัมบันในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติ
	... อนุปสัมบันจำพวกไรกันแน่ เป็นโสดาบัน ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
	... พวกเราไม่ใช่เป็นผู้เป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด.
อุปสัมบันว่า ภิกษุชื่อนี้ พูดเหน็บแนมท่านว่า เป็นโสดาบัน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุชื่อนี้ พูดเปรยเหน็บแนมว่า มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโสดาบัน, ... ภิกษุนั้น
	... ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโสดาบัน ... ภิกษุนั้นไม่ว่าคนอื่น ว่าเฉพาะท่าน ดังนี้
	... พวกเราไม่ใช่เป็นผู้ต้องโสดาบัน ... ภิกษุนั้นไม่ว่าคนอื่น ว่าเฉพาะท่าน ดังนี้ ต้องอาบัติ
ตติยฌาน รูปโน้นได้จตุตถฌาน รูปโน้นเป็นพระโสดาบัน รูปโน้นเป็นพระสกทาคามี รูปโน้น
รูปโน้นได้ตติยฌาน รูปโน้นได้จตุตถฌาน รูปโน้นเป็นพระโสดาบัน รูปโน้นเป็นพระสกทาคามี

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๗  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๗  จุลวรรค ภาค ๒
	ภิกษุบางพวกกราบทูลอย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุใดเป็นพระโสดาบัน
อาศัยของคนใหญ่ๆ คนใหญ่ๆ ในธรรมวินัยนั้นเหล่านี้ คือ โสดาบัน ผู้ปฏิบัติเพื่อ
นั้นเหล่านี้ คือ โสดาบัน ... ผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นอรหันต์ แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๙  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑  ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
	ภ. ดูกรมหาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นโสดาบัน มีความเป็นผู้ไม่ตกต่ำเป็นธรรม

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒  ทีฆนิกาย มหาวรรค
พระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า
๕๑๐ คน ทำกาละแล้ว เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป เป็นพระโสดาบัน มีอันไม่
*วิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่
วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงมี
ก็เป็นโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงมีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ
เป็นพระโสดาบันเพราะสิ้นสังโยชน์ ๓ อย่าง มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็น
กว่า ๕๐๐ คน ซึ่งเป็นผู้บำเรอ ทำกาละล่วงไปนานแล้ว เป็นพระโสดาบันเพราะ
กว่า ๕๐๐ คน ซึ่งเป็นผู้บำเรอ ทำกาละล่วงไปนานแล้ว เป็นพระโสดาบัน เพราะ
ผู้บำเรอ ทำกาละล่วงไปนานแล้ว เป็นพระโสดาบัน เพราะสิ้นสังโยชน์ ๓ อย่าง
ชาวมคธผู้บำเรอเกินสองล้านสี่แสนคน ทำกาละล่วงไปนานแล้ว เป็นพระโสดาบัน
บางพวกเป็นพระโสดาบัน เพราะสิ้นสังโยชน์ ๓ อย่าง มีความไม่ตกต่ำเป็น
ชั้นโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ใน

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓  ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
พระองค์ว่า บุคคลนี้ เมื่อปฏิบัติตามที่สั่งสอน จักเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่
พระองค์ว่า บุคคลนี้จักเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง
หวังได้ ๔ ประการเป็นไฉน ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้จะเป็นพระโสดาบัน
	[๒๔๑] องค์แห่งพระโสดาบัน ๔ อย่าง
		๑. ท่านที่เป็นพระโสดาบัน

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔  มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
	[๘๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นโสดาบันเพราะความสิ้นไป
ละสัญโญชน์ ๓ ประการได้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นพระโสดาบัน ผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็น
ทั้งหลาย พวกภิกษุที่มีสัญโญชน์ ๓ หมดสิ้นไป เป็นโสดาบัน มีความเป็นผู้ไม่ตกต่ำเป็น

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕  มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
แล้ว พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง
พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง
ว่า เป็นพระโสดาบันมีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า เพราะ
เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า เพราะ

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖  มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
@๑. ในอรรถกถา ท่านหมายถึงพระโสดาบันผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมาทิฐิ
	ดูกรภิกษุทั้งหลาย ย่อมมีภิกษุในภิกษุสงฆ์นี้ ผู้เป็นพระโสดาบัน เพราะ
ในพระโสดาบัน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๙ ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติ
จนประมาณไม่ได้ จะป่วยกล่าวไปไยในพระโสดาบัน ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำ
นั้น รูปสุดท้ายยังเป็นถึงพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา แน่นอนที่

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๘  สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
สิ้นแล้ว มีปิตติวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นโสดาบัน
แล้ว เราเป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ
วินิบาตสิ้นแล้ว เราย่อมเป็นโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙  สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
ว่าด้วยผู้เป็นพระอริยสาวกโสดาบัน
เหล่านี้ ตามความเป็นจริง. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า พระอริยสาวกผู้โสดาบัน มีอันไม่ตก [๓๑๑] โก. ดูกรท่านสารีบุตร ภิกษุผู้เป็นโสดาบัน ควรกระทำธรรมเหล่าไหนไว้ สา. ดูกรท่านโกฏฐิตะ แม้ภิกษุผู้เป็นโสดาบัน ก็ควรกระทำอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ ข้อนี้ก็เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ ภิกษุผู้เป็นโสดาบัน กระทำอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ไว้ในใจโดย [๓๑๖] โก. ดูกรท่านพระสารีบุตร ภิกษุผู้เป็นพระโสดาบันเล่า ควรกระทำธรรมเหล่า สา. ดูกรท่านโกฏฐิตะ แม้ภิกษุผู้เป็นโสดาบัน ก็ควรกระทำอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั่นแล ข้อนี้ก็เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ ภิกษุผู้เป็นโสดาบัน กระทำอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ไว้ในใจโดย
ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
เป็นโสดาบันผู้มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้ เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ *ปฏิปทา ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ *มินีปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้ เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็น *ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกผู้นี้ เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ ปฏิปทา. เมื่อนั้น อริยสาวกผู้นี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา ปฏิปทา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้น อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ เรากล่าวผู้นี้ว่า เป็นโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำ เป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. พระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. นี้ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่ตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. ผู้ใดรู้เห็นธรรมเหล่านี้อย่างนี้. เรากล่าวผู้นี้ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑  สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
รู้คุณโทษของอินทรีย์ ๕ เป็นพระโสดาบัน
เป็นจริง เมื่อนั้น เราเรียกอริยสาวกนี้ว่า เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็น
รู้ความเกิดดับของอินทรีย์ ๕ เป็นพระโสดาบัน
แล อริยสาวกรู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออก ... เป็นพระโสดาบัน *สกทาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระอนาคามี เป็นพระโสดาบัน เพราะ อินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระสกทาคามี เป็นพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบัน เป็นพระโสดาบันผู้สัทธานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อน


บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]