ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
พระไตรปิฎก
 หน้า
 แสดง
หน้า
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑

หน้าที่ ๒๖๔-๒๖๕.


                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๗. สัตตกนิบาต]

                                                                 ๑. กุกกุวรรค ๘. อัฏฐิเสนชาดก (๔๐๓)

(พราหมณ์กล่าวสดุดีพระราชาว่า) [๕๑] พระเจ้าชนกทรงได้ลาภดีแล้วที่ได้ทรงพบเสนกะผู้มีปัญญาดี พราหมณ์ ท่านเปิดเผยข้อที่ปกปิดได้หนอ เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ญาณของท่านมีกำลังยิ่งนัก (พราหมณ์ต้องการจะสดุดีเสนกบัณฑิต จึงกล่าวว่า) [๕๒] ข้าพเจ้ามีทรัพย์อยู่ ๗๐๐ กหาปณะนี้ เชิญรับไปทั้งหมดเถิด ข้าพเจ้าให้ท่าน เพราะข้าพเจ้าได้ชีวิตในวันนี้ก็เพราะท่าน ซ้ำท่านยังได้ทำความสวัสดีแก่ภรรยาของข้าพเจ้าด้วย (เสนกบัณฑิตกล่าวว่า) [๕๓] บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่รับค่าจ้าง เพราะคาถาอันวิจิตรที่กล่าวดีแล้ว พ่อพราหมณ์ แต่นี้ไป ขอให้คนทั้งหลายจงช่วยกันให้ทรัพย์แก่ท่าน ท่านจงนำไปยังที่อยู่ของตนเถิด
เสนกชาดกที่ ๗ จบ
๘. อัฏฐิเสนชาดก (๔๐๓)
ว่าด้วยอัฏฐิเสนฤาษี
(พระราชาตรัสถามฤๅษีอัฏฐิเสนะว่า) [๕๔] พระคุณเจ้าอัฏฐิเสนะ โยมไม่รู้จักวณิพกพวกนี้เลย แต่พวกเขาได้พร้อมใจกันมาขอกับโยม ทำไมพระคุณเจ้าจึงไม่ขอโยมบ้าง (ฤๅษีอัฏฐิเสนะทูลตอบว่า) [๕๕] ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รัก ผู้ไม่ให้ของที่ขอก็ไม่เป็นที่รัก เพราะเหตุนั้น อาตมภาพจึงไม่ขอมหาบพิตร ขอความหมางใจอย่าได้มีแก่อาตมภาพเลย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๒๖๔}

                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๗. สัตตกนิบาต]

                                                                 ๑. กุกกุวรรค ๘. อัฏฐิเสนชาดก (๔๐๓)

(พระราชาตรัสว่า) [๕๖] ผู้ใดเลี้ยงชีพอยู่ได้ด้วยการขอ ไม่ขอสิ่งที่ควรขอในกาลอันควร ผู้นั้นทำลายผู้อื่นเสียจากบุญ ทั้งตนเองก็เลี้ยงชีพอยู่ไม่ได้ [๕๗] ส่วนผู้ใดเลี้ยงชีพอยู่ได้ด้วยการขอ ขอสิ่งที่ควรขอในกาลอันควร ผู้นั้นทำผู้อื่นให้ได้บุญ ทั้งตนเองก็เลี้ยงชีพอยู่ได้ [๕๘] ผู้มีปัญญาทั้งหลายเห็นยาจกมาแล้วไม่รังเกียจ ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้ประพฤติพรหมจรรย์ พระคุณเจ้าเป็นที่รักของโยม นิมนต์พระคุณเจ้ากล่าวขอสิ่งที่ต้องการเถิด (ฤๅษีอัฏฐิเสนะทูลว่า) [๕๙] ผู้มีปัญญาทั้งหลายย่อมไม่ขอเลย ส่วนนักปราชญ์ควรจะรู้เอง พระอริยะเพียงเจาะจงยืนเท่านั้น นี้เป็นการขอของพระอริยะ (พระราชาตรัสว่า) [๖๐] ท่านพราหมณ์ โยมขอถวายโคแดง ๑,๐๐๐ ตัว พร้อมกับโคจ่าฝูงแก่ท่าน เพราะพระอริยะได้ฟังคาถา อันประกอบด้วยธรรมของพระคุณเจ้าแล้ว จะไม่พึงถวายแก่พระอริยะได้อย่างไร
อัฏฐิเสนชาดกที่ ๘ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๒๖๕}

เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๒๗ หน้าที่ ๒๖๔-๒๖๕. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=27&page=264&pages=2&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=27&A=7293 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=27&A=7293#p264 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_27 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu27 https://84000.org/tipitaka/english/?index_27



จบการแสดงผล หน้าที่ ๒๖๔-๒๖๕.

บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]