ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
พระไตรปิฎก
 หน้า
 แสดง
หน้า
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา

หน้าที่ ๕๔๒-๕๔๓.


                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [๒๑. มหานิบาต]

                                                                 ๑. วังคีสเถรคาถา

[๑๒๔๒] เมื่อท่านแสดงธรรมนั้นอยู่ ภิกษุทั้งหลายที่ฟังคำไพเราะ ก็มีจิตร่าเริงเบิกบานด้วยเสียงที่น่ายินดี น่าฟัง ไพเราะจับใจ จึงตั้งใจฟัง (พระวังคีสเถระเมื่อจะชมเชยพระศาสดา ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า) [๑๒๔๓] ในวัน ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นวันวิสุทธิปวารณา วันนี้ มีภิกษุ ๕๐๐ รูปมาประชุมกัน ล้วนเป็นผู้ตัดกิเลสเครื่องผูกคือสังโยชน์ได้ขาด ไม่มีทุกข์สิ้นภพสิ้นชาติแล้ว เป็นผู้แสวงหาคุณธรรมอันประเสริฐ [๑๒๔๔] พระเจ้าจักรพรรดิมีหมู่อำมาตย์แวดล้อม เสด็จเลียบแผ่นดินอันไพศาล มีมหาสมุทรสาครเป็นขอบเขตนี้ ฉันใด [๑๒๔๕] สาวกทั้งหลายผู้ได้วิชชา ๓ ละมัจจุราชได้ พากันแวดล้อมพระผู้มีพระภาคผู้ทรงชนะสงคราม ทรงนำหมู่ เป็นผู้ยอดเยี่ยม ก็ฉันนั้น [๑๒๔๖] พระสาวกทั้งมวลล้วนแต่เป็นพุทธชิโนรส และในสาวกเหล่านี้ไม่มีความว่างเปล่าจากคุณธรรมเลย ข้าพระองค์พึงถวายบังคมพระองค์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งทรงทำลายลูกศรคือตัณหาได้แล้ว [๑๒๔๗] ภิกษุกว่าพันรูปเข้าไปเฝ้าพระสุคตซึ่งกำลังทรงแสดงธรรม ที่ปราศจากกิเลสดุจธุลีคือนิพพาน ซึ่งหาภัยแต่ที่ไหนมิได้ [๑๒๔๘] ภิกษุเหล่านั้นก็พากันฟังธรรมอันไพบูลย์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีหมู่ภิกษุแวดล้อมย่อมทรงงดงามหนอ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๔๒}

                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [๒๑. มหานิบาต]

                                                                 ๑. วังคีสเถรคาถา

[๑๒๔๙] พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่านาคะ ทรงเป็นพระฤๅษีผู้สูงสุดกว่าบรรดาฤๅษีทั้งหลาย ทรงโปรยฝนอมตธรรมให้ตกรดเหล่าพระสาวก คล้ายฝนห่าใหญ่ [๑๒๕๐] ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า พระวังคีสะสาวกของพระองค์ประสงค์จะเฝ้าพระศาสดา จึงออกจากที่พักกลางวัน มาถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระพุทธภาษิตเหล่านี้ว่า) [๑๒๕๑] พระวังคีสะครอบงำทางเป็นที่เกิดขึ้นแห่งกิเลสมาร ทำลายกิเลสเครื่องตรึงใจ ๕ อย่างมีราคะเป็นต้นอยู่ เธอทั้งหลายจงดูวังคีสะ ผู้ทำการปลดเปลื้องกิเลสเป็นเครื่องผูก ผู้อันตัณหา มานะ และทิฏฐิอิงอาศัยไม่ได้ ผู้จำแนกธรรมเป็นส่วนๆ ได้นั้น [๑๒๕๒] ความจริง พระวังคีสะได้บอกทางไว้หลายอย่าง เพื่อถอนโอฆกิเลส และเมื่อพระวังคีสะนั้นบอกทางอมตะนั้นไว้แล้ว ภิกษุทั้งหลายที่เห็นธรรมก็ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว [๑๒๕๓] พระวังคีสะนั้นผู้ทำแสงสว่างให้เกิด รู้แจ่มแจ้ง ได้เห็นนิพพานเป็นเหตุล่วงพ้นวิญญาณฐิติได้ทั้งหมด ครั้นรู้และทำให้แจ้ง จึงได้แสดงธรรมอันเลิศแก่ภิกษุผู้เดินทางไกล ๑๐ รูป [๑๒๕๔] เมื่อท่านแสดงธรรมไว้ดีอย่างนี้ ท่านผู้รู้แจ้งธรรมทั้งหลายจะมีความประมาทได้อย่างไร เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุผู้ไม่ประมาทในคำสอนของพระผู้มีพระภาค พระองค์นั้น พึงตั้งใจศึกษา(สิกขา ๓) ทุกเมื่อ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๔๓}

เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๕๔๒-๕๔๓. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=26&page=542&pages=2&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=26&A=15107 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=26&A=15107#p542 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_26 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu26 https://84000.org/tipitaka/english/?index_26



จบการแสดงผล หน้าที่ ๕๔๒-๕๔๓.

บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]