ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
พระไตรปิฎก
 หน้า
 แสดง
หน้า
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา

หน้าที่ ๕๔๑-๕๔๒.


                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [๒๑. มหานิบาต]

                                                                 ๑. วังคีสเถรคาถา

(พระวังคีสเถระเกิดความโสมนัส เมื่อจะชมเชยพระผู้มีพระภาคเบื้องพระพักตร์ จึงได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า) [๑๒๓๖] บุคคลพึงกล่าวแต่วาจาที่ไม่เป็นเหตุทำตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนชนเหล่าอื่น วาจานั้นแลเป็นสุภาษิต [๑๒๓๗] พึงกล่าวแต่วาจาที่น่ารัก ซึ่งเหล่าชนพากันชื่นชม ไม่พึงพูดหยาบคายต่อชนเหล่าอื่น พึงพูดแต่คำที่น่ารัก [๑๒๓๘] คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ธรรมนี้เป็นของเก่า สัตบุรุษทั้งหลายตั้งมั่นอยู่แล้วในคำสัตย์ ทั้งที่เป็นอรรถและเป็นธรรม [๑๒๓๙] พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใดอันเกษม เพื่อบรรลุนิพพาน เพื่อทำที่สุดทุกข์ พระวาจานั้นแลสูงสุดกว่าวาจาทั้งหลาย (พระวังคีสเถระเมื่อจะสรรเสริญท่านพระสารีบุตรเถระ จึงได้กล่าวภาษิต เหล่านี้ว่า) [๑๒๔๐] พระสารีบุตรมีปัญญาสุขุม เป็นนักปราชญ์ รู้ทางและมิใช่ทาง มีปัญญามาก แสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย [๑๒๔๑] แสดงโดยย่อก็ได้ โดยพิสดารก็ได้ เมื่อท่านกำลังแสดงธรรม เสียงที่เปล่งออกก็ไพเราะเหมือนเสียงนกสาลิกา ทั้งปฏิภาณก็ปรากฏ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๔๑}

                                                                 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [๒๑. มหานิบาต]

                                                                 ๑. วังคีสเถรคาถา

[๑๒๔๒] เมื่อท่านแสดงธรรมนั้นอยู่ ภิกษุทั้งหลายที่ฟังคำไพเราะ ก็มีจิตร่าเริงเบิกบานด้วยเสียงที่น่ายินดี น่าฟัง ไพเราะจับใจ จึงตั้งใจฟัง (พระวังคีสเถระเมื่อจะชมเชยพระศาสดา ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า) [๑๒๔๓] ในวัน ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นวันวิสุทธิปวารณา วันนี้ มีภิกษุ ๕๐๐ รูปมาประชุมกัน ล้วนเป็นผู้ตัดกิเลสเครื่องผูกคือสังโยชน์ได้ขาด ไม่มีทุกข์สิ้นภพสิ้นชาติแล้ว เป็นผู้แสวงหาคุณธรรมอันประเสริฐ [๑๒๔๔] พระเจ้าจักรพรรดิมีหมู่อำมาตย์แวดล้อม เสด็จเลียบแผ่นดินอันไพศาล มีมหาสมุทรสาครเป็นขอบเขตนี้ ฉันใด [๑๒๔๕] สาวกทั้งหลายผู้ได้วิชชา ๓ ละมัจจุราชได้ พากันแวดล้อมพระผู้มีพระภาคผู้ทรงชนะสงคราม ทรงนำหมู่ เป็นผู้ยอดเยี่ยม ก็ฉันนั้น [๑๒๔๖] พระสาวกทั้งมวลล้วนแต่เป็นพุทธชิโนรส และในสาวกเหล่านี้ไม่มีความว่างเปล่าจากคุณธรรมเลย ข้าพระองค์พึงถวายบังคมพระองค์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งทรงทำลายลูกศรคือตัณหาได้แล้ว [๑๒๔๗] ภิกษุกว่าพันรูปเข้าไปเฝ้าพระสุคตซึ่งกำลังทรงแสดงธรรม ที่ปราศจากกิเลสดุจธุลีคือนิพพาน ซึ่งหาภัยแต่ที่ไหนมิได้ [๑๒๔๘] ภิกษุเหล่านั้นก็พากันฟังธรรมอันไพบูลย์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีหมู่ภิกษุแวดล้อมย่อมทรงงดงามหนอ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๔๒}

เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๕๔๑-๕๔๒. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=26&page=541&pages=2&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=26&A=15079 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=26&A=15079#p541 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 26 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_26 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu26 https://84000.org/tipitaka/english/?index_26



จบการแสดงผล หน้าที่ ๕๔๑-๕๔๒.

บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]