บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |||||
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต หน้าที่ ๖๒๘-๖๒๙.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [๓. มหาวรรค]
๖. สภิยสูตร
[๕๔๗] พระองค์ผู้มีพระจักษุ ได้ทรงพยากรณ์ปัญหาข้อสงสัย ที่เคยมีมาก่อนของข้าพระองค์จนหมดสิ้นแล้ว พระองค์ไม่มีนิวรณ์ จึงนับว่าเป็นพระมุนี ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เองแน่แท้ [๕๔๘] อนึ่ง ความคับแค้นใจทั้งหมด พระองค์ทรงกำจัดตัดถอนได้แล้ว พระองค์จึงมีพระทัยเยือกเย็น มีการอบรมตนถึงที่สุดแล้ว มีพระปัญญาทรงจำมั่นคง มีความบากบั่นในสัจจะเป็นนิตย์ [๕๔๙] เทวดาทั้ง ๒ พวกที่อาศัยอยู่ ณ นารทบรรพตทั้งหมด พากันชื่นชมอนุโมทนาพระองค์ผู้ประเสริฐ ยิ่งใหญ่ในหมู่คนผู้ประเสริฐ ผู้ทรงมีความเพียรยิ่งใหญ่ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาอยู่ [๕๕๐] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษอาชาไนย ข้าพระองค์ขอนอบน้อมพระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษสูงสุด ข้าพระองค์ขอนอบน้อมพระองค์ ไม่มีผู้ใดเลยที่จะทรงคุณเสมอด้วยพระองค์ ในโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก [๕๕๑] พระองค์ทรงเป็นสัพพัญญูพุทธเจ้า เป็นพระศาสดา เป็นพระมุนีครอบงำมารได้ ทรงตัดอนุสัยกิเลสได้ ทรงข้ามห้วงน้ำใหญ่คือสงสารได้แล้ว ยังทรงช่วยหมู่สัตว์นี้ให้ข้ามตามไปได้ด้วย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๖๒๘}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [๓. มหาวรรค]
๖. สภิยสูตร
[๕๕๒] พระองค์ทรงล่วงพ้นอุปธิกิเลสได้ ทำลายอาสวะได้แล้ว ไม่มีอุปาทาน (ความถือมั่น) ละความหวาดกลัวภัยได้ เหมือนพญาราชสีห์ไม่กลัวต่อหมู่เนื้อ๑- [๕๕๓] พระองค์ไม่ทรงติดอยู่ในบุญและบาปทั้งสอง เหมือนดอกบัวขาวที่สวยงามไม่ติดอยู่ในน้ำ ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียร ขอพระองค์โปรดเหยียดพระบาทออกมาเถิด สภิยะจะขอถวายอภิวาทพระยุคลบาทของพระศาสดา ลำดับนั้น สภิยปริพาชกหมอบลงแทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคด้วย เศียรเกล้าแล้ว ได้กราบทูลดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระองค์ ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมอย่างแจ่มแจ้งโดยประการต่างๆ เปรียบเหมือน บุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือตามประทีป ในที่มืด โดยตั้งใจว่า คนมีตาดีจักเห็นรูปได้ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พร้อมทั้งพระธรรมและภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์พึงได้ บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สภิยะ ผู้เคยเป็นอัญเดียรถีย์มาก่อน หวังจะบรรพชา อุปสมบทในธรรมวินัยนี้ จะต้องอยู่ปริวาสเป็นเวลา ๔ เดือน เมื่อครบ ๔ เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายพอใจจึงจะบรรพชาอุปสมบทให้เป็นภิกษุ แต่ในเรื่องการอยู่ปริวาสนี้ เราก็ทราบความแตกต่างของแต่ละบุคคล สภิยปริพาชกกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าผู้เคยเป็นอัญเดียรถีย์มา ก่อน หวังจะบรรพชาอุปสมบทในธรรมวินัยนี้ จะต้องอยู่ปริวาสเป็นเวลา ๔ เดือน เมื่อครบ ๔ เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายพอใจจึงจะบรรพชาอุปสมบทให้เป็นภิกษุ ข้าพระองค์ก็จะขออยู่ปริวาสเป็นเวลา ๔ ปี เมื่อครบ ๔ ปี หากภิกษุทั้งหลายพอใจก็ ขอโปรดบรรพชาอุปสมบทให้ข้าพระองค์เป็นภิกษุด้วยเถิด @เชิงอรรถ : @๑ ดูเทียบ ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๘๓๙-๘๔๐/๔๗๙ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๖๒๙}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับ มจร. เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๖๒๘-๖๒๙. https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_page.php?book=25&page=628&pages=2&edition=mcu ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=25&A=16837 https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=25&A=16837#p628 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 :- https://84000.org/tipitaka/read/?index_25 https://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu25 https://84000.org/tipitaka/english/?index_25
จบการแสดงผล หน้าที่ ๖๒๘-๖๒๙.
บันทึก ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]