ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] จุลวรรค ภาค ๑
สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน
[๑๔๗] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ภิกษุนั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น เมื่อภิกษุนั้นกำลัง อยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เรา นั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๔๗}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

ปริวาส ๑ เดือนเพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ เรานั้นจึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือนเพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เรา เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ‘ท่านทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน กระผมนั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ กระผมนั้นขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ กระผม เมื่อกระผมนั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เรานั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ เรานั้นขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ กระผมจะปฏิบัติอย่างไร’ ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงให้ปริวาสสำหรับ เดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน แก่ภิกษุนั้น”
วิธีให้ปริวาสสำหรับเดือนนอกนี้และกรรมวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสอย่างนี้ คือ ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่ม อุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษาทั้งหลาย นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ กระผมต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน กระผมนั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๔๘}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ กระผมนั้นขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่กระผมแล้ว เมื่อกระผมนั้น กำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เรานั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ เรานั้นจึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือนเพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนแก่เรา เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส สำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ท่านผู้เจริญ กระผมนั้นขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์” พึงขอแม้ครั้งที่ ๒ ฯลฯ พึงขอแม้ครั้งที่ ๓ ฯลฯ ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาว่า [๑๔๘] “ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ภิกษุนั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือน กับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เรานั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ เรานั้นจึงขอ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส คิด ละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๔๙}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้วพึงให้ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน แก่ภิกษุชื่อนี้ นี่เป็นญัตติ ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ภิกษุนั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิด ไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือนกับ สงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เรานั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ เรานั้นจึงขอ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส คิด ละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ให้ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการให้ปริวาสสำหรับเดือน แม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุชื่อนี้ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูป ใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง แม้ครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน สงฆ์ให้แล้ว แก่ภิกษุชื่อนี้ สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติ อย่างนี้ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงอยู่ปริวาส ๒ เดือน นับต่อจากเดือนก่อน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๕๐}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

อยู่ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน
[๑๔๙] “ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ภิกษุนั้นมีความคิดดังนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุชื่อนี้จึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้น กำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือน เรานั้นคิดว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน ไฉนหนอ เราพึงขอ ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ เรานั้นจึงขอปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัวที่ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๑ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส คิดละอายใจว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงอยู่ปริวาส ๒ เดือน นับต่อจากเดือนก่อน [๑๕๐] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งรู้ เดือนหนึ่งไม่รู้ ภิกษุนั้นขอปริวาสสำหรับเดือนที่รู้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับเดือนที่รู้ เพื่อ อาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส รู้เดือน แม้นอกนี้ ภิกษุนั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งรู้ เดือนหนึ่งไม่รู้ เรานั้นขอปริวาสสำหรับเดือนที่รู้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสเดือนที่รู้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๕๑}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

เดือนแก่เราแล้ว เรานั้นกำลังอยู่ปริวาส รู้เดือนแม้นอกนี้ว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอ ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึง ขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ ให้ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงอยู่ปริวาส ๒ เดือน นับต่อจากเดือนก่อน [๑๕๑] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิด ไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งระลึกได้ เดือนหนึ่งระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นขอปริวาสสำหรับ เดือนที่ระลึกได้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับ เดือนที่ระลึกได้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลัง อยู่ปริวาสระลึกเดือนแม้นอกนี้ได้ ภิกษุนั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งระลึกได้ เดือนหนึ่งระลึกไม่ได้ เรานั้นขอปริวาส สำหรับเดือนที่ระลึกได้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส สำหรับเดือนที่ระลึกได้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้น กำลังอยู่ปริวาส ระลึกเดือนแม้นอกนี้ได้ว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือน แม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาสสำหรับ เดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับ เดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงอยู่ปริวาส ๒ เดือน นับต่อจากเดือนก่อน [๑๕๒] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งแน่ใจ เดือนหนึ่งไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นขอปริวาสสำหรับ เดือนที่แน่ใจ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับเดือน ที่แน่ใจ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส แน่ใจเดือนแม้นอกนี้ ภิกษุนั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งแน่ใจ เดือนหนึ่ง ไม่แน่ใจ เรานั้นขอปริวาสสำหรับเดือนที่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๕๒}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

แน่ใจ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ แน่ใจ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่เราแล้ว เมื่อเรานั้นกำลังอยู่ปริวาส แน่ ใจเดือนแม้นอกนี้ว่า ‘ไฉนหนอ เราพึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์’ ภิกษุนั้นจึงขอปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสสำหรับเดือนแม้นอกนี้ เพื่ออาบัติ ๒ ตัวปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นพึงอยู่ปริวาส ๒ เดือน นับต่อจากเดือนก่อน
ภิกษุผู้ควรแก่มานัต
อยู่ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน
[๑๕๓] ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งรู้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยไม่รู้ ภิกษุนั้นขอปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส ภิกษุรูปอื่นผู้เป็น พหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัดระวัง ใฝ่การศึกษา มาถึง กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย ภิกษุนี้ต้องอาบัติอะไร ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติอะไร’ ภิกษุเหล่านั้น กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งรู้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยที่ไม่รู้ ภิกษุนั้นขอปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติเหล่านั้น ภิกษุนี้อยู่ปริวาส เพื่ออาบัติ เหล่านั้น’ ภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย การให้ปริวาสสำหรับเดือนที่รู้แต่ ปิดไว้ ชอบธรรม ความชอบธรรมย่อมฟังขึ้น ส่วนการให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ปิด ไว้โดยไม่รู้ ไม่ชอบธรรม ความไม่ชอบธรรมย่อมฟังไม่ขึ้น ท่านทั้งหลาย ภิกษุเป็น ผู้ควรแก่มานัตเดือนหนึ่ง’ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๕๓}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

[๑๕๔] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งระลึกได้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้น ขอปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ ปริวาส ภิกษุรูปอื่นผู้เป็นพหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัดระวัง ใฝ่การศึกษา มาถึง กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย ภิกษุนี้ต้องอาบัติอะไร ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่อ อาบัติอะไร’ ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน เดือนหนึ่งระลึกได้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้นขอปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้น ท่าน ภิกษุนี้ต้อง อาบัติเหล่านั้น ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้น’ ภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ทั้งหลาย การให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ระลึกได้แต่ปิดไว้ ชอบธรรม ความชอบธรรม ย่อมฟังขึ้น ส่วนการให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ปิดไว้โดยระลึกไม่ได้ ไม่ชอบธรรม ความ ไม่ชอบธรรมย่อมฟังไม่ขึ้น ท่านทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ควรแก่มานัตเดือนหนึ่ง’ [๑๕๕] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิด ไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งแน่ใจแต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นขอ ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส ภิกษุรูปอื่นผู้เป็นพหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัดระวัง ใฝ่การศึกษา มาถึง กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย ภิกษุนี้ต้องอาบัติอะไร ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติ อะไร’ ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือน คือ เดือนหนึ่งแน่ใจแต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นขอ ปริวาส ๒ เดือน เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส ๒ เดือน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๖ หน้า : ๒๕๔}

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๓. สมุจจยขันธกะ]

๒. ปริวาส

เพื่ออาบัติ ๒ ตัว ปิดไว้ ๒ เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติเหล่านั้น ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้น’ ภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย การให้ ปริวาสสำหรับเดือนที่แน่ใจแต่ปิดไว้ ชอบธรรม ความชอบธรรมย่อมฟังขึ้น ส่วน การให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ปิดไว้โดยไม่แน่ใจ ไม่ชอบธรรม ความไม่ชอบธรรมย่อม ฟังไม่ขึ้น ท่านทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ควรแก่มานัตเดือนหนึ่ง”


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๒๔๗-๒๕๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=6&siri=34              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=6&A=6052&Z=6247                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=6&i=456              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=6&item=456&items=10              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=6&item=456&items=10                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu6              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/brahmali#pli-tv-kd13:24.1.1 https://suttacentral.net/pli-tv-kd13/en/horner-brahmali#Kd.13.24.1



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :