บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
| |
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
๗. ทุติยภวสูตร ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งภพ สูตรที่ ๒ [๗๘] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย อภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลกับพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ พระองค์ตรัสเรียกว่า ภพ ภพ ด้วยเหตุเพียงไร ภพจึงมีได้ พระพุทธเจ้าข้า @เชิงอรรถ : @๑ ธาตุอย่างกลาง หมายถึงรูปธาตุ (องฺ.ติก.อ. ๒/๗๗/๒๒๘) @๒ ธาตุอย่างประณีต ในที่นี้หมายถึงอรูปธาตุ (องฺ.ติก.อ. ๒/๗๗/๒๒๘) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๐ หน้า : ๓๐๑}
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [๒. ทุติยปัณณาสก์]
๓. อานันทวรรค ๗. ทุติยภวสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า อานนท์ ถ้ากรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุจัก ไม่มีแล้ว กามภพพึงปรากฏบ้างไหม พระอานนท์กราบทูลว่า ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณจึงชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาจึงชื่อว่าเป็นยางเหนียว เจตนาแน่วแน่ ความ ปรารถนาดำรงมั่นอยู่ได้เพราะธาตุอย่างหยาบของสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องปิดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ การเกิดในภพใหม่จึงมีต่อไปอีกด้วยประการฉะนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสถามต่อไปอีกว่า อานนท์ ถ้ากรรมที่อำนวยผลให้ใน รูปธาตุจักไม่มีแล้ว รูปภพพึงปรากฏบ้างไหม พระอานนท์กราบทูลว่า ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณจึงชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาจึงชื่อว่าเป็นยางเหนียว เจตนาแน่วแน่ ความ ปรารถนาดำรงมั่นอยู่ได้เพราะธาตุอย่างกลางของสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องปิดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ การเกิดในภพใหม่จึงมีต่อไปอีกด้วยประการฉะนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสถามต่อไปอีกว่า อานนท์ ถ้ากรรมที่อำนวยผลให้ใน อรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพพึงปรากฏบ้างไหม พระอานนท์กราบทูลว่า ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณจึงชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาจึงชื่อว่าเป็นยางเหนียว เจตนาแน่วแน่ ความ ปรารถนาดำรงมั่นอยู่ได้เพราะธาตุอย่างประณีตของสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องปิดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ การเกิดในภพใหม่จึงมีต่อไปอีกด้วยประการฉะนี้ อานนท์ ภพมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้แลทุติยภวสูตรที่ ๗ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๐ หน้า : ๓๐๒}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๓๐๑-๓๐๒. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?B=20&A=8567&w= http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=20&siri=122 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=5910&Z=5933&pagebreak=0 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=517 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=20&item=517&items=1 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=20&item=517&items=1 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu20
บันทึก ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]