ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒ ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
น้อมใจไปด้วยศรัทธาศึกษาอยู่ ประคองความเพียรศึกษาอยู่ ตั้งสติไว้ศึกษาอยู่ ตั้งจิตศึกษาอยู่
รู้ทั่วด้วยปัญญาศึกษาอยู่ รู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่งศึกษาอยู่ กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ศึกษาอยู่
ละธรรมที่ควรละศึกษาอยู่ เจริญธรรมที่ควรเจริญศึกษาอยู่ ทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งศึกษา
อยู่ ประพฤติเอื้อเฟื้อ ประพฤติเต็มใจ สมาทานประพฤติไป เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่าพระเสขะ.
             บทว่า ปุถู ความว่า มีมาก คือ พระเสขะเหล่านี้ ได้แก่พระโสดาบัน ท่านผู้ปฏิบัติ
เพื่อโสดาปัตติผล พระสกทาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อสกทาคามิผล พระอนาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อ
อนาคามิผล พระอรหันต์ และท่านผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตผล. บทว่า อิธ ความว่า ในทิฏฐิ
คือ ในความควรนี้ ในความชอบใจนี้ ในความถือนี้ ในวินัยนี้ ในธรรมนี้ ในธรรมวินัยนี้
ในปาพจน์นี้ ในพรหมจรรย์นี้ ในสัตถุศาสน์นี้ ในอัตภาพนี้ ในมนุษยโลกนี้ เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่าและพระเสขะทั้งหลายในทิฏฐินี้มีมาก.
             [๙๓] คำว่า "ปุฏฺโฐ ปพฺรูหิ มาริส" ในอุเทศว่า "เตสํ เม นิปโกริยํ ปุฏฺโฐ
ปพฺรูหิ มาริส" ความว่า แม้พระองค์ มีปัญญา เป็นบัณฑิต มีความรู้ มีความตรัสรู้ มีฌาน
มีปัญญาแจ่มแจ้ง มีปัญญาทำลายกิเลส อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว คือ ไต่ถาม ทูลวิงวอน
ทูลอาราธนา ทูลเชื้อเชิญให้ประสาทแล้ว ขอจงตรัส คือ จงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง
เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ประกาศซึ่งความดำเนิน คือ ความประพฤติ ความเป็นไป
ความประพฤติโดยเอื้อเฟื้อ ธรรมอันเป็นโคจร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ ข้อปฏิบัติของพระอรหันต-
*ขีณาสพผู้มีสังขาตธรรม และพระเสขะเหล่านั้น. บทว่า มาริส นี้เป็นเครื่องกล่าวด้วยความรัก
เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ เป็นเครื่องกล่าวเป็นไปกับด้วยความเคารพและความยำเกรง เพราะ
ฉะนั้น จึงชื่อว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์ผู้มีปัญญาจงตรัส
บอกถึงความดำเนินของพระอรหันตขีณาสพ และพระเสขะเหล่านั้นแก่ข้าพระองค์เถิด.
             เพราะเหตุนั้น พราหมณ์นั้นจึงกล่าวว่า
                          พระอรหันตขีณาสพเหล่าใดผู้มีสังขาตธรรม และพระเสข-
                          บุคคลในทิฏฐินี้มีมาก ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ข้าพระองค์
                          ทูลถามแล้ว ขอพระองค์ผู้มีปัญญา จงตรัสบอกความดำเนิน
                          ของพระอรหันตขีณาสพ และพระเสขบุคคลเหล่านั้น
                          แก่ข้าพระองค์เถิด.

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๐ บรรทัดที่ ๕๑๒-๕๓๗. หน้าที่ ๒๑ - ๒๒. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=30&A=512&Z=537&pagebreak=0              อ่านโดยใช้เนื้อความเป็นเกณฑ์แบ่งข้อ :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=30&item=93&items=1              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=30&siri=20              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=30&i=57              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item.php?book=30&item=93&items=1&mode=bracket              อ่านเทียบพระไตรปิฎกภาษาบาลี อักษรโรมัน :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item.php?book=30&item=93&items=1&mode=bracket              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๐ http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๓๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_30

อ่านหัวข้อแรกอ่านหัวข้อที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหัวข้อถัดไปอ่านหัวข้อสุดท้าย

บันทึก ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึกล่าสุด ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก ฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]