ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ วิภังคปกรณ์
ปัญหาปุจฉกะ
[๒๒๓] อริยสัจ ๔ คือ ๑. ทุกขอริยสัจ ๒. ทุกขสมุทยอริยสัจ ๓. ทุกขนิโรธอริยสัจ ๔. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
ติกมาติกาปุจฉา ทุกมาติกาปุจฉา
บรรดาอริยสัจ ๔ อริยสัจไหนเป็นกุศล อริยสัจไหนเป็นอกุศล อริยสัจ ไหนเป็นอัพยากฤต ฯลฯ อริยสัจไหนเป็นสรณะ อริยสัจไหนเป็นอรณะ
ติกมาติกาวิสัชนา
[๒๒๔] สมุทยสัจเป็นอกุศล มัคคสัจเป็นกุศล นิโรธสัจเป็นอัพยากฤต ทุกขสัจเป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี เป็นอัพพยากฤตก็มี สัจจะ ๒ เป็นสุขเวทนา- *สัมปยุตก็มี เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุตก็มี นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น สุขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต ทุกขสัจ เป็นสุขเวทนาสัมปยุตก็มี เป็นทุกขเวทนาสัมปยุตก็มี เป็นอทุกขม- *สุขเวทนาสัมปยุตก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นสุขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นทุกข- *เวทนาสัมปยุต แม้เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต สัจจะ ๒ เป็นวิปากธัมมธรรม นิโรธสัจ เป็นเนววิปากนวิปากธัมมธรรม ทุกขสัจ เป็นวิบากก็มี เป็นวิปาก- *ธัมมธรรมก็มี เป็นเนววิปากนวิปากธัมมธรรมก็มี สมุทยสัจ เป็นอนุปาทินนุ- *ปาทานิยะ สัจจะ ๒ เป็นอนุปาทินนานุปาทานิยะ ทุกขสัจ เป็นอุปาทินนุปาทา- *นิยะก็มี เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี สมุทยสัจ เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะ สัจจะ ๒ เป็นอสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกะ ทุกขสัจ เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะก็มี เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะก็มี สมุทยสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระ นิโรธสัจ เป็นอวิตักกาวิจาระ มัคคสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระก็มี เป็นอวิตักกวิจารมัตตะก็มี เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี ทุกขสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระก็มี เป็นอวิตักกวิจารมัตตะ ก็มี เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นสวิตักกสวิจาระ แม้เป็น อวิตักกวิจารมัตตะ แม้เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี สัจจะ ๒ เป็นปีติสหคตะก็มี เป็นสุขสหคตะก็มี เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น ปีติสหคตะ แม้เป็นสุขสหคตะ แม้เป็นอุเปกขาสหคตะ ทุกขสัจ เป็นปีติสหคตะ ก็มี เป็นสุขสหคตะก็มี เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น ปีติสหคตะ แม้เป็นสุขสหคตะ แม้เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี สัจจะ ๒ เป็น เนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพะ สมุทยสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพะก็มี เป็นภาวนา- *ปหาตัพพะก็มี ทุกขสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพะก็มี เป็นภาวนาปหาตัพพะก็มี เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพะก็มี สัจจะ ๒ เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหา- *ตัพพเหตุกะ สมุทยสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพเหตุกะก็มี เป็นภาวนาปหาตัพพ- *เหตุกะก็มี ทุกขสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพเหตุกะก็มี เป็นภาวนาปหาตัพพเหตุกะ ก็มี เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพเหตุกะก็มี สมุทยสัจ เป็นอาจยคามี มัคคสัจ เป็นอปจยคามี นิโรธสัจ เป็นเนวาจยคามินาปจยคามี ทุกขสัจ เป็น อาจยคามีก็มี เป็นเนวาจยคามินาปจยคามีก็มี มัคคสัจ เป็นเสกขะ สัจจะ ๓ เป็นเนวเสกขนาเสกขะ สมุทยสัจ เป็นปริตตะ สัจจะ ๒ เป็นอัปปมาณะ ทุกขสัจ เป็นปริตตะก็มี เป็นมหัคคตะก็มี นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ มัคคสัจ เป็นอัปปมาณารัมมณะ สมุทยสัจ เป็นปริตตารัมมณะก็มี เป็นมหัคคตารัมมณะ ก็มี ไม่เป็นอัปปมาณารัมมณะ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นปริตตารัมมณะ แม้เป็น มหัคคตารัมมณะก็มี ทุกขสัจ เป็นปริตตารัมมณะก็มี เป็นมหัคคตารัมมณะก็มี เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นปริตตารัมมณะ แม้เป็น มหัคคตารัมมณะ แม้เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี สมุทยสัจ เป็นหีนะ สัจจะ ๒ เป็น ปณีตะ ทุกขสัจ เป็นหีนะก็มี เป็นมัชฌิมะก็มี นิโรธสัจ เป็นอนิยตะ มัคคสัจ เป็นสัมมัตตนิยตะ สัจจะ ๒ เป็นมิจฉัตตนิยตะก็มี เป็นอนิยตะก็มี นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ สมุทยสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคารัมมณะ แม้เป็น มัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติ มัคคสัจ ไม่เป็นมัคคารัมมณะ เป็นมัคคเหตุกะ ก็มี เป็นมัคคาธิปติก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี ทุกขสัจ เป็นมัคคารัมมณะก็มี ไม่เป็นมัคคเหตุกะ เป็นมัคคาธิปติก็มี กล่าว ไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคารัมมณะ แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี สัจจะ ๒ เป็นอุปปันนะ ก็มี เป็นอนุปปันนะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า เป็นอุปปาที นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอุปปันนะ แม้เป็นอนุปปันนะ แม้เป็นอุปปาที ทุกขสัจ เป็นอุปปันนะ ก็มี เป็นอนุปปันนะก็มี เป็นอุปปาทีก็มี สัจจะ ๓ เป็นอดีตก็มี เป็นอนาคต ก็มี เป็นปัจจุบันก็มี นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอดีต แม้เป็นอนาคต แม้เป็นปัจจุบัน นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ มัคคสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น อตีตารัมมณะ แม้เป็นอนาคตารัมมณะ แม้เป็นปัจจุปปันนารัมมณะ สัจจะ ๒ เป็นอตีตารัมมณะก็มี เป็นอนาคตารัมมณะก็มี เป็นปัจจุปปันนารัมมณะก็มี กล่าว ไม่ได้ว่า แม้เป็นอตีตารัมมณะ แม้เป็นอนาคตารัมมณะ แม้เป็นปัจจุปปันนา- *รัมมณะก็มี นิโรธสัจ เป็นพหิทธา สัจจะ ๓ เป็นอัชฌัตตะก็มี เป็นพหิทธา ก็มี เป็นอัชฌัตตพหิทธาก็มี นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ มัคคสัจ เป็นพหิทธา- *รัมมณะ สมุทยสัจ เป็นอัชฌัตตารัมมณะก็มี เป็นพหิทธารัมมณะก็มี เป็น อัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี ทุกขสัจ เป็นอัชฌัตตารัมมณะก็มี เป็นพหิทธารัมมณะ ก็มี เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอัชฌัตตารัมมณะ แม้ เป็นพหิทธารัมมณะ แม้เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี สัจจะ ๓ เป็นอนิทัสสน- *อัปปฏิฆะ ทุกขสัจ เป็นสนิทัสสนสัปปฏิฆะก็มี เป็นอนิทัสสนสัปปฏิฆะก็มี เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆะก็มี

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ บรรทัดที่ ๓๐๘๒-๓๑๕๐ หน้าที่ ๑๓๒-๑๓๕. https://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=35&A=3082&Z=3150&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=35&siri=18              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=35&i=223              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [223-224] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=35&item=223&items=2              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=54&A=3117              The Pali Tipitaka in Roman :- [223-224] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=35&item=223&items=2              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=54&A=3117              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ https://84000.org/tipitaka/read/?index_35              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/vb4/en/thittila#pts-s215

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :