ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๑๓. อุพพรีเปตวัตถุ
เรื่องพระนางอุพพรีกับเปรต
[๓๖๘] พระเจ้าพรหมทัตผู้เป็นใหญ่ในแคว้นปัญจาละ เมื่อวันคืนล่วงไปๆ พระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว [๓๖๙] พระนางอุพพรีมเหสีของพระองค์ เสด็จไปยังพระเมรุมาศแล้วทรงกรรแสงอยู่ เมื่อไม่เห็นพระเจ้าพรหมทัต ก็ทรงกรรแสงว่า พรหมทัตๆ [๓๗๐] อนึ่งดาบส๑- ผู้เป็นมุนี สมบูรณ์ด้วยจรณะ ได้มาที่นั้น และได้ถามชนทั้งหลายที่มาประชุมกันในที่นั้นว่า [๓๗๑] นี่เป็นเมรุมาศของใครซึ่งตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมต่างๆ หญิงนี้เป็นภรรยาของใคร เมื่อไม่เห็นพระเจ้าพรหมทัตผู้เป็นใหญ่ ซึ่งเสด็จจากมนุษยโลกนี้ไปไกล คร่ำครวญอยู่ว่า พรหมทัตๆ [๓๗๒] ฝ่ายชนที่มาประชุมกันอยู่ในที่นั้นตอบว่า ท่านผู้เจริญ ผู้นิรทุกข์ นี่เป็นพระเมรุมาศของพระเจ้าพรหมทัต หญิงนี้เป็นพระมเหสีของท้าวเธอ @เชิงอรรถ : @ ผู้บำเพ็ญเพียรเผากิเลส {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๒๒๕}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [๒. อุพพริวรรค]

๑๓. อุพพรีเปตวัตถุ

[๓๗๓] นี่เป็นพระเมรุมาศของท้าวเธอ ซึ่งตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมต่างๆ หญิงนี้เป็นพระมเหสีของท้าวเธอ เมื่อไม่เห็นพระเจ้าพรหมทัตพระราชสวามี ซึ่งเสด็จจากมนุษยโลกนี้ไปไกล จึงทรงกรรแสงอยู่ว่า พรหมทัตๆ (ดาบสจึงทูลถามว่า) [๓๗๔] พระราชาผู้มีพระนามว่าพรหมทัต ๘๖,๐๐๐ พระองค์ ถูกเผาในป่าช้านี้ บรรดาพระเจ้าพรหมทัตเหล่านั้น พระนางทรงกรรแสงถึงพระเจ้าพรหมทัตองค์ไหน (พระนางอุพพรีตรัสตอบว่า) [๓๗๕] ท่านผู้เจริญ ดิฉันเศร้าโศกถึงพระราชา ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าจูฬนี เป็นใหญ่ในแคว้นปัญจาละ ซึ่งเป็นพระราชสวามี ทรงประทานสิ่งของที่น่าปรารถนาทุกอย่าง (ดาบสทูลถามว่า) [๓๗๖] พระราชาทุกพระองค์ทรงพระนามว่าพรหมทัตเหมือนกันทั้งหมด เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าจูฬนี ทรงเป็นใหญ่ในแคว้นปัญจาละ [๓๗๗] พระนางเป็นพระมเหสีของพระราชาเหล่านั้นทุกพระองค์โดยลำดับ เหตุไรจึงละเว้นพระราชาองค์ก่อนๆ เสีย แล้วมาเศร้าโศกถึงพระราชาองค์สุดท้ายเล่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๒๒๖}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [๒. อุพพริวรรค]

๑๓. อุพพรีเปตวัตถุ

(พระนางอุพพรีตรัสตอบว่า) [๓๗๘] ท่านผู้นิรทุกข์ ตลอดเวลาอันยาวนาน ดิฉันเกิดเป็นสตรีเท่านั้น(ไม่เคยเกิดเป็นบุรุษบ้างหรือ) ท่านพูดถึงแต่การที่ดิฉันเป็นสตรี ในการเวียนว่ายตายเกิดเป็นอันมาก (ดาบสทูลตอบว่า) [๓๗๙] บางคราวพระนางเกิดเป็นสตรี บางคราวเกิดเป็นบุรุษ บางคราวเกิดเป็นปศุสัตว์ ที่สุดแห่งอัตภาพทั้งหลายที่ผ่านมาที่เข้าถึงความเป็นหญิงเป็นต้นนั้น ย่อมไม่ปรากฏอย่างนี้ (พระนางอุพพรีตรัสว่า) [๓๘๐] ท่านช่วยรดดิฉันผู้เร่าร้อนให้สงบ ดับความกระวนกระวายทั้งหมด เหมือนคนใช้น้ำราดดับไฟที่ติดเปรียง [๓๘๑] ผู้ที่ช่วยให้ดิฉันผู้กำลังเศร้าโศกถึงพระสวามีให้บรรเทาลงได้ ชื่อว่าได้ช่วยถอนลูกศรคือความโศกที่เสียบหทัยของดิฉันแล้วหนอ [๓๘๒] พระมหามุนี ดิฉันซึ่งท่านถอนลูกศรคือความโศกได้แล้ว ก็เย็นสงบ ไม่เศร้าโศก ไม่กรรแสงอีก เพราะได้ฟังคำของท่าน [๓๘๓] พระนางอุพพรีฟังคำสุภาษิตของดาบสผู้เป็นสมณะนั้นแล้ว ถือบาตรจีวรออกบวชเป็นบรรพชิต [๓๘๔] ครั้นออกบวชแล้วเป็นผู้สงบ เจริญเมตตาจิต เพื่อบังเกิดในพรหมโลก {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๒๒๗}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ[๒. อุพพริวรรค]

รวมเรื่องเปรตที่มีในวรรค

[๓๘๕] พระนางเมื่อเที่ยวจากบ้านหนึ่งไปยังบ้านหนึ่ง ไปยังนิคมและราชธานีทั้งหลาย ได้เสด็จสวรรคตที่บ้านอุรุเวลา [๓๘๖] พระนางเบื่อหน่ายการเกิดเป็นหญิง เจริญเมตตาจิตเพื่อบังเกิดในพรหมโลก จึงได้เป็นผู้เข้าถึงพรหมโลกแล้ว
อุพพรีเปตวัตถุที่ ๑๓ จบ
อุพพริวรรคที่ ๒ จบ
รวมเรื่องเปรตที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. สังสารโมจกเปติวัตถุ ๒. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ ๓. มัตตาเปติวัตถุ ๔. นันทาเปติวัตถุ ๕. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ ๖. กัณหเปตวัตถุ ๗. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ ๘. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ ๙. อังกุรเปตวัตถุ ๑๐. อุตตรมาตุเปติวัตถุ ๑๑. สุตตเปตวัตถุ ๑๒. กัณณมุณฑเปติวัตถุ ๑๓. อุพพรีเปตวัตถุ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๒๒๘}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๒๒๕-๒๒๘. http://84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=26&siri=110              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=26&A=3931&Z=3987                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=110              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=26&item=110&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=31&A=3786              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=26&item=110&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=31&A=3786                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu26



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :