บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น |
นานาปัญหา โดย คณะสหายธรรม | |
ตอบ ในเรื่องนี้เห็นจะถือเอาเป็นข้อยุติมิได้ ดิฉันได้ลองนำเอาข้อความในพระไตรปิฎกภาษาบาลีในตอนนี้ไปถวายพระเถระผู้ทรงความรู้บาลีหลายรูปท่านแปลให้ ท่านแปลแล้ว บาง คำกล่าวของท่านพระเถระรูปนี้น่ารับฟังอย่างยิ่งและคณะคล้อยตามความเห็นของท่าน คือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มิได้รับรองความเห็นของคณะว่าถูก หากท่านผู้ใดมี สำหรับเรื่องการบวชของอุปกาชีวกที่คุณคนบ้านขอเล่าให้ฟังด้วยนั้น จะ ในอรรถกถาขุททกนิกาย สุตตนิบาต มุนิสูตร เล่าไว้ว่า อุปกา นายบ้านนั้นมีอาชีพเป็นนายพรานเนื้อ เมื่อเวลาจะออกไปล่าเนื้อกับบุตรและน้องชาย ก็สั่งธิดาชื่อนางฉาวา ให้ช่วยดูแลอุปกาชีวกแทนตน นางฉาวานั้นมีรูปร่างสวยงาม วันรุ่งขึ้นอุปกาชีวกมารับอาหารที่บ้านของนางฉาวา ได้เห็นนางฉาวาเกิดความพอใจ เฝ้าคำนึงถึงนางจนไม่กินอาหาร คิดแต่ว่าถ้าเราไม่ได้นางฉาวา เราจะต้องตาย แล้วก็ไม่รับอาหารอีกเลย ครั้นวันที่ ๗ นายพรานเนื้อกลับมา ทราบว่าอุปกาชีวกมารับอาหารเพียงวันเดียวแล้วไม่มาอีก ก็เข้าไปถามว่าท่านไม่สบายหรือ อุปกาชีวกก็ได้แต่ถอนใจไม่กล้าบอก ครั้นนายพรานเนื้อขอร้องว่า จงบอกเถิด ข้าพเจ้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน อุปกาชีวกจึงบอกว่า ถ้าเราได้ธิดาของท่านจึงจะมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ได้ก็เห็นจะตาย นายพรานจึงถามว่า ท่านรู้จักศิลปะคือการทำมาหากินอะไรบ้าง อุปกาชีวกบอกว่า ไม่ทราบ นายพรานก็ถามว่า ถ้าอย่างนั้นท่านจะครองเรือนได้อย่างไร อุปกาชีวกก็ว่า แม้เราไม่รู้ศิลปะอันใดเราก็มีแรงพอที่จะช่วยท่านหาบเนื้อ ขายเนื้อได้ นายพรานก็ชอบใจ จึงหาผ้าขาวมาให้ผืนหนึ่ง อุปกาชีวกก็นุ่งขาว คือพ้นจากเพศนักบวชมาเป็นคฤหัสถ์ผู้นุ่งขาว นายพรานก็ยกธิดาของตนให้เป็นภรรยา อุปกะกับนางฉาวามีบุตรด้วยกันคนหนึ่งชื่อสุภัททะ เวลาที่สุภัททะร้องไห้ นางฉาวาก็แอบ อุปกะได้ฟังก็เกิดความละอายใจจึงพูดว่า เราจะไปหาสหายของเรา ชื่อว่าอนันตชินะ นางฉาวาเห็นอุปกะไม่พอใจก็ยิ่งพูดจาเยาะเย้ยต่างๆ นานา จนกระทั่งอุปกะทนไม่ได้ ในวันหนึ่งก็ได้หนีภรรยาไปทางมัชฌิมประเทศ เที่ยวถามหาผู้ที่ชื่อว่าอนันตชินะ พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่วิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงทราบด้วยพระญาณจึงได้ตรัสสั่งว่า ถ้าใครมาถามหาอนันตชินะ ให้พามาเฝ้าพระองค์ เมื่ออุปกะมาถึงวิหารเชตวัน ถามหาอนันตชินะ พระภิกษุก็พาไปเฝ้าพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงธรรมให้ฟัง เขาได้ฟังแล้วก็บรรลุเป็นพระอนาคามีในเวลาที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจบลง นี้ก็เป็นเรื่องราวของอุปกาชีวกตามที่มีมาในอรรถกถามุนิสูตร ที่คุณผู้ถามอยากทราบ แต่ในเถรีคาถาแสดงคาถาของพระอรหันตเถรีรูปหนึ่งชื่อว่าจาปาเถรี ว่า ที่มา อ้างอิงและแนะนำ :- พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ เรื่องอุปกาชีวก https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=4&A=282&Z=307 พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ โพธิราชกุมารสูตร https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=13&A=7663&Z=8236#513 พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา จาปาเถรีคาถา https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=26&A=9721&Z=9781 พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต มุนีสูตร https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=7600&Z=7661 |
ดาวน์โหลดนานาปัญหาทั้ง ๕๑ ข้อ นานาปัญหา โดยคณะสหายธรรม บันทึก ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]