ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



นานาปัญหา
โดย คณะสหายธรรม
 

๓. เหตุใดเทวดาตายแล้วจึงอยากเกิดเป็นมนุษย์
          ถาม  เคยได้ยินว่า เทวดาเมื่อตายแล้วก็ปรารถนาเกิดเป็นมนุษย์จริงหรือไม่
          เพราะมนุษย์เราตายแล้วก็ปรารถนาจะเป็นเทวดากันทั้งนั้น
          เหตุใดเทวดาจึงปรารถนาเกิดเป็นมนุษย์

          ตอบ  ปัญหาที่คุณถามมานี้เป็นความจริง
          พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเรื่องนี้ไว้ในจวมานสูตร ขุ.อิติวุตตกะ ข้อ ๒๖๑-๒๖๒ ว่า
          “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดเทวดาผู้จะจุติจากเทพนิกาย เมื่อนั้นนิมิต ๕ ประการย่อมปรากฏแก่เทวดานั้น คือ
                    ดอกไม้ย่อมเหี่ยวแห้ง ๑
                    ผ้าทรงย่อมเศร้าหมอง ๑
                    เหงื่อย่อมไหลออกจากรักแร้ ๑
                    ผิวพรรณเศร้าหมองย่อมปรากฏที่กาย ๑
                    ย่อมไม่ยินดีในทิพยะอาสน์ของตน ๑
          ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายทราบว่า เทพบุตรนี้จะต้องเคลื่อนจากเทพนิกาย ย่อมพลอยยินดีกะเทพบุตรนั้นด้วยถ้อยคำ ๓ อย่างว่า
                    แน่ะท่านผู้เจริญ ขอท่านจากเทวโลกนี้ไปสู่สุคติ ๑
                    ครั้นได้ไปสู่สุคติแล้ว ขอท่านจงได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ๑
                    ครั้นได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้วขอจงเป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยดี ๑”
          เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้ ภิกษุรูปหนึ่งทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย อะไรเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว และอะไรเป็นส่วนการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย พระเจ้าข้า”
          พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
          “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นมนุษย์แล เป็นส่วนแห่งการไปสุคติของเทวดาทั้งหลาย
          เทวดาครั้นเกิดเป็นมนุษย์แล้วย่อมได้ศรัทธาในธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วนี้แล เป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว
          ก็ศรัทธาของเทวดาทั้งหลายเป็นคุณชาติตั้งลง มีมูลรากเกิดแล้ว ประดิษฐานมั่นคง อันสมณะพราหมณ์ เทวดา มาร พรหมหรือใครๆ ในโลกพึงนำไปไม่ได้
          ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย”
          ครั้นพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ได้ตรัสสรุปเป็นคาถาว่า
          “เมื่อใดเทวดาจะต้องจุติจากเทพนิกายเพราะความสิ้นอายุ เสียง ๓ อย่างของเทวดาทั้งหลายผู้พลอยยินดี ย่อมเปล่งออกไปว่า แน่ะท่านผู้เจริญ ท่านจากโลกนี้ไปแล้วจงถึงสุคติ จงถึงความเป็นสหายแห่งมนุษย์ทั้งหลายเถิด ท่านเป็นมนุษย์แล้วจงได้ศรัทธาอย่างยิ่งในพระสัทธรรม ศรัทธาของท่านนั้นพึงเป็นคุณชาติตั้งลงมั่น มีมูลเกิดแล้ว มั่นคงในพระสัทธรรมที่พระตถาคตประกาศดีแล้ว อันใครๆ พึงนำไปไม่ได้ตลอดชีวิต ท่านจงละกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต และอย่ากระทำอกุศลกรรมอย่างอื่นที่ประกอบด้วยโทษ กระทำกุศลด้วยกายด้วยวาจาให้มาก กระทำกุศลด้วยใจหาประมาณมิได้ หาอุปธิมิได้ แต่นั้นท่านจงกระทำบุญอันให้เกิดอุปธิสมบัตินั้นให้มากด้วยทาย แล้วยังสัตว์แม้เหล่าอื่นให้ตั้งอยู่ในพระสัทธรรมในพรหมจรรย์
          เมื่อใดเทวดาพึงรู้แจ้งซึ่งเทวดาผู้จะจุติ เมื่อนั้นย่อมพลอยยินดีความอนุเคราะห์ว่า แน่ะเทวดา ท่านจงมาบ่อยๆ”

          ทั้งหมดนี้คือข้อความในพระสูตรนี้ และจากข้อความในจวมานสูตรนี้ ท่านผู้ถามก็จะเห็นว่า เมื่อเทวดาทั้งหลายเกิดนิมิต ๕ ประการอันแสดงว่าจะต้องจุติจากเทวโลกดังนี้แล้ว เทวดาทั้งหลายอื่นๆ ย่อมอวยพรให้เขาได้เกิดในมนุษย์ ซึ่งเขาถือว่ามนุษย์ภูมิเป็นสุคติภูมิของเทวดา เมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้วขอให้ได้ศรัทธาในพระสัทธรรม คือขอให้ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า ฟังแล้วมีศรัทธาปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนนั้น เมื่อปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนนั้นแล้ว ขอให้ดำรงมั่นคงในพระธรรมนั้น นั่นคือขอให้ได้บรรลุมรรคผล คือโสดาปัตติผล เทวดาทั้งหลายหวังจะให้เทวดาผู้จะจุตินั้นสำเร็จเป็นพระโสดาบันแล้วกลับไปเสวยสุขอยู่ในเทวโลกอีก จึงกล่าวว่า ดูก่อนเทวดา ขอท่านจงกลับมาสู่เทพนิกายนี้บ่อยๆ คือ ขอให้สำเร็จเป็นโสดาบันแล้วกลับมาในหมู่เทพอีกนั่นเอง
          ความจริงการเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีโอกาสทำบุญทำกุศลได้ทุกอย่าง แม้การที่จะบรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าก็ต้องเป็นมนุษย์ เป็นเทวดาเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้
________________________________________

ที่มา อ้างอิงและแนะนำ :-
          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
          จวมานสูตร
https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=6074&Z=6109

ดาวน์โหลดนานาปัญหาทั้ง ๕๑ ข้อ นานาปัญหา โดยคณะสหายธรรม บันทึก ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]