บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น |
นานาปัญหา โดย คณะสหายธรรม | |
ตอบ ความจริงเรื่องของความกตัญญูกตเวทีเป็นเรื่องดี สมควรอย่างยิ่งที่จะทำ ในสมัยเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารเวฬุวัน ใกล้กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งจำพรรษาอยู่ที่กรุงราชคฤห์ได้ออกไปหาท่านพระสารีบุตร ที่ทักขิณาคีรีชนบท ท่านพระสารีบุตรจึงได้ถามถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์ ทราบ นั่นก็คือ เมื่อพระราชารับสั่งให้เขาไปเอาข้าวกล้าบางส่วนมาจากคนทั้ง ครั้นพราหมณ์ได้ข้าวกล้ามาทั้งหมดแล้ว แทนที่จะนำไปถวายพระราชาทั้งหมด กลับยักยอกเก็บไว้ที่บ้านของตนเป็นจำนวนมาก นำไปถวายพระราชาแต่น้อย พระราชาตรัสถามว่า ท่านไปเบียดเบียนพวกพราหมณ์หรือคหบดีหรือเปล่า พราหมณ์ก็ทูลว่า ข้าพระองค์มิได้เบียดเบียนคนเหล่านั้น แต่ในขณะนี้ข้าวกล้ามีน้อย ข้าพระองค์จึงเอามาแต่น้อย เพราะเหตุที่พราหมณ์อ้างดังนี้ ภิกษุรูปนั้นจึงกล่าวว่า ธนัญชานีอาศัยพราหมณ์และคหบดีปล้นพระราชา คือโกงพระราชา ท่านพระสารีบุตรฟังคำเล่าเช่นนั้นแล้วก็กล่าวว่า ธนัญชานีพราหมณ์เป็นผู้ประมาทเสียแล้ว เราควรจะไปหา คือไปเตือนธนัญชานีพราหมณ์ ด้วยเหตุนี้ เมื่อท่านพระสารีบุตรอยู่ที่ทักขิณาคีรีชนบทพอสมควรแล้วก็ได้กลับไปพักที่พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ ครั้นเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรเข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์แล้ว กลับจากบิณฑบาตภายหลังภัตแล้วได้ไปหาธนัญชานีพราหมณ์ถึงที่อยู่ ในขณะที่เขากำลังให้ ธนัญชานีพราหมณ์จึงเข้าไปหาท่านพระสารีบุตร นั่ง ณ ที่ควร เมื่อท่านพระสารีบุตรถามว่า ท่านยังเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่หรือ ธนัญชานีตอบว่า ที่ไหนได้ท่านพระสารีบุตร ข้าพเจ้าเป็นผู้ประมาท เพราะต้องเลี้ยงดูมารดาบิดา บุตรภรรยา ข้าทาสบริวาร ต้องทำกิจการงานสำหรับมิตรอำมาตย์ญาติสาโลหิต ตลอดจนแขกผู้จรมา ทำบุญอุทิศให้บุพเปตชน บวง ท่านพระสารีบุตรฟังแล้วกล่าวว่า ท่านเข้าใจว่าอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งมารดาบิดา นายนิรยบาลจะพึงฉุดคร่าเขาไปยังนรก เพราะกรรมนั้น เขาจะขอร้องอ้อนวอนว่า เราประพฤติไม่ชอบธรรม เพราะเหตุแห่งมารดาบิดา นายนิรยบาลอย่าฉุดคร่าเราไปลงนรกเลย หรือมารดาบิดาจะขอร้องนายนิรยบาลว่า บุตรของเราประพฤติไม่ชอบธรรม เพราะเหตุ ธนัญชานีพราหมณ์กล่าวว่า แม้ผู้นั้นจะคร่ำครวญมากมายประการใด นายนิรย จากนั้น ท่านพระสารีบุตรก็ถามต่อไปทีละอย่างๆ ว่า ถ้าหากว่า บุคคล พราหมณ์ตอบว่า ไม่ได้ แม้เขาจำคร่ำครวญอย่างไร นายนิรยบาลก็ต้องฉุด ท่านพระสารีบุตรฟังดังนั้นแล้ว จึงถามว่า บุคคลผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประ ธนัญชานีพราหมณ์ก็ตอบว่า ผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรมเพราะเหตุแห่งมารดาบิดา ไม่ประเสริฐเลย ส่วนผู้ประพฤติชอบธรรม ประพฤติถูกธรรมเพราะเหตุแห่งมารดาบิดา ประเสริฐกว่า ท่านพระสารีบุตรจึงกล่าวว่า การงานอย่างอื่นที่ชอบธรรม ซึ่งคนทั้ง กรรมที่ชอบธรรมเป็นบุญเป็นกุศลนั้นก็คือ กรรมที่สุจริตทางกาย ๓ ทางวาจา ๔ ทางใจ ๓ รวมเป็น ๑๐ ซึ่งก็คือประพฤติแต่กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนั่นเอง คือไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น ไม่มีความเห็นผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ ส่วนการเลี้ยงชีพที่ผิดศีลธรรมก็ได้แก่เลี้ยงชีพด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการอันตรงกันข้ามกับกุศลกรรมบถ ๑๐ ที่กล่าวแล้วมีการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ เป็นต้น จนถึงมิจฉาทิฏฐิ การเลี้ยงชีพในทางที่ผิดนั้นเป็นเหตุให้ตกนรก ก็กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้แหละที่ท่านพระสารีบุตรบอกพราหมณ์ว่า เป็นกรรม ธนัญชานีพราหมณ์ฟังแล้วก็ชื่นชมอนุโมทนา กราบลาท่านพระสารีบุตรแล้ว ต่อมา ธนัญชานีพราหมณ์ป่วยเป็นไข้หนัก ได้สั่งบุรุษคนหนึ่งไปถวายบังคมพระ ท่านพระสารีบุตรก็ได้มาตามคำนิมนต์นั้น เมื่อมาถึงถามพราหมณ์ว่า ยังพออดทนต่อทุกข พราหมณ์ตอบว่า ข้าแต่พระสารีบุตร ข้าพเจ้าทนไม่ไหว ทุกขเวทนากล้านัก ไม่ทุเลาลงเลย ชีวิตของข้าพเจ้าเห็นจะเป็นไปไม่ได้ ลมเสียดแทงศีรษะกล้านัก ดุจบุรุษมีกำลังเอาเหล็กแหลมคมกดศีรษะ เวทนาในศีรษะของข้าพเจ้าทุกข์เหลือทน เหมือนนายโคฆาตเอามีดสำหรับเชือดเนื้อโคมาเชือดท้องข้าพเจ้าฉะนั้น ในกายของข้าพเจ้าร้อนเหลือเกิน ดุจบุรุษมีกำลังมากสองคนช่วยกันจับบุรุษมีกำลังน้อยกว่าคนละแขน รมย่างไว้บนถ่านเพลิงฉะนั้น ข้าพเจ้าทนไม่ไหว ทุกขเวทนากล้านัก ทวีขึ้นไม่ลดลงเลย ท่านพระสารีบุตรถามว่า นรกกับกำเนิดสัตว์เดรัจฉานไหนจะดีกว่ากัน พราหมณ์ตอบว่า กำเนิดสัตว์เดรัจฉานดีกว่า ท่านพระสารีบุตรก็ถามต่อไปว่า กำเนิดสัตว์เดรัจฉานกับปิตติวิสัยไหนจะดีกว่ากัน พราหมณ์ตอบว่า ปิตติวิสัยดีกว่า ท่านพระสารีบุตรถามต่อไปว่า ปิตติวิสัยกับมนุษย์ไหนจะดีกว่ากัน พราหมณ์ตอบว่า มนุษย์ดีกว่า ท่านพระสารีบุตรถามอีกว่า มนุษย์กับเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาไหนจะดีกว่ากัน พราหมณ์ตอบว่า เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาดีกว่า ท่านพระสารีบุตรก็ถามว่า เทวดาชั้นสูงขึ้นไปตามลำดับจนถึงปรนิมมิตวสวดีว่า เทวดาชั้น พราหมณ์ย้อนถามว่า ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่าพรหมโลกหรือ ท่านพระสารีบุตรได้ฟังพราหมณ์ถามเช่นนั้น ก็คิดว่าพราหมณ์นี้น้อมใจไปในพรหมโลก เพราะฉะนั้น เราจะแสดงทางไปพรหมโลกแก่เขา เมื่อท่านคิดดังนี้จึงบอกให้พราหมณ์ตั้งใจฟัง เราจะแสดงทางเพื่อความเป็นสหายของพรหม ด้วยการแสดงการเจริญพรหมวิหารสี่คือ เมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา โดยแสดงว่า ภิกษุในธรรมวินัยมีใจประกอบด้วยเมตตาแผ่ไปทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวา และตลอดโลกทั่วสัตว์ทุกหมู่เหล่าเพื่อประโยชน์แก่สัตว์ทั่วหน้า ในที่ทุกสถานด้วยใจอันประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์เป็นมหัคคตะ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ ข้อนี้เป็นทางเพื่อความเป็นสหายของพรหม แล้วก็แสดงการเจริญกรุณา มุทิตาและอุเบกขา โดยทำนองเดียวกันว่า ล้วนเป็นทางเพื่อความเป็นสหายของพรหม เมื่อท่านพระสารีบุตรแสดงทางไปพรหมโลกแก่ธนัญชานีพราหมณ์อย่างนี้แล้ว ธนัญชานีพราหมณ์ได้กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น ขอท่านจงถวายบังคมพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้าตามคำของข้าพเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธนัญชานี ท่านพระสารีบุตรก็นำความนั้นมากราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าตามคำของพราหมณ์ และเมื่อธนัญชานีพราหมณ์ทำกาละแล้ว ก็ได้ไปเกิดในพรหมโลกชั้นต่ำ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสบอกภิกษุทั้ง ท่านพระสารีบุตรก็ทูลให้ทราบว่าที่ท่านมิได้แสดงอริยสัจสี่นั้น เป็นเพราะท่านเห็นว่าพวกพราหมณ์มักน้อมใจไปพรหมโลก จึงได้แสดงทางเพื่อไปพรหมโลก พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ธนัญชานีพราหมณ์ทำกาละไปเกิดในพรหมโลกแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป เมื่อท่านพระสารีบุตรจะแสดงธรรม แม้แต่คาถาเดียว ท่าน สรุปว่า การประพฤติชั่ว การประพฤติไม่ชอบธรรมเพื่อมารดาบิดาหรือบุตรภรรยาเป็นต้น เป็นเหตุนำไปนรก จึงไม่ควรกระทำ เพราะสัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมชั่วก็ต้องรับผลชั่วโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ เพราะถึงจะอ้าง นายนิรยบาลก็ไม่ยอม ที่มา อ้างอิงและแนะนำ :- พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ธนัญชานิสูตร https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=13&A=10725&Z=11069 พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) คำว่า พรหมวิหาร 4 https://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=พรหมวิหาร_4 |
ดาวน์โหลดนานาปัญหาทั้ง ๕๑ ข้อ นานาปัญหา โดยคณะสหายธรรม บันทึก ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]