ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๙ ภาษาบาลีอักษรไทย ม.อ. (ปปญฺจ.๓)

                       ๖. องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนา
      [๓๔๗] เอวมฺเม สุตนฺติ องฺคุลิมาลสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุลีนํ มาลํ ธาเรตีติ
กสฺมา ธาเรติ? อาจริยวจเนน. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา:-
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. อาปนฺนสตฺตา
      อยํ กิร โกสลรญฺโญ ปุโรหิตสฺส มนฺตานิยา นาม พฺราหฺมณิยา
กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. พฺราหฺมณิยา รตฺติภาเค คพฺภวุฏฺฐานํ อโหสิ.
ตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลึสุ, รญฺโญ
มงฺคลสกุนฺโตปิ ๑- สิริสยเน ฐปิตา อสิลฏฺฐิปิ ปชฺชลิ. พฺราหฺมโณ นิกฺขมิตฺวา
นกฺขตฺตํ โอโลเกนฺโต โจรนกฺขตฺเตน ชาโตติ รญฺโญ สนฺติกํ คนฺตฺวา
สุขเสยฺยภาวํ ปุจฺฉิ.
      ราชา "กุโต เม อาจริย สุขเสยฺยา, มยฺหํ มงฺคลาวุธํ ปชฺชลิ, รชฺชสฺส
วา ชีวิตสฺส วา อนฺตราโย ภวิสฺสติ มญฺเญ"ติ. มา ภายิ มหาราช, มยฺหํ
ฆเร กุมาโร ชาโต, ตสฺสานุภาเวน น เกวลํ ตุยฺหํ นิเวสเน, สกลนคเรปิ
อาวุธานิ ปชฺชลิตานีติ. กึ ภวิสฺสติ อาจริยาติ. โจโร ภวิสฺสติ มหาราชาติ.
กึ เอกโจรโก, อุทาหุ รชฺชทูสโก โจโรติ. เอกโจรโก เทวาติ. เอวํ วตฺวา จ
ปน รญฺโญ มนํ คณฺหิตุกาโม อาห "มาเรถ นํ เทวา"ติ. เอกโจรโก สมาโน กึ
กริสฺสติ, กรีสสหสฺเส เขตฺเต เอกํ สาลิสีสํ วิย โหติ, ปฏิชคฺคถ นนฺ"ติ. ตสฺส
นามคฺคหณํ คณฺหนฺตา สยเน ฐปิตมงฺคลอสิลฏฺฐิ, ฉทเน ฐปิตา สรา,
กปฺปาสปิจุมฺหิ ฐปิตํ ตาลวณฺฏกรณสตฺถกนฺติ เอเต ปชฺชลนฺตา กิญฺจิ น หึสึสุ,
ตสฺมา อหึสโกติ นามํ อกํสุ. ตํ สิปฺปุคฺคหณกาเล ตกฺกสิลํ เปสยึสุ.
      โส ธมฺมนฺเตวาสิโก หุตฺวา สิปฺปํ ปฏฺฐเปสิ. วตฺตสมฺปนฺโน กึการปฏิสฺสาวี
มนาปจารี ปิยวาที อโหสิ. เสสอนฺเตวาสิกา พาหิรกา อเหสุํ, เต "อหึสกมาณวกสฺส
อาคตกาลโต ปฏฺฐาย มยํ น ปญฺญายาม, กถํ นํ ภินฺเทยฺยามา"ติ นิสีทิตฺวา
มนฺตยนฺตา "สพฺเพหิ อติเรกปญฺญตฺตา ทุปฺปญฺโญติ น สกฺกา วตฺตุํ, วตฺตสมฺปนฺนตฺตา
ทุพฺพตฺโตติ น สกฺกา วตฺตุํ, ชาติสมฺปนฺนตฺตา ทุชฺชาโตติ น สกฺกา วตฺตุํ,
กินฺติ กริสฺสามา"ติ, ตโต เอกํ ขรมนฺตํ มนฺตยึสุ "อาจริยสฺส ๒- อนฺตรํ กตฺวา
นํ ภินฺทิสฺสามา"ติ ตโย ราสี หุตฺวา ปฐมํ เอกจฺเจ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา
วนฺทิตฺวา อฏฺฐํสุ. กึ ตาตาติ. อิมสฺมึ เคเห เอกา กถา สุยฺยตีติ. ๓- กึ ตาตาติ.
อหึสกมาณโว ตุมฺหากํ อนฺตเร ทุพฺภตีติ ๔- ปชานามาติ. ๕- อาจริโย สนฺตชฺเชตฺวา
@เชิงอรรถ:  ม. มงฺคลํ กโรนฺโต     สี. อาจริยินึ    ก., ม. เอกํ กถํ สุยฺยามาติ
@ ม. ทุพฺพตีติ      ฉ.ม. มญฺญามาติ
"คจฺฉถ วสลา, มา เม ปุตฺตํ มยฺหํ อนฺตเร ปริภินฺทถา"ติ นิฏฺฐุภิ. ตโต
อิตเร, อถ อิตเรติ ตโยปิ โกฏฺฐาสา อาคนฺตฺวา ตเถว วตฺวา "อมฺหากํ
อสทฺทหนฺตา อุปปริกฺขิตฺวา ชานาถา"ติ อาหํสุ.
      อาจริโย สิเนเหน วทนฺเต ทิสฺวา "อตฺถิ มญฺเญ สนฺถโว"ติ ปริภิชฺชิตฺวา
จินฺเตสิ "ฆาเตมิ นนฺ"ติ. ตโต จินฺเตสิ "สเจ ฆาติสฺสามิ, `ทิสาปาโมกฺโข
อาจริโย อตฺตโน สนฺติกํ สิปฺปุคฺคหณตฺถํ อาคเต มาณวเก  โทสํ อุปฺปาเทตฺวา
ชีวิตา โวโรเปตี'ติ ปุน โกจิ สิปฺปุคฺคหณตฺถํ น อาคมิสฺสติ, เอวํ เม ลาโภ
ปริหายิสฺสติ, อถ นํ สิปฺปปริโยสานูปจาโรติ วตฺวา ชงฺฆสหสฺสํ ฆาเตหีติ
วกฺขามิ. อวสฺสํ เอตฺถ เอโก อุฏฺฐาย ตํ ฆาเตสฺสตี"ติ.
      อถ นํ อาห "เอหิ ตาต ชงฺฆสหสฺสํ ฆาเตหิ, เอวํ เต สิปฺปสฺส
อุปจาโร กโต ภวิสฺสตี"ติ มยํ อหึสกกุเล ชาตา, น สกฺกา อาจริยาติ.
อลทฺธูปจารํ สิปฺปํ ผลํ น เทติ ตาตาติ. โส ปญฺจาวุธํ คเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา
อฏวึ ปวิฏฺโฐ. อฏวีปวิสนฏฺฐาเนปิ อฏวีมชฺเฌปิ อฏวิโต นิกฺขมนฏฺฐาเนปิ
ฐตฺวา มนุสฺเส ฆาเตติ. ๑- วตฺถํ วา เวฐนํ วา น คณฺหติ. เอโก เทฺวติ
คหิตมตฺตเมว กโรนฺโต คจฺฉติ, คณนํปิ น อุคฺคณฺหติ. ปกติยาปิ ปญฺญวา เอส,
ปาณาติปาตสฺส ปน จิตฺตํ น ปติฏฺฐาติ. ตสฺมา อนุกฺกเมน คหณํปิ น สลฺลกฺเขสิ,
เอเกกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ฐเปติ. ฐปิตฏฺฐาเน องฺคุลิโย วินสฺสนฺติ, ตโต
วิชฺฌิตฺวา องฺคุลีนํ มาลํ กตฺวา ธาเรสิ. เตเนว จสฺส องฺคุลิมาโลติ สงฺขา
อุทปาทิ, โส สพฺพํ อรญฺญํ นิสฺสญฺจารมกาสิ, ทารุอาทีนํ อตฺถาย อรญฺญํ
คนฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ.
      รตฺติภาเค อนฺโตคามํปิ อาคนฺตฺวา ปาเทน ปหริตฺวา ทฺวารํ อุคฺฆาเตติ.
ตโต สยิเตเยว มาเรตฺวา เอโก เอโกติ คเหตฺวา ๒- คจฺฉติ. คาโม โอสริตฺวา
นิคเม อฏฺฐาสิ, นิคโม นคเร. มนุสฺสา ติโยชนโต ปฏฺฐาย ฆรานิ ปหาย
ทารเก หตฺเถสุ คเหตฺวา อาคมฺม สาวตฺถึ ปริวาเรตฺวา ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา
@เชิงอรรถ:  สี. ฆาเตสิ       สี. คเณตฺวา
ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา "โจโร เต เทว วิชิเต องฺคุลิมาโล นามา"ติอาทีนิ
วทนฺตา กนฺทนฺติ. ตโต ๑- "มยฺหํ ปุตฺโต ภวิสฺสตี"ติ ญตฺวา พฺราหฺมโณ ๒-
พฺราหฺมณึ อาห "โภติ องฺคุลิมาโล นาม โจโร อุปฺปนฺโน, โส น อญฺโญ, ตว
ปุตฺโต อหึสกกุมาโร. อิทานิ ราชา ตํ คณฺหิตุํ นิกฺขมิสฺสติ, กึ กตฺตพฺพนฺติ.
คจฺฉ สามิ, ปุตฺตํ เม คเหตฺวา เอหีติ. นาหํ ภทฺเท อุสฺสหามิ, จตูสุ หิ ชเนสุ
วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, โจโร เม ปุราณสหาโยติ อวิสฺสาสนีโย, สาขา เม
ปุราณสนฺถตาติ อวิสฺสาสนียา, ราชา มํ ปูเชตีติ อวิสฺสาสนีโย, อิตฺถี เม
วสงฺคตาติ อวิสฺสาสนียาติ. มาตุหทยํ ปน มุทุกํ โหติ. ตสฺมา สา อาห อหํ ปน
คนฺตฺวา มยฺหํ ปุตฺตํ อาเนสฺสามีติ นิกฺขนฺตา.
      ตํทิวสํ จ ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต องฺคุลิมาลํ ทิสฺวา "มยิ
คเต เอตสฺส โสตฺถิ ภวิสฺสติ. อคามเก อรญฺเญ ฐิโต จตุปฺปทิกํ คาถํ สุตฺวา
มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ฉ อภิญฺญา สจฺฉิกริสฺสติ. สเจ น คมิสฺสามิ, มาตริ
อปรชฺฌิตฺวา อนุทฺธรณีโย ภวิสฺสติ, กริสฺสามิสฺส สงฺคหนฺ"ติ ปุพฺพณฺหสมยํ
นิวาเสตฺวา ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ตํ สงฺคณฺหิตุกาโม วิหารา นิกฺขมิ.
เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ "อถโข ภควา"ติอาทิ วุตฺตํ.
      [๓๔๘] สงฺคริตฺวา สงฺคริตฺวาติ ๓- สงฺเกตํ กตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา.
หตฺถตฺถํ คจฺฉนฺตีติ หตฺเถ อตฺถํ วินาสํ คจฺฉนฺติ. กึ ปน เต ภควนฺตํ
สญฺชานิตฺวา เอวํ วทนฺติ อสญฺชานิตฺวาติ, อสญฺชานิตฺวา. อญฺญาตกเวเสน หิ ภควา
เอกโกว อคมาสิ. โจโรปิ ตสฺมึ สมเย ทีฆรตฺตํ ทุพฺโภชเนน จ ทุกฺขเสยฺยาย
จ อุกฺกณฺฐิโต โหติ. กิตฺตกา ปนาเนน มนุสฺสา มาริตาติ. เอเกนูนสหสฺสํ.
โส ปน อิทานิ เอกํ ลภิตฺวา สหสฺสํ ปูเรสฺสตีติ สญฺญี หุตฺวา สยเมว ปฐมํ
ปสฺสามิ, ตํ ฆาเตตฺวา คณนํ ปูเรตฺวา สิปฺปสฺส อุปจารํ กตฺวา เกสมสฺสุํ
การาเปตฺวา ๔- นหายิตฺวา วตฺถานิ ปริวตฺเตตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามีติ
อฏวีมชฺฌโต อฏวีมุขํ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ ฐิโตว ภควนฺตํ อทฺทส. เอตมตฺถํ
ทสฺเสตุํ  "อทฺทสา โข"ติอาทิ วุตฺตํ.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ภคฺคโว            ฉ.ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ
@ สี. สํหริตฺวา สํหริตฺวาติ     ฉ.ม. โอหาเรตฺวา
      อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาเรสีติ ๑- มหาปฐวึ อุมฺมิโย อุฏฺฐาเปนฺโต วิย
สงฺหริตฺวา อปรภาเค อกฺกมติ, โอรภาเค วลิโย นิกฺขมนฺติ, องฺคุลิมาโล
สรกฺเขปมตฺตํ มุญฺจิตฺวา คจฺฉติ. ภควา ปุรโต มหนฺตํ องฺคณํ ทสฺเสตฺวา สยํ มชฺเฌ
โหติ, โจโร อนฺเต. โส "อิทานิ นํ ปาปุณิตฺวา คณฺหิสฺสามี"ติ สพฺพถาเมน
ธาวติ. ภควา องฺคณสฺส ปาริมนฺเต โหติ, โจโร มชฺเฌ. โส "เอตฺถ นํ
ปาปุณิตฺวา คณฺหิสฺสามี"ติ เวเคน ธาวติ. ภควา ตสฺส ปุรโต มาติกํ วา ถลํ วา
ทสฺเสติ, เอเตนุปาเยน ตีณิ โยชนานิ คเหตฺวา อคมาสิ. โจโร กิลมิ, มุเข
เขโฬ สุสฺสิ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจึสุ. อถสฺส "อจฺฉริยํ วต โภ"ติ เอตทโหสิ.
มิคํปีติ มิคํ กสฺมา คณฺหติ? ฉาตกสมเย อาหรตฺถํ. โส กิร เอกํ คุมฺพํ
ฆฏฺเฏตฺวา มิเค อุฏฺฐาเปติ. ตโต จิตฺตรุจิยํ มิคํ อนุพนฺธนฺโต คณฺหิตฺวา ปจิตฺวา
ขาทติ. ปุจฺเฉยฺยนฺติ เยน การเณนายํ คจฺฉนฺโตว ฐิโต นาม, อหญฺจ ฐิโตว
อฏฺฐิโต นาม, ยนฺนูนาหํ อิมํ สมณํ ตํ ตํ การณํ ๒- ปุจฺเฉยฺยนฺติ อตฺโถ.
      [๓๔๙] นิธายาติ โย วิหึสนตฺถํ ภูเตสุ ทณฺโฑปิ ปวตฺตยิตพฺโพ
สิยา, ตํ นิธาย อปเนตฺวา เมตฺตาย ขนฺติยา ปฏิสงฺขาย อวิหึสาย
สารณียธมฺเมสุ ฐิโต อหนฺติ อตฺโถ. ตุวมฏฺฐิโตสีติ ปาเณสุ อสญฺญตตฺตา เอตฺตกานิ
ปาณสหสฺสานิ ฆาเตนฺตสฺส ตว เมตฺตา วา ขนฺติ วา ปฏิสงฺขา วา อวิหึสา
วา สารณียธมฺโม วา นตฺถิ, ตสฺมา ตุวํ อฏฺฐิโตสิ, อิทานิ อิริยาปเถน ฐิโตปิ
นิรเย ธาวิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยํ ปิตฺติวิสเย อสุรกาเย วา ธาวิสฺสสีติ วุตฺตํ
โหติ. ตโต โจโร "มหา อยํ สีหนาโท, มหนฺตํ คชฺชิตํ, น อิทํ อญฺญสฺส
ภวิสฺสติ, มหามายาย ปุตฺตสฺส สิทฺธตฺถสฺส สมณรญฺโญ เอตํ คชฺชิตํ, ทิฏฺโฐ
วตมฺหิ มญฺเญ ติขิณจกฺขุนา ๓- สมฺมาสมฺพุทฺเธน, สงฺคหกรณตฺถํ เม ภควา
อาคโต"ติ จินฺเตตฺวา จิรสฺสํ วต เมติอาทิมาห. ตตฺถ มหิโตติ เทวมนุสฺสาทีหิ
จตุปจฺจยปูชาย ปูชิโต. ปจฺจุปาทีติ ๔- จิรสฺสํ กาลสฺส อจฺจเยน มยฺหํ สงฺคหตฺถาย
อิมํ มหาวนํ ปฏิปชฺชิ. ปชหิสฺส ปาปนฺติ ๕- ปชหิตฺวา ปาปํ.
@เชิงอรรถ:  สี. สงฺขาตีติ, ฉ.ม. อภิสงฺขาสีติ            ฉ.ม. สมณํ ตํ การณํ
@ ม. ขีณาสวภิกฺขุนา       ม. สจฺจวาทีทิ     สี. ปหสฺสํ ปาปนฺติ,
@ฉ.ม. ปหาย ปาปนฺติ
      อิเตฺววาติ เอวํ วตฺวาเยว. อาวุธนฺติ ปญฺจาวุธํ. โสพฺเภติ สมนฺตโต
ฉินฺเน. ปปาเตติ เอกโต ฉินฺเน. นรเกติ ผลิตฏฺฐาเน. อิธ ปน ตีหิปิ อิเมหิ
ปเทหิ อรญฺญเมว วุตฺตํ. อกิรีติ ขิปิ ฉฑฺเฑสิ.
      ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจาติ ภควโต อิมํ ปพฺพาเชนฺโต กุหึ สตฺถกํ
ลภิสฺสามิ, กุหึ ปตฺตจีวรนฺติ ปริเยสนกิจฺจํ นตฺถิ, กมฺมํ ปน โอโลเกสิ. อถสฺส
ปุพฺเพ สีลวนฺตานํ อฏฺฐปริกฺขารภณฺฑกสฺส ทินฺนภาวํ ญตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ
ปสาเรตฺวา "เอหิ ภิกฺขุ สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมาทุกฺขสฺส
อนฺตกิริยายา"ติ อาห. โส สห วจเนเนว อิทฺธิมยํ ปตฺตจีวรํ ปฏิลภิ. ตาวเทวสฺส
คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สมณลิงฺคํ ปาตุรโหสิ.
            "ติจีวรญฺจ ปตฺโต จ         วาสี สูจิ จ พนฺธนํ
             ปริสฺสาวเนน อฏฺเฐเต      ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน"ติ
      เอวํ วุตฺตา อฏฺฐปริกฺขารา สรีรปฏิพทฺธาว หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. เอเสว
ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโวติ เอส เอหิภิกฺขุภาโว ตสฺส อุปสมฺปนฺนภิกฺขุภาโว อโหสิ,
น หิ เอหิภิกฺขูนํ วิสุํ อุปสมฺปทา นาม นตฺถิ.
      [๓๕๐] ปจฺฉาสมเณนาติ ภณฺฑคฺคาหเกน ปจฺฉาสมเณน, เตเนว อตฺตโน
ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา ตํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา คโตติ อตฺโถ. มาตาปิสฺส
อฏฺฐอุสภมตฺเตน ฐาเนน อนฺตริตา "ตาต อหึสก กตฺถ ฐิโตสิ, กตฺถ นิสีนฺโนสิ,
กุหึ คโตสิ, มยา สทฺธึ น กเถสิ ตาตา"ติ วทนฺตี อาหิณฺฑิตฺวา อปสฺสมานา
เอตฺโตว คตา.
      ปญฺจมตฺเตหิ อสฺสสเตหีติ สเจ โจรสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ, อนุพนฺธิตฺวา
นํ คณฺหิสฺสามิ. สเจ มยฺหํ ปราชโย ภวิสฺสติ, เวเคน ปลายิสฺสามีติ สลฺลหุเกน
พเลน นิกฺขมิ. เยน อาราโมติ กสฺมา อารามํ อคมาสิ? โส กิร โจรสฺส ภายติ,
โจเรน ๑- คนฺตุกาโม น คจฺฉติ, ครหา ภเยน นิกฺขมิ. เตนทสฺส เอตทโหสิ
"สมฺมาสมฺพุทฺธํ วนฺทิตฺวา นิสีทิสฺสามิ, โส ปุจฺฉิสฺสติ `กสฺมา พลํ คเหตฺวา
นิกฺขนฺโตสีติ? อถาหํ อาโรเจสฺสามิ, ภควา หิ มํ น เกวลํ สมฺปรายิเกเนว
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. จิตฺเตน
อตฺเถน สงฺคณฺหาติ, ทิฏฺฐธมฺมิเกนปิ สงฺคณฺหาติเยว. โส สเจ มยฺหํ ชโย ภวิสฺสติ,
อธิวาเสสฺสติ. สเจ ปราชโย ภวิสฺสติ `กึ เต มหาราช เอกํ โจรํ อารพฺภ
คมเนนา'ติ วกฺขติ. ตโต มํ ชโน เอวํ สญฺชานิสฺสติ `ราชา โจรํ คเหตุํ
นิกฺขนฺโต, สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน นิวตฺติโต"ติ ครหโมกฺขํ สมฺปสฺสมาโน อคมาสิ.
      กุโต ปนสฺสาติ กสฺมา อาห? อปิ นาม ภควา ตสฺส อุปนิสฺสยํ
โอโลเกตฺวา ตํ อาเนตฺวา ปพฺพาเชยฺยาติ ภควโต ปริคณฺหนตฺถํ อาห. รญฺโญติ
น เกวลํ รญฺโญเยว ภยํ อโหสิ, อวเสโสปิ มหาชโน ภีโต ผลกาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา
สมฺมุขสมฺมุขฏฺฐาเนว ปลายิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย อฏฺฏาลเก อารุยฺห
โอโลเกนฺโต อฏฺฐาสิ. เอวญฺจ อโวจ "องฺคุลิมาโล `ราชา มยฺหํ สนฺติกํ
อาคจฺฉตี'ติ ญตฺวา ปฐมตรํ อาคนฺตฺวา เชตวเน นิสินฺโน, ราชา เตน คหิโต,
มยํ ปน ปลายิตฺวา มุตฺตา"ติ. นตฺถิ เต อิโต ภยนฺติ อยํ หิ อิทานิ
กุนฺถ-กิปิลฺลิกํ ชีวิตา น โวโรเปติ, นตฺถิ เต อิมสฺส สนฺติกา ภยนฺติ อตฺโถ.
      กถํ โคตฺโตติ กสฺมา ปุจฺฉติ? ปพฺพชิตํ ทารุณกมฺเมน อุปฺปนฺนํ นามํ
คเหตฺวา โวหริตุํ น ยุตฺตํ, มาตาปิตูนํ โคตฺตวเสน นํ สมุทาจริสฺสามีติ
มญฺญมาโน ปุจฺฉิ. ปริกฺขารานนฺติ เอเตสํ อตฺถาย อหํ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามีติ
อตฺโถ. กเถนฺโตเยว จ อุทเร พทฺธสาฏกํ มุญฺจิตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล ฐเปสิ.
      [๓๕๑] อารญฺญิโกติอาทีนิ จตฺตาริ ธุตงฺคานิ ปาลิยํ อาคตานิ. เถเรน
ปน เตรสปิ สมาทินฺนาเนว อเหสุํ, ตสฺมา อลนฺติ อาห. ยญฺหิ มยํ ภนฺเตติ กึ
สนฺธาย วทติ? "หตฺถึปิ ธาวนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คณฺหามี"ติ อาคตฏฺฐาเน รญฺญา
เปสิตา หตฺถาทโย โส เอวํ อคฺคเหสิ. ราชาปิ "หตฺถีหิเยว นํ ปริกฺขิปิตฺวา
คณฺหถ, อสฺเสเหว, รเถเหวา"ติ เอวํ อเนกวารํ พหู หตฺถาทโย เปเสสิ. เอวํ
คเตสุ ปเนเตสุ "อหํ อเร องฺคุลิมาโล"ติ ตสฺมึ อุฏฺฐาย สทฺทํ กโรนฺเต เอโกปิ
อาวุธํ ปริวตฺเตตุํ นาสกฺขิ, สพฺเพว โกฏฺเฏตฺวา มาเรสิ. หตฺถี อรญฺญหตฺถี,
อสฺสา อรญฺญอสฺสา, รถาปิ ตตฺเถว ภิชฺชนฺตีติ อิทํ สนฺธาย ราชา เอวํ วทติ.
      ปิณฺฑาย ปาวิสีติ น อิทํ ปฐมํ ปาวิสิ. อิตฺถิทสฺสนทิวสํ สนฺธาย ปเนตํ
วุตฺตํ. เทวสิกํปิ ปเนส ปวิสเตว, มนุสฺสา จ นํ ทิสฺวา อุตฺตสนฺติปิ ปลายนฺติปิ
ทฺวารํปิ ถเกนฺติ, เอกจฺเจ องฺคุลิมาโลติ สุตฺวาว ปลายิตฺวา อรญฺญํ วา ปวิสนฺติ,
ฆรํ วา ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ถเกนฺติ. ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตา ปิฏฺฐึ ทตฺวา ติฏฺฐนฺติ.
เถโร อุฬุงฺคยาคุํปิ กฏจฺฉุภิกฺขํปิ น ลภติ, ปิณฺฑปาเตน กิลมติ. พหิ อลภนฺโต
นครํ สพฺพสาธารณนฺติ นครํ ปวิสติ, เยน ทฺวาเรน ปวิสติ, ตตฺถ องฺคุลิมาโล
อาคโตติ กุฏิสหสฺสานํ ภิชฺชนกรณํ โหติ. เอตทโหสีติ การุญฺญปฺปตฺติยา อโหสิ.
เอเกน อูนมนุสฺสสหสฺสํ ฆาเตนฺตสฺส เอกทิวสํปิ การุญฺญํ นาโหสิ, คพฺภมุฬฺหาย
อิตฺถิยา ทสฺสนมตฺเตเนว กถํ อุปฺปนฺนนฺติ. ปพฺพชฺชาพเลน. ปพฺพชฺชาพลญฺหิ
เอตํ.
      เตนหีติ ยสฺมา เต การุญฺญํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อริยาย ชาติยาติ
องฺคุลิมาล เอตํ ตฺวํ มา คณฺห, ๑- เนสา ตว ชาติ. คิหิกาโล เอส, คิหี นาม
ปาณํปิ หนนฺติ, อทินฺนาทานาทีนิปิ กโรนฺติ. อิทานิ ปน เต อริยา นาม
ชาติ. ตสฺมา ตฺวํ "ยโต อหํ ภคินิ ชาโต"ติ สเจ เอวํ วตฺตุํ กุกฺกุจฺจายสิ,
เตนหิ "อริยาย ชาติยา"ติ เอวํ วิเสเสตฺวา วทาหีติ อุยฺโยเชสิ.
      ตํ อิตฺถึ เอตทโวจาติ อิตฺถีนํ คพฺภวุฏฺฐานฏฺฐานํ นาม น สกฺกา ปุริเสน
อุปสงฺกมิตุํ, เถโร กึ กโรสีติ. องฺคุลิมาลตฺเถโร สจฺจกิริยํ กตฺวา โสตฺถิกรณตฺถาย
อาคโตติ อาโรจาเปสิ. ตโต เต สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา เถรสฺส พหิสาณิยํ
ปีฐกํ ปญฺญาเปสุํ. เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา "ยโต อหํ ภคินิ สพฺพญฺญุพุทฺธสฺส
อริยาย ชาติยา ชาโต"ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ, สห สจฺจวจเนเนว ธมฺมกรกโต
มุตฺตอุทกํ วิย ทารโก นิกฺขมิ. มาตุปุตฺตานํ โสตฺถิ อโหสิ. อิทญฺจ ปน
ปริตฺตํ น กิญฺจิ ปริสฺสยํ มทฺทติ, มหาปริตฺตํ นาเมตนฺติ วุตฺตํ. เถเรน
นิสีทิตฺวา สจฺจกิริยกตฏฺฐาเน ปีฐกํ อกํสุ. คพฺภสมฺมุฬฺหํ ติรจฺฉานคติตฺถึปิ
อาเนตฺวา ตตฺถ นิสชฺชาเปนฺติ. ตาวเทว สุเขน คพฺภวุฏฺฐานํ โหติ. ยา ทุพฺพลา
โหติ น สกฺกา อาเนตุํ, ตสฺสา ปีฐกโธวนอุทกํ เนตฺวา สีเส สิญฺจนฺติ, ตํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. คณฺหิ
ขณํเยว คพฺภวุฏฺฐานํ โหติ, อญฺญํปิ โรคํ วูปสเมติ. ยาว กปฺปา
ติฏฺฐนกปาฏิหาริยํ กิเรตํ.
      กึ ปน ภควา เถรํ เวชฺชกมฺมํ การาเปสีติ. น การาเปสิ. เถรญฺหิ
ทิสฺวา มนุสฺสา ภีตา ปลายนฺติ. เถโร ภิกฺขาหาเรน กิลมติ, สมณธมฺมํ กาตุํ
น สกฺโกติ. ตสฺส อนุคฺคเหน สจฺจกิริยํ กาเรสิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ "อิทานิ
กิร องฺคุลิมาลตฺเถโร เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา สจฺจกิริยาย มนุสฺสานํ โสตฺถิภาวํ
กโรตีติ มนุสฺสา เถรํ อุปสงฺกมิตพฺพํ มญฺญิสฺสนฺติ, ตโต ภิกฺขาหาเรน อกิลมนฺโต
สมณธมฺมํ กาตุํ สกฺขิสฺสตี"ติ อนุคฺคเหน สจฺจกิริยํ กาเรสิ. น หิ สจฺจกิริยา
เวชฺชกมฺมํ โหติ. เถรสฺสาปิ จ "สมณธมฺมํ กริสฺสามี"ติ มูลกมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา
รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐาเน นิสินฺนสฺส จิตฺตํ กมฺมฏฺฐานาภิมุขํ น คจฺฉติ, อฏวิยํ
ฐตฺวา มนุสฺสานํ ฆาฏิตฏฺฐานเมว ปากฏํ โหติ. "ทุคฺคโตมฺหิ ขุทฺทกปุตฺโตมฺหิ
ชีวิตํ เม เทหิ สามี"ติ มรณภีตานํ วจนากาโร จ หตฺถปาทวิกาโร จ อาปาถํ
อาคจฺฉติ, โส วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ตโตว อุฏฺฐาย คจฺฉติ, อถสฺส ภควา ตํ ชาตึ
อพฺโพหาริกํ กตฺวา เอว ๑- วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตีติ อริยาย
ชาติยา สจฺจกิริยํ กาเรสิ. เอโก วูปกฏฺโฐติอาทิ วตฺถสุตฺเต ๒- วิตฺถาริตํ.
      [๓๕๒] อญฺเญนปิ เลฑฺฑุขิตฺโตติ กากสุนขสูกราทีนํ ปฏิกฺกมาปนตฺถาย
สมนฺตา ปริกฺเขปมตฺเต ๓- ฐาเน เยน เกนจิ ทิสาภาเคน ขิตฺโต อาคนฺตฺวา
เถรสฺเสว กาเย ปตฺติ. กิตฺตเก ฐาเน เอวํ โหติ.? คณฺฐิกํ ปฏิมุญฺจิตฺวา ปิณฺฑาย
จริตฺวา ปฏินิวตฺเตตฺวา ยาว คณฺฐิกปฏิมุกฺกฏฺฐานํ อาคจฺฉติ, ตาว โหติ.
ภินฺเนน สีเสนาติ มหาจมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ยาว อฏฺฐิมริยาทาย ภินฺเนน.
      พฺราหฺมณาติ ขีณาสวภาวํ สนฺธายาห. ยสฺส โข ตฺวํ พฺราหฺมณ กมฺมสฺส
วิปาเกนาติ อิทํ สภาคทิฏฺฐธมฺมเวทนียกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. กมฺมํ หิ กริยมานเมว
ตโย โกฏฺฐาเส ปูเรติ. สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปฐมชวนเจตนา
ทิฏฺฐธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม โหติ. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ, ตถา
@เชิงอรรถ:  ม. กตฺวา เอตสฺส, ฉ. กตฺวาวายํ         ปาลิ. วตฺถูปมสุตฺต...,ม.มู. ๑๒/๗๐/๔๘
@ ฉ.ม. สรกฺเขปมตฺเต
อสกฺโกนฺตํ อโหสิ กมฺมํ, นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ
กมฺมวิปาโกติ อิมสฺส ติกสฺส วเสน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อตฺถสาธิกา
สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ.
ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยเนว ตํ อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อุภินฺนมนฺตเร ปญฺจ
ชวนเจตนา อปราปริยเวทนียกมฺมํ นาม โหติ. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ,
ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. เถรสฺส ปน
อุปปชฺชเวทนียญฺจ อปราปริยเวทนียญฺจาติ อิมานิ เทฺว กมฺมานิ กมฺมกฺขยกเรน
อรหตฺตมคฺเคน สมุคฺฆาฏิตานิ, ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ อตฺถิ. ตํ อรหตฺตปฺปตฺตสฺสาปิ
วิปากํ เทติเยว. ตํ สนฺธาย ภควา "ยสฺส โข ตฺวนฺ"ติอาทิมาห. ตสฺมา ยสฺส
โขติ เอตฺถ ยาทิสสฺส โข ตฺวํ พฺราหฺมณ กมฺมสฺส วิปาเกนาติ เอวํ อตฺโถ
เวทิตพฺโพ.
      อพฺภา มุตฺโตติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อพฺภา มหิกา ธูโม รโช ราหูติ
อิเมหิ ปน อุปกฺกิเลเสหิ มุตฺโต จนฺทิมา อิธ อธิปฺเปโต. ยถา หิ เอวํ
นิรุปกฺกิเลโส จนฺทิมา โลกํ ปภาเสติ, เอวํ ปมาทกิเลสวิมุตฺโต อปฺปมตฺโต ภิกฺขุ
อิมํ อตฺตโน ขนฺธายตนธาตุโลกํ ปภาเสติ, วิหตกิเลสนฺธการํ กโรติ.
      กุสเลน ปิถิยฺยตีติ ๑- มคฺคกุสเลน ปิถิยฺยติ อปฏิสนฺธิกํ กริยฺยติ. ยุญฺชติ
พุทฺธสาสเนติ พุทฺธสาสเน กาเยน วาจาย มนสา จ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรติ.
อิมา ติสฺโส เถรสฺส อุทานคาถา นาม.
      ทิสา หิ เมติ อิทํ กิร เถโร อตฺตโน ปริตฺตาณาการํ กโรนฺโต อาห.
ตตฺถ ทิสา หิ เมติ มม สปตฺตา. เย มํ เอวํ อุปวทนฺติ "ยถา มยํ องฺคุลิมาเลน
มาริตานํ ญาตกานํ วเสน ทุกฺขํ เวทิยาม, เอวํ องฺคุลิมาโลปิ เวทิยตู"ติ, เต
มยฺหํ ทิสา จตุสจฺจธมฺมกถํ สุณนฺตูติ อตฺโถ. ยุญฺชนฺตูติ กายวาจามเนหิ
ยุตฺตปฺปยุตฺตา วิหรนฺตุ. เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโตติ เย สนฺโต สปฺปุริสา
ธมฺมํเยว อาทเปนฺติ สมาทเปนฺติ คณฺหาเปนฺติ, เต มนุชา  มยฺหํ สปตฺตา ภชนฺตุ
เสวนฺตุ ปยิรุปาสนฺตูติ อตฺโถ.
@เชิงอรรถ:  สี. ปิถียตีติ, ฉ.ม. ปีธียตีติ
      อวิโรธปฺปสํสีนนฺติ ๑- อวิโรโธ วุจฺจติ เมตฺตา, เมตฺตาปสํสนฺติ ๒- อตฺโถ.
สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลนาติ ขเณ ขเณ ขนฺติเมตฺตาปฏิสงฺขาสารณียธมฺมํ สุณนฺตุ.
ตญฺจ อนุวิธียนฺตูติ ตญฺจ ธมฺมํ อนุกโรนฺตุ ปูเรนฺตุ.
      น หิ ชาตุ โส มมํ หึเสติ โย มยฺหํ ทิโส, โส มํ เอกํเสเนว น
หึเสยฺย. อญฺญํ วา ปน กิญฺจิ นนฺติ น เกวลํ มํ, อญฺญํปิ ปน กญฺจิ ปุคฺคลํ
มา วิหึสนฺตุ มา วิเหเฐนฺตุ. ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตินฺติ ปรมํ สนฺติภูตํ นิพฺพานํ
ปาปุณิตฺวา. รกฺเขยฺย ตสถาวเรติ ตสา วุจฺจนฺติ สตณฺหา, ถาวรา นิตฺตณฺหา.
อิทํ วุตฺตํ โหติ:- โย นิพฺพานํ ปาปุณาติ, โส สพฺพํ ตสถาวรํ รกฺขิตุํ สมตฺโถ
โหติ. ตสฺมา มยฺหํปิ สทิสา นิพฺพานํ ปาปุณนฺติ, ๓- เอวํ มํ เอกํเสเนว น
หึสิสฺสนฺตีติ. อิมา ติสฺโส คาถา อตฺตโน ปริตฺตํ กาตุํ อาห.
      อิทานิ อตฺตโนว ปฏิปตฺตึ ทีเปนฺโต อุทกญฺหิ นยนฺติ เนตฺติกาติอาทิมาห.
ตตฺถ เนตฺติกาติ เย มาติกํ โสเธตฺวา พนฺธิตพฺพฏฺฐาเน พนฺธิตฺวา อุทกํ นยนฺติ.
อุสุการาติ อุสุการกา. นมยนฺตีติ เตลกญฺชิเกน มกฺเขตฺวา กุกฺกุเล ตาเปตฺวา
อุนฺนตุนฺนตฏฺฐาเน นเมนฺตา อุชุํ กโรนฺติ. เตชนนฺติ กณฺฑํ. ตญฺหิ อิสฺสาโส
เตชํ กโรติ, ปรญฺจ ตชฺเชติ, ตสฺมา เตชนนฺติ วุจฺจติ. อตฺตานํ ทมยนฺตีติ ยถา
เนตฺติกา อุชุมคฺเคน อุทกํ นยนฺติ, อุสุการา เตชนํ, ตจฺฉกา จ ทารุํ อุชุํ
กโรนฺติ, เอวเมว ปณฺฑิตา อตฺตานํ ทเมนฺติ อุชุกํ กโรนฺติ นิพฺพิเสวนํ
กโรนฺติ.
      ตาทินาติ อิฏฺฐานิฏฺฐาทีสุ นิพฺพิกาเรน "ปญฺจหากาเรหิ ภควา ตาทิ,
อิฏฺฐานิฏฺเฐ ตาทิ, วนฺตาวีติ ตาทิ, จตฺตาวีติ ตาทิ, ติณฺณาวีติ ตาทิ,
ตนฺนิทฺเทสา ตาที"ติ ๔- เอวํ ตาทิลกฺขณปฺปตฺเตน สตฺถารา. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ,
ตญฺหาเยตํ นามํ. ตาย หิ โคณา วิย คีวายํ รชฺชุยา, สตฺตา หทเย พทฺธา
ตนฺตํ ภวํ นียนฺติ, ตสฺมา ภวเนตฺตีติ วุจฺจติ. ผุฏฺโฐ กมฺมวิปาเกนาติ มคฺคเจตนาย
ผุฏฺโฐ. ยสฺมา หิ มคฺคเจตนาย กมฺมํ ปจฺจติ วิปจฺจติ ฑยฺหติ, ปริกฺขยํ คจฺฉติ,
ตสฺมา สา กมฺมวิปาโกติ วุตฺตา. ตาย หิ ผุฏฺฐตฺตา เอส. อนโณ นิกฺกิเลโส
@เชิงอรรถ:  ม.,ก. อวิโรธปฺปสํสนนฺติ       ม., ฏีกา. ตปฺปสํสการนฺติ, ฉ.
@เมตฺตาปสํสกานนฺติ   ฉ.ม. ปาปุณนฺตุ    ขุ. มหา. ๒๙/๑๘๐,๘๙๕/๑๓๘,๕๖๒ (สฺยา)
ชาโต, น ทุกฺขเวทนาย อนโณ. ภุญฺชามีติ เจตฺถ เถยฺยปริโภโค อิณปริโภโค
ทายชฺชปริโภโค สามิปริโภโคติ จตฺตาโร ปริโภคา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ทุสฺสีลสฺส
ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นาม. โส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย เถเนตฺวา ภุญฺชติ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ "เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺฐปิณฺโฑ ภุตฺโต"ติ ๑- สีลวโต ปน
อปจฺจเวกฺขณปริโภโค อิณปริโภโค นาม. สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปริโภโค
ทายชฺชปริโภโค นาม. ขีณาสวสฺส ปริโภโค สามิปริโภโค นาม. อิธ กิเลสอิณานํ
อภาวํ สนฺธาย "อนโณ"ติ วุตฺตํ, "อนิโณ"ติปิ ปาโฐ. สามิปริโภคํ สนฺธาย
"ภุญฺชามิ โภชนนฺ"ติ วุตฺตํ.
      กามรติสนฺถวนฺติ ทุวิเธสุปิ กาเมสุ ตณฺหารติสนฺถวํ มา อนุยุญฺชถ มา
กริตฺถ. นยิทํ ทุมฺมนฺติตํ มมาติ ยํ มยา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ
มนฺติตํ, ตํ มม มนฺติตํ น ทุมฺมนฺติตํ. สํวิภตฺเตสุ ๒- ธมฺเมสูติ อหํ สตฺถาติ
เอวํ โลเก อุปฺปนฺเนหิ เย ธมฺมา สุวิภตฺตา, เตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺฐํ
นิพฺพานํ, ตเทว อหํ อุปคมํ อุปคโต สมฺปตฺโต, ตสฺมา มยฺหํ อิทํ อาคมนํ
สฺวาคตํ นาม คตนฺติ. ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยปญฺญา. กตํ
พุทฺธสฺส สาสนนฺติ ยํ พุทฺธสฺส สาสเน กตฺตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ มยา
กตํ. ตีหิ วิชฺชาหิ นวหิ จ โลกุตฺตรธมฺเมหิ เทสนํ มตฺถกํ ปาเปสีติ.
                    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย
                     องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                          -------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๙ หน้า ๒๓๘-๒๔๙. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=9&A=6010&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=9&A=6010&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=521              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=13&A=8237              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=13&A=9770              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=13&A=9770              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_13

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]