ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๓๒ ภาษาบาลีอักษรไทย เถร.อ.๑ (ปรมตฺถที.๑)

                    ๑๙๗. ๑๐. สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา
      เต เม อิชฺฌึสุ สงฺกปฺปาติ อายสฺมโต สีวลิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ?
      อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เหฏฺฐา วุตฺตนเยน วิหารํ คนฺตฺวา
ปริสปริยนฺเต ฐิโต ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ลาภีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ
ทิสฺวา "มยาปิ อนาคเต เอวรูเปน ภวิตุํ วฏฺฏตี"ติ ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ
สตฺถุ ภิกฺขุสํฆสฺส จ มหาทานํ ทตฺวา "ภควา อหํ อิมินา อธิการกมฺเมน
อญฺญํ สมฺปตฺตึ น ปตฺเถมิ, อนาคเต ปน เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน อหมฺปิ
ตุเมฺหหิ เอตทคฺเค ฐปิตภิกฺขุ วิย ลาภีนํ อคฺโค ภเวยฺยนฺ"ติ ปตฺถนํ อกาสิ.
สตฺถา อนนฺตรายํ ทิสฺวา "อยํ เต ปตฺถนา อนาคเต โคตมพุทฺธสฺส สนฺติเก
สมิชฺฌิสฺสตี"ติ พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทว-
มนุสฺเสสุ สํสรนฺโต วิปสฺสิพุทฺธกาเล พนฺธุมตีนครวาสิโน รญฺญา สทฺธึ สากจฺฉิตฺวา
ทสพลสฺส ทานํ เทนฺติ. เต เอกทิวสํ สพฺเพว เอกโต หุตฺวา ทานํ เทนฺตา
"กึ นุ โข อมฺหากํ ทานมุเข ๑- นตฺถี"ติ ๒- มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ ๓- น อทฺทสํสุ. เต
"ยโต กุโตจิ อาหริสฺสามา"ติ ชนปทโต นครปวิสนมคฺเค ๔- ปุริสํ ฐเปสุํ. ตทา
เอส กุลปุตฺโต อตฺตโน คามโต คุฬทธิวารกํ ๕- คเหตฺวา "กิญฺจิเทว อาหริสฺสามี"ติ
นครํ คจฺฉนฺโต "มุขํ โธวิตฺวา โธตหตฺถปาโท ปวิสิสฺสามี"ติ ผาสุกฏฺฐานํ
โอโลเกนฺโต นงฺคลสีสมตฺตํ นิมฺมกฺขิกํ ทณฺฑกมธุํ ทิสฺวา "ปุญฺเญน เม อิทํ
อุปฺปนฺนนฺ"ติ คเหตฺวา นครํ ปาวิสิ. นาคเรหิ ฐปิตปุริโส ตํ ทิสฺวา "โภ
ปุริส กสฺสิมํ อาหรสี"ติ ปุจฺฉิ. น กสฺสจิ สามิ, วิกฺกีณิตุํ ปน เม อิทํ
@เชิงอรรถ:  สี. ทานมเห           มโน.ปู. ๑/๒๐๗ สีวลิตฺเถรวตฺถุ (นวโปฏฺฐก)
@ สี. มธุญฺจ คุฬญฺจ ทธิญฺจ   สี. นครํ ปวิสนมคฺเค ปน   สี. คุฬํ จ ทธิวารกํ
อาภตนฺติ. เตนหิ โภ ๑- อิมํ กหาปณํ คเหตฺวา เอตํ มธุญฺจ คุฬทธิญฺจ เทหีติ.
โส จินฺเตสิ "อิทํ น พหุมูลํ, อยญฺจ เอกปฺปหาเรเนว พหุํ เทติ, วีมํสิตุํ วฏฺฏตี"ติ.
ตโต นํ "นาหํ เอเกน กหาปเณน เทมี"ติ อาห. ยทิ เอวํ เทฺว คเหตฺวา
เทหีติ. ทฺวีหิปิ น เทมีติ. เอเตนุปาเยน วฑฺเฒตฺวา สหสฺสํ ปาปุณิ.
      โส จินฺเตสิ "อติวฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ, โหตุ ตาว อิมินา กตฺตพฺพกิจฺจํ
ปุจฺฉิสฺสามี"ติ. อถ นํ อาห "อิทํ น  พหุํ อคฺฆนกํ, ตฺวญฺจ พหุํ เทสิ,
เกน กมฺเมน อิทํ คณฺหาสี"ติ. อิธ โภ นครวาสิโน รญฺญา สทฺธึ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ๒-
วิปสฺสีทสพลสฺส ทานํ เทนฺตา อิทํ ทฺวยํ ทานมุเข อปสฺสนฺตา ปริเยสนฺติ, สเจ
อิทํ ทฺวยํ น ลภิสฺสนฺติ, นาครานํ ปราชโย ภวิสฺสติ, ตสฺมา สหสฺสํ กตฺวา ๓-
คณฺหามีติ. กึ ปเนตํ นาครานเมว วฏฺฏติ, อญฺเญสํ ทาตุํ น วฏฺฏตีติ. ยสฺส
กสฺสจิ ทาตุํ อวาริตเมตนฺติ. ๔- อตฺถิ ปน โกจิ นาครานํ ทาเน เอกทิวสํ สหสฺสํ
ทาตาติ. นตฺถิ สมฺมาติ. อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ สหสฺสคฺฆนกภาวํ ชานาสีติ. อาม
ชานามีติ. เตนหิ คจฺฉ, นาครานํ อาจิกฺข "เอโก ปุริโส อิมานิ เทฺว มูเลน
น เทติ, สหตฺเถเนว ทาตุกาโม, ตุเมฺห อิเมสํ ทฺวินฺนํ การณา นิพฺพิตกฺกา
โหถา"ติ, ตฺวํ ปน เม อิมสฺมึ ทานมุเข เชฏฺฐกภาวสฺส กายสกฺขี โหหีติ. โส
ปริพฺพยตฺถํ คหิตมาสเกน ปญฺจกฏุกํ คเหตฺวา จุณฺณํ กตฺวา ทธิโต กญฺชิยํ คเหตฺวา
ตตฺถ มธุปฏลํ ปีเฬตฺวา ปญฺจกฏุกจุณฺเณน โยเชตฺวา เอกสฺมึ ปทุมินิปตฺเต
ปกฺขิปิตฺวา ตํ สํวิทหิตฺวา อาทาย ทสพลสฺส อวิทูรฏฺฐาเน นิสีทิ มหาชเนน
อาหริยมานสฺส สกฺการสฺส อวิทูเร อตฺตโน ปตฺตวารํ โอโลกยมาโน, โส โอกาสํ ญตฺวา
สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควา อยํ อุปฺปนฺนทุคฺคตปณฺณากาโร, อิมํ เม อนุกมฺปํ
ปฏิจฺจ ปฏิคฺคณฺหถาติ. สตฺถา ตสฺส อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ จตุมหาราชทตฺติเยน เสลมยปตฺเตน
ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ยถา อฏฺฐสฏฺฐิยา ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส ทิยฺยมานํ น ขียติ, เอวํ
@เชิงอรรถ:  สี. เตนหิ เม     ฉ.ม. ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา   สี. ทตฺวา     สี. ปวาริตเมตนฺติ
อธิฏฺฐาสิ. โส กุลปุตฺโต นิฏฺฐิตภตฺตกิจฺจํ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ฐิโต
อาห "ทิฏฺโฐ เม ภควา อชฺช พนฺธุมตีนครวาสิเกหิ ตุมฺหากํ สกฺกาโร อาหริยมาโน,
อหมฺปิ อิมสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตภเว ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต
ภเวยฺยนฺ"ติ. ๑- สตฺถา "เอวํ โหตุ กุลปุตฺโต"ติ วตฺวา ตสฺส จ นครวาสีนญฺจ
ภตฺตานุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.
      โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ
พุทฺธุปฺปาเท สุปฺปวาสาย ราชธีตาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ปฏิสนฺธิคหณโต
ปฏฺฐาย สายํ ปาตญฺจ ๒- ปณฺณาการสตานิ สกเฏนาทาย สุปฺปวาสาย ๓- อุปนียนฺติ. อถ นํ
ปุญฺญวีมํสนตฺถํ ๔- หตฺเถน พีชปจฺฉึ ผุสาเปนฺติ. เอเกกพีชโต สลากสตมฺปิ สลาก-
สหสฺสมฺปิ นิคฺคจฺฉติ. เอเกกกรีสเขตฺเต ปณฺณาสมฺปิ สฏฺฐิปิ สกฏปฺปมาณานิ
อุปฺปชฺชนฺติ. โกฏฺเฐ ปูรณกาเลปิ โกฏฺฐทฺวารํ หตฺเถน ผุสาเปนฺติ. ราชธีตาย
ปุญฺเญน คณฺหนฺตานํ คหิตคหิตฏฺฐานํ ปุน ปูรติ. ๕- ปริปุณฺณภตฺตภาชนโตปิ
"ราชธีตาย ปุญฺญนฺ"ติ วตฺวา ยสฺส กสฺสจิ เทนฺตา นํ ยาว น อุกฺกฑฺฒนฺติ, ๖-
น ตาว ภตฺตํ ขียติ, ทารเก กุจฺฉิคเตเยว สตฺตวสฺสานิ อติกฺกมึสุ.
      คพฺเภ ปน ปริปกฺเก สตฺตาหํ มหาทุกฺขํ อนุโภสิ. สา สามิกํ อามนฺเตตฺวา
"ปุเร มรณา ชีวมานาว ทานํ ทสฺสามี"ติ สตฺถุ สนฺติกํ เปเสสิ "คจฺฉ ๗- อิมํ
ปวตฺตึ สตฺถุ อาโรเจตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตหิ, ยญฺจ สตฺถา วเทติ, ตํ สาธุกํ
อุปลกฺเขตฺวา อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถหี"ติ. โส คนฺตฺวา ตสฺสา สาสนํ ภควโต อาโรเจสิ.
สตฺถา "สุขินี โหตุ สุปฺปวาสา โกลิยธีตา อโรคา, อโรคํ ปุตฺตํ วิชายตู"ติ ๘-
อาห. ราชา ตํ สุตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อตฺตโน คามาภิมุโข ปายาสิ.
@เชิงอรรถ:  มโน.ปู. ๑/๒๐๗ สีวลิตฺเถรวตฺถุ (นวโปฏฺฐก)    สี. สายํ ปาตํ ปญฺจ ปญฺจ,
@ ม. มาสํ มาสํ ปญฺจ....                   ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ
@ สี. อถสฺสา ตํ ปุญฺญํ วีมํสนตฺถํ   สี. คหิตคหิตฏฺฐานํ ปน น ขียติ, ปุน ปูรเตว
@ สี. เทนฺตานํ ยาว น สกฺโกนฺติ,  ม. เทนฺตา ยาว น อุฏฺฐหนฺติ
@ สี. คจฺฉ สามิ              ขุ.อุทาน. ๒๕/๑๘/๑๑๓ สุปฺปวาสาสุตฺต
ตสฺส ปุเร อาคมนาเยว สุปฺปวาสาย กุจฺฉิโต ธมกรณา อุทกํ วิย คพฺโภ นิกฺขมิ,
ปริวาเรตฺวา นิสินฺนชโน อสฺสุมุโขว หสิตุํ อารทฺโธ, ตุฏฺฐหฏฺโฐ ๑- มหาชโน รญฺโญ
สาสนํ อาโรเจตุํ อคมาสิ.
      ราชา เตสํ อาคมนํ ทิสฺวาว "ทสพเลน กถิตกถา นิปฺผนฺนา ภวิสฺสติ
มญฺเญ"ติ จินฺเตสิ. โส อาคนฺตฺวา สตฺถุ สาสนํ ราชธีตาย อาโรเจสิ. ราชธีตา ตยา
นิมนฺติตํ ชีวิตภตฺตเมว มงฺคลภตฺตํ ภวิสฺสติ, คจฺฉ สตฺตาหํ ทสพลํ นิมนฺเตหีติ.
ราชา ตถา อกาสิ. สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สํฆสฺส มหาทานํ ปวตฺตยึสุ. ทารโก
สพฺเพสํ ญาตีนํ สนฺตตฺตํ จิตฺตํ นิพฺพาเปนฺโต ชาโตติ สีวลิทารโกเตฺววสฺส นามํ
อกํสุ. โส สตฺตวสฺสานิ คพฺเภ วสิตตฺตา ชาตกาลโต ปฏฺฐาย สพฺพกมฺมกฺขโม
อโหสิ. ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺโต สตฺตเม ทิวเส เตน สทฺธึ กถาสลฺลาปํ อกาสิ.
สตฺถาปิ ธมฺมปเท คาถํ อภาสิ:-
          "โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ          สํสารํ โมหมจฺจคา
           ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี      อเนโช อกถํกถี
           อนุปาทาย นิพฺพุโต         ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณนฺ"ติ. ๒-
      อถ นํ เถโร เอวมาห "กึ ปน ตยา เอวรูปํ ทุกฺขราสึ อนุภวิตฺวา ปพฺพชิตุํ
น วฏฺฏตี"ติ. ลภมาโน ปพฺพเชยฺยํ ภนฺเตติ. สุปฺปวาสา นํ ทารกํ เถเรน สทฺธึ
กเถนฺตํ ทิสฺวา "กึ นุ โข เม ปุตฺโต ธมฺมเสนาปตินา สทฺธึ กเถตี"ติ เถรํ
อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ "มยฺหํ ปุตฺโต ตุเมฺหหิ สทฺธึ กึ กเถติ ภนฺเต"ติ.
อตฺตนา อนุภูตํ คถฺภวาสทุกฺขํ กเถตฺวา "ตุเมฺหหิ อนุญฺญาโต ปพฺพชิสฺสามี"ติ
วทตีติ. สาธุ ภนฺเต ปพฺพาเชถ นนฺติ, เถโร ตํ  วิหารํ เนตฺวา ตจปญฺจกกมฺมฏฺฐานํ
ทตฺวา ปพฺพาเชนฺโต "สีวลิ น ตุยฺหํ อญฺเญน โอวาเทน กมฺมํ อตฺถิ, ตยา
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ตุฏฺฐปหฏฺโฐ              ขุ.ธมฺม. ๒๕/๔๑๔/๘๙ สีวลิตฺเถรวตฺถุ
สตฺต วสฺสานิ อนุภูตทุกฺขเมว ปจฺจเวกฺขาหี"ติ. ภนฺเต ปพฺพาชนเมว ตุมฺหากํ ภาโร,
ยํ ปน มยา กาตุํ สกฺกา, ตมหํ ชานิสฺสามีติ. โส ปน ปฐมเกสวฏฺฏิยา
โอหารณกฺขเณเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาสิ, ทุติยาย โอหารณกฺขเณ สกทาคามิผเล,
ตติยาย อนาคามิผเล สพฺเพสํเยว ปน เกสานํ โอโรปนญฺจ อรหตฺตสจฺฉิกิริยา
จ อปจฺฉา อปุริมา อโหสิ. ตสฺส ทิวสโต ๑- ปฏฺฐาย ภิกฺขุสํฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจยา
ยาวติจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ เอตฺถ วตฺถุ สมุฏฺฐิตํ.
      อปรภาเค สตฺถา สาวตฺถึ อคมาสิ. เถโร สตฺถารํ อภิวาเทตฺวา "ภนฺเต
มยฺหํ ปุญฺญํ วีมํสิสฺสามิ, ปญฺจ เม ภิกฺขุสตานิ เทถา"ติ อาห. คณฺห สีวลีติ.
โส ปญฺจสเต ภิกฺขู คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุขํ คจฺฉนฺโต อฏวีมคฺคํ คจฺฉติ, ตสฺส
ปฐมํ ทิฏฺฐนิโคฺรเธ ๒- อธิวตฺถา เทวตา สตฺตทิวสานิ ทานํ อทาสิ. อิติ โส:-
           นิโคฺรธํ ปฐมํ ปสฺสิ         ทุติยํ ปณฺฑวปพฺพตํ
           ตติยํ อจิรวติยํ            จตุตฺถํ วรสาครํ.
           ปญฺจมํ หิมวนฺตํ โส         ฉฏฺฐํ ฉทฺทนฺตุปาคมิ
           สตฺตมํ คนฺธมาทนํ          อฏฺฐมํ อถ เรวตนฺติ.
สพฺพฏฺฐาเนสุ สตฺต สตฺต ทิวสาเนว ทานํ อทํสุ. คนฺธมาทนปพฺพเต ปน นาคทตฺต-
เทวราชา นาม สตฺตสุ ทิวเสสุ เอกทิวเส ขีรปิณฺฑปาตํ อทาสิ, เอกทิวเส สปฺปิ-
ปิณฺฑปาตํ. ภิกฺขุสํโฆ อาห "อิมสฺส เทวรญฺโญ เนว เธนุโย ทุยฺหมานา
ปญฺญายนฺติ, น ทธินิมฺมถนํ, กุโต เต เทวราช อิทํ อุปฺปชฺชตี"ติ. "ภนฺเต กสฺสป-
ทสพลสฺส กาเล ขีรสลากภตฺตทานสฺเสตํ ผลนฺ"ติ เทวราชา อาห. อปรภาเค
สตฺถา ขทิรวนิยเรวตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ อตฺถุปฺปตฺตึ กตฺวา เถรํ อตฺตโน สาสเน
ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสิ.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ปพฺพชิตทิวสโต        สี. นิโคฺรเธ
      เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตสฺส ปน อิมสฺส เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺตึ เอกจฺเจ
อาจริยา เอวํ วทนฺติ "เหฏฺฐา วุตฺตนเยน ธมฺมเสนาปตินา โอวาเท ทินฺเน `ยํ
มยา กาตุํ สกฺกา, ตมหํ ชานิสฺสามี'ติ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนากมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา
ตํ ทิวสํเยว อญฺญตรํ วิวิตฺตํ กุฏิกํ ทิสฺวา ตํ ปวิสิตฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมึ สตฺต
วสฺสานิ อตฺตนา อนุภูตํ ทุกฺขํ อนุสฺสริตฺวา ตทนุสาเรน อตีตานาคเต ตสฺส
อเวกฺขนฺตสฺส อาทิตฺตา วิย ตโย ภวา อุปฏฺฐหึสุ. ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา
วิปสฺสนาวีถึ โอตริ, ตาวเทว มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺเพปิ อาสเว เขเปนฺโต อรหตฺตํ
ปาปุณี"ติ. อุภยถาปิ เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺติเยว ปกาสิตา. เถโร ปน ปภินฺน-
ปฏิสมฺภิโท ฉฬภิญฺโญ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน ๑- :-
          "วรุโณ นาม นาเมน         เทวราชา ๒- อหํ ตทา
           อุปฏฺฐเหสึ สมฺพุทฺธํ          สโยคฺคพลวาหโน.
           นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ         อตฺถทสฺสีนรุตฺตเม
           ตูริยํ สพฺพมาทาย           อคมํ โพธิมุตฺตมํ.
           วาทิเตน จ นจฺเจน         สมฺมตาฬสมาหิโต
           สมฺมุขา วิย สมฺพุทฺธํ         อุปฏฺฐึ โพธิมุตฺตมํ.
           อุปฏฺฐหิตฺวา ตํ โพธึ         ธรณีรุหปาทปํ
           ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน         ตตฺถ กาลงฺกโต อหํ.
           สกกมฺมาภิรทฺโธหํ           ปสนฺโน โพธิมุตฺตเม
           เตน จิตฺตปฺปสาเทน         นิมฺมานํ อุปปชฺชหํ.
           สฏฺฐิตูริยสหสฺสานิ           ปริวาเรนฺติ มํ สทา
           มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ         วตฺตมานํ ภวาภเว.
           ติวิธคฺคี นิพฺพุตา มยฺหํ        ภวา สพฺเพ สมูหตา
           ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ         สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.
@เชิงอรรถ:  ขุ.อป. ๓๒/๓๑/๒๐๕ เอกาสนิยตฺเถราปทาน        สี. เอกราชา
           สุพาหู นาม นาเมน         จตุตฺตึสาสุ ขตฺติยา
           สตฺตรตนสมฺปนฺนา           ปญฺจกปฺปสเต อิโต.
           กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ ฯเปฯ   กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺ"ติ.
      อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทเนน ปีติเวเคน อุทาเนนฺโต:-
       ๑- "เต เม อิชฺฌึสุ สงฺกปฺปา      ยทตฺโถ ปาวิสึ กุฏึ
           วิชฺชาวิมุตฺตึ ปจฺเจสฺสํ        มานานุสยมุชฺชหนฺ"ติ
คาถํ อภาสิ. ๑-
      [๖๐] ตตฺถ เม เม อิชฺฌึสุ สงฺกปฺปา, ยทตฺโถ ปาวิสึ กุฏึ, วิชฺชาวิมุตฺตึ
ปจฺเจสนฺติ เย ปุพฺเพ มยา กามสงฺกปฺปาทีนํ สมุจฺเฉทกรา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย
อภิปตฺถิตาเยว "กทา นุ ขฺวาหํ ตทายตนํ ๒- อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ, ยทริยา เอตรหิ
อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี"ติ, วิมุตฺตาธิปฺปายสญฺญิตา วิมุตฺตึ อุทฺทิสฺส สงฺกปฺปา
มโนรถา อภิณฺหโส อปฺปมตฺตา ยทตฺโถ ยํปโยชโน เยสํ นิปฺผาทนตฺถํ กุฏึ สุญฺญาคารํ
วิปสฺสิตุํ ปาวิสึ ติสฺโส วิชฺชา ผลวิมุตฺตึ จ ปจฺเจสนฺโต คเวสนฺโต, เต เม
อิชฺฌึสุ เต สพฺเพว อิทานิ มยฺหํ อิชฺฌึสุ สมิชฺฌึสุ, นิปฺผนฺนกุสลสงฺกปฺโป
ปริปุณฺณมโนรโถ ชาโตติ อตฺโถ. เตสํ สมิทฺธภาวํ ทสฺเสตุํ "มานานุสยมุชฺชหนฺ"ติ
วุตฺตํ. ยสฺมา มานานุสยสมุชฺชหํ ปชหึ สมุจฺฉินฺทึ, ตสฺมา เต เม สงฺกปฺปา
อิชฺฌึสูติ โยชนา. มานานุสเย หิ ปหีเน อปฺปหีโน นาม อนุสโย นตฺถิ, อรหตฺตญฺจ
อธิคตเมว โหตีติ มานานุสยปฺปหานํ ยถาวุตฺตสงฺกปฺปสมิทฺธิยา การณํ กตฺวา วุตฺตํ.
                     สีวลิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                    ปรมตฺถทีปนิยา เถรคาถาสํวณฺณนาย
                       ฉฏฺฐวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตา.
@เชิงอรรถ: ๑-๑ ฉ.ม. "เต เม อิชฺฌึสุ สงฺกปฺปา"ติ คาถํ อภาสิ      สี. มหนฺตายตนํ


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๓๒ หน้า ๒๑๐-๒๑๖. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=32&A=4688&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=32&A=4688&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=197              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=5318              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=5561              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=5561              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]