ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒
ปุจฉาวิสัชนาวัตถุ ๑๐ ประการ
[๖๔๒] ครั้งนั้น ท่านพระสัมภูตสาณวาสี ได้กล่าวกะท่านพระยสกา- *กัณฑกบุตรว่า ท่านพระเรวตะรูปนี้ เป็นพหูสูต ชำนาญในคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นผู้ฉลาด เฉียบแหลม เป็นนักปราชญ์ มีความละอาย มีความรังเกียจ ใคร่ต่อสิกขา ถ้าพวกเราจักถามปัญหากะท่านพระเรวตะ ท่าน พระเรวตะสามารถจะยังราตรีแม้ทั้งสิ้น ให้ล่วงไปด้วยปัญหาข้อเดียวเท่านั้น ก็แล บัดนี้ ท่านพระเรวตะจักเชิญพระอันเตวาสิกให้สวดสรภัญญะ ท่านนั้น เมื่อภิกษุ รูปนั้นสวดสรภัญญะจบ พึงเข้าไปหาท่านพระเรวตะ แล้วถามวัตถุ ๑๐ ประการนี้ ท่านพระยสกากัณฑกบุตรรับคำของท่านพระสัมภูตสาณวาสีแล้ว ท่านพระเรวตะ ได้เชิญพระอันเตวาสิก ให้สวดสรภัญญะแล้ว ท่านพระยสกากัณฑกบุตร เมื่อ ภิกษุนั้นสวดสรภัญญะจบ ได้เข้าไปหาท่านพระเรวตะ อภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง แล้วถามว่า สิงคิโลณกัปปะ ควรหรือ ขอรับ พระเรวตะย้อนถามว่า สิงคิโลณกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. การเก็บเกลือไว้ในเขนงโดยตั้งใจว่าจักปรุงในอาหารที่จืดฉัน ควรหรือ ไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. ทวังคุลกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ทวังคุลกัปปะนั้น คืออะไร ย. การฉันโภชนะในวิกาลเมื่อตะวันบ่ายล่วงแล้วสององคุลี ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. คามันตรกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. คามันตรกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. ภิกษุฉันเสร็จ ห้ามภัตรแล้วคิดว่า จักเข้าละแวกบ้าน ในบัดนี้ ฉัน โภชนะเป็นอนติริตตะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. อาวาสกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. อาวาสกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. อาวาสหลายแห่ง มีสีมาเดียวกัน ทำอุโบสถต่างกัน ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. อนุมติกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. อนุมติกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. สงฆ์เป็นวรรคทำกรรม ด้วยตั้งใจว่า จักให้ภิกษุที่มาแล้วอนุมัติ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. อาจิณณกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. อาจิณณกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. การประพฤติวัตรด้วยเข้าใจว่า นี้พระอุปัชฌาย์ของเราเคยประพฤติมา นี้พระอาจารย์ของเราเคยประพฤติมา ควรหรือไม่ ขอรับ ร. อาจิณณกัปปะ บางอย่างควร บางอย่างไม่ควร ขอรับ ย. อมถิตกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. อมถิตกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ ย. นมสดละความเป็นนมสดแล้ว ยังไม่ถึงความเป็นนมส้ม ภิกษุฉัน เสร็จ ห้ามภัตรแล้ว จะดื่มนมนั้นอันเป็นอนติริตตะ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. ดื่มชโลคิ ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ชโลคินั้น คืออะไร ขอรับ ย. การดื่มสุราอย่างอ่อนที่ยังไม่ถึงความเป็นน้ำเมา ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. ผ้าปูนั่งไม่มีชาย ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. ทองและเงิน ควรหรือไม่ ขอรับ ร. ไม่ควร ขอรับ ย. ท่านเจ้าข้า พวกพระวัชชีบุตรชาวเมืองเวสาลีนี้แสดงวัตถุ ๑๐ ประการ เหล่านี้ ในเมืองเวสาลี ท่านเจ้าข้า ถ้าเช่นนั้น พวกเราจงช่วยกันยกอธิกรณ์นี้ขึ้น ในภายหน้าสภาพที่มิใช่ธรรมจักรุ่งเรือง ธรรมจักเสื่อมถอย สภาพที่มิใช่วินัยจัก รุ่งเรือง วินัยจักเสื่อมถอย ในภายหน้าพวกอธรรมวาทีจักมีกำลัง พวกธรรมวาที จักเสื่อมกำลัง พวกอวินัยวาทีจักมีกำลัง พวกวินัยวาทีจักเสื่อมกำลัง ท่านพระ- *เรวตะรับคำท่านพระยสกากัณฑกบุตรแล้ว ฯ
ปฐมภาณวาร จบ
-----------------------------------------------------
[๖๔๓] พวกพระวัชชีบุตรชาวเมืองเวสาลีทราบข่าวว่า พระยสกากัณฑ- *กบุตร ปรารถนาจักยกอธิกรณ์นี้ขึ้น กำลังแสวงหาฝักฝ่าย และข่าวว่า ได้ฝักฝ่าย จึงคิดต่อไปว่า อธิกรณ์นี้แล หยาบช้า กล้าแข็ง พวกเราจะพึงได้ใครเป็นฝักฝ่ายซึ่ง เป็นเหตุให้พวกเรามีกำลังกว่าในอธิกรณ์นี้หนอ แล้วคิดต่อไปว่า ท่านพระเรวตะ นี้เป็นพหูสูต ชำนาญในคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นผู้ฉลาด เฉียบแหลม เป็นนักปราชญ์ มีความละอาย มีความรังเกียจ ใคร่ต่อสิกขา ถ้า พวกเราได้ท่านพระเรวตะเป็นฝักฝ่าย เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจักมีกำลังกว่าใน อธิกรณ์นี้ ครั้งนั้น พวกพระวัชชีบุตรชาวเมืองเวสาลี จัดแจงสมณบริขารเป็นอันมาก คือ บาตรบ้าง จีวรบ้าง ผ้าปูนั่งบ้าง กล่องเข็มบ้าง ผ้ากายพันธ์บ้าง ผ้ากรอง น้ำบ้าง ธัมกรกบ้าง แล้วขนสมณบริขารนั้นโดยสารเรือไปสู่สหชาตินคร ขึ้นจาก เรือแล้วพักผ่อนฉันภัตตาหารที่โคนไม้แห่งหนึ่ง ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ บรรทัดที่ ๗๘๙๑-๗๙๖๓ หน้าที่ ๓๒๗-๓๓๐. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=7&A=7891&Z=7963&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=7&siri=116              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=642              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [642-643] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=7&item=642&items=2              The Pali Tipitaka in Roman :- [642-643] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=7&item=642&items=2              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_7              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-kd22/en/brahmali#pli-tv-kd22:1.10.1 https://suttacentral.net/pli-tv-kd22/en/horner-brahmali#Kd.22.1.10

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :