ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก

หน้าที่ ๓๕๕.

เวสสภูพุทธวงศ์ที่ ๒๑
ว่าด้วยพระประวัติพระเวสสภูพุทธเจ้า
[๒๒] ในมัณฑกัปนั้นแล พระพิชิตมารผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ มีพระนาม ชื่อว่าเวสสภู เสร็จอุบัติขึ้นในโลก พระเวสสภูผู้เป็นนายกของโลก ทรงทราบว่าไฟคือราคะนี้เป็นของร้อนเป็นแว่นแคว้นของตัณหา ทรง ตัดกิเลสดังช้างตัดเชือกแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม แล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักร ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๑ ได้มีแก่สัตว์ แปดหมื่นโกฏิ เมื่อพระนราสภเชษฐบุรุษของโลก เสด็จจาริกไป ในแว่นแคว้น ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ได้มีแก่สัตว์เจ็ดหมื่นโกฏิ เมื่อ พระองค์ทรงกระทำปาฏิหาริย์บรรเทาทิฏฐิใหญ่ มนุษย์และเทวดาใน หมื่นโลกธาตุมาประชุมกัน เทวดาและมนุษย์ได้เห็นความมหัศจรรย์ อันไม่เคยมี เป็นเหตุให้ขนพองสยองเกล้าแล้วได้ตรัสรู้ ๖๐ โกฏิ พระเวสสภูบรมศาสดา ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพผู้ ปราศจากมลทิน มีจิตสงบระงับคงที่ ผู้กลัวภัยมีชราเป็นต้น เป็น โอรสของพระศาสดาผู้ได้ฟังพระธรรมจักรอันประณีตอุดม ที่พระ- พุทธเจ้าซึ่งไม่มีใครเสมอพระองค์นั้นทรงประกาศแล้วออกบวช ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกันแปดหมื่นโกฏิ ครั้งที่ ๒ เจ็ดหมื่นโกฏิ ครั้งที่ ๓ หกหมื่นโกฏิ สมัยนั้น เราเป็นกษัตริย์ พระนามว่า สุทัสนะ ได้บูชาพระพิชิตมารพร้อมด้วยพระสงฆ์ ด้วย ข้าว น้ำและผ้า เรายังมหาทานให้เป็นไปไม่เกียจคร้านทั้งกลางคืน กลางวัน ออกบวชอันถึงพร้อมด้วยคุณ ในสำนักของพระชินเจ้า เราเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอาจารคุณ ตั้งมั่นอยู่ในวัตรและศีล แสวงหา พระสัพพัญญุตญาณ ยินดีในศาสนาของพระชินเจ้า เรายังศรัทธา และปีติให้เกิด ถวายบังคมพระพุทธบรมศาสดา ปีติเกิดขึ้นแก่เรา

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๖.

เพราะเหตุแห่งโพธิญาณนั่นเอง พระสัมพุทธเจ้าทรงทราบว่า เรามี ฉันทะอันไม่กลับกลอกจึงทรงพยากรณ์ว่า ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ ผู้นี้ จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก ......... ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ให้ยิ่งขึ้นไป พระนครชื่อว่าอโนมะ พระบรมกษัตริย์ พระนามว่าสุปติตะ เป็น พระชนกของพระเวสสภูบรมศาสดา พระนางยสวดีเป็นพระชนนี พระองค์ทรงครอบครองอาคารสถานอยู่หกพันปี ทรงมีปราสาทอัน ประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อว่ารุจิ สุรติ และวัฑฒกะทรงมีพระสนม- นารีกำนัลในสามหมื่นนาง ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสี นามว่าสุจิตรา พระราชโอรสพระนามว่าสุปปพุทธะ พระองค์ทรง เห็นนิมิต ๔ ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วยวอทอง ทรงบำเพ็ญ เพียรอยู่ ๖ เดือนเต็ม พระเวสสภูมหาวีรเจ้า ผู้เป็นนายกของโลก อุดมกว่านรชน อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรม- จักร ณ อรุณาราม ทรงมีพระโสณเถระและพระอุตรเถระเป็นพระ- อัครสาวก พระเถระชื่อว่าอุปสันตะเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระรามา- เถรีและพระสุมาลาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของ พระองค์เรียกกันว่าไม้อ้อยช้างใหญ่ โสตถิอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก โคตมีอุบาสิกาและสิริมาอุบาสิกา เป็นอุปัฏฐายิกา พระองค์สูง ๖๐ ศอก เปรียบเสมอด้วยเสาทอง พระรัศมีเปล่งออกจากพระวรกาย ดังไฟบนภูเขาในเวลากลางคืน พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น มีพระชน มายุหกหมื่นปี พระองค์ทรงดำรงอยู่เพียงนั้น ทรงช่วยให้ประชุมชน ข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย ทรงจำแนกธรรมไว้อย่างพิสดาร ทรงตั้ง มหาชนให้อยู่บนธรรมนาวาแล้ว พระองค์ก็เสด็จนิพพานพร้อมด้วย

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๗.

พระสาวกพระวิหารอันมีชนทุกหมู่เหล่า น่าดูน่าชม พระอิริยาบถ หายไปหมดสิ้นแล้ว สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระเวสสภู ศาสดาชินเจ้าผู้ประเสริฐ เสด็จนิพพานที่เขมาราม พระธาตุของ พระองค์แผ่ไปกว้างขวางในประเทศนั้นๆ ฉะนี้แล.
จบเวสสภูพุทธวงศ์ที่ ๒๑

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๘๒๙๔-๘๓๔๖ หน้าที่ ๓๕๕-๓๕๗. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=33&A=8294&Z=8346&pagebreak=1              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=33&siri=213              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=202              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [202] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=33&item=202&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=51&A=7896              The Pali Tipitaka in Roman :- [202] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=33&item=202&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=51&A=7896              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ https://84000.org/tipitaka/read/?index_33

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :