ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 7 / 1อ่านอรรถกถา 7 / 269อรรถกถา เล่มที่ 7 ข้อ 272อ่านอรรถกถา 7 / 277อ่านอรรถกถา 7 / 664
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ เสนาสนะขันธกะ
เรื่องให้ภิกษุกำลังฉันค้างอยู่ลุกขึ้น

               ว่าด้วยธรรมเนียมในโรงฉัน               
               บทว่า วิปฺปกตโภชเน มีความว่า ภิกษุกำลังฉันอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในละแวกบ้านก็ตาม ในวิหารก็ตาม ในป่าก็ตาม เมื่อการฉันยังไม่เสร็จ ไม่ควรให้ลุก. ในละแวกบ้าน ภิกษุผู้มาที่หลังพึงรับภิกษาแล้วไปยังที่แห่งภิกษุผู้เป็นสภาคกัน. ถ้าชาวบ้านหรือภิกษุทั้งหลาย นิมนต์ว่า ท่านจงเข้าไป ควรบอกว่า เมื่อเราเข้าไป ภิกษุทั้งหลายจักต้องลุกขึ้น. เธออันเขากล่าวว่า ที่นี่ยังมีที่นั่ง จึงควรเข้าไป. ถ้าใครๆ ไม่กล่าวคำน้อยหนึ่ง พึงไปที่อาสนศาลาแล้ว เฉียดมายืนอยู่ในที่แห่งภิกษุผู้เป็นสภาคกัน ; เมื่อภิกษุทั้งหลายทำโอกาสแล้ว เธออันเขานิมนต์ว่า นิมนต์เข้ามาเถิด ดังนี้ พึงเข้าไป. แต่ถ้า ที่อาสนะซึ่งจะถึงแก่เธอ มีภิกษุมิได้ฉันนั่งอยู่ จะให้ภิกษุนั้นลุกขึ้น ควรอยู่.
               ภิกษุผู้นั่งดื่มหรือขบฉันยาคูและของเคี้ยวเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว แม้มีมือว่างก็ไม่ควรให้ลุก จนกว่าภิกษุอื่นจะมา เพราะว่าเธอนับว่าเป็นผู้ฉันค้างเหมือนกัน.
               ข้อว่า สเจ วุฏฺฐาเปติ มีความว่า ถ้าแม้เธอแกล้งล่วงอาบัติให้ลุกขึ้นจนได้.
               ข้อว่า ปริวาริโต จ โหติ มีความว่า เธอจะให้ภิกษุใดลุก, ถ้าภิกษุนี้เป็นผู้ห้ามโภชนะแล้ว, เธออันภิกษุนั้นพึงกล่าวว่า จงไปหาน้ำมา. จริง ข้อนี้แล เป็นสถานอันหนึ่ง ที่ภิกษุหนุ่มให้ภิกษุแก่กว่าได้. ถ้าเธอไม่หาน้ำมาให้. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงแสดงหน้าที่ซึ่งภิกษุผู้อ่อนกว่าจะพึงกระทำ จึงตรัสคำเป็นต้นว่า พึงกลืนเมล็ดข้าวให้เรียบร้อย.

               [ว่าด้วยเสนาสนะที่เหมาะแก่ภิกษุอาพาธ]               
               วินิจฉัยในคำว่า คิลานสฺส ปฏิรูปํ เสยฺยํ นี้ พึงทราบดังนี้ :-
               ภิกษุใดเป็นผู้อาพาธ ด้วยโรคหืดหรือโรคริดสีดวง และโรคลงแดงเป็นต้น, ภาชนะมีกระโถนและหม้ออุจจาระเป็นต้น เป็นของอันภิกษุนั้นควรเตรียมไว้.
               อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุเป็นโรคเรื้อน ย่อมทำเสนาสนะให้เสีย, ควรให้ภายใต้ปราสาทมณฑปและศาลาเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเสนาสนะส่วนหนึ่ง แก่ภิกษุเห็นปานนั้น. เมื่อภิกษุผู้อาพาธรูปใดอยู่ จะไม่ทำเสนาสนะให้เสียหาย. แม้ที่นอนประณีต ก็ควรให้แก่ภิกษุรูปนั้นแท้. ฝ่ายภิกษุใดทำยาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นต้นว่า ยาแดง ยาถ่ายและยานัตถุ์ ภิกษุนั้นทั้งหมดจัดว่าผู้อาพาธด้วย. พึงกำหนดให้เสนาสนะที่เหมาะแก่ภิกษุแม้นั้น.
               บทว่า เลสกปฺเปน ได้แก่ สักว่าปวดศีรษะเป็นต้นเล็กน้อย.

               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ เสนาสนะขันธกะ เรื่องให้ภิกษุกำลังฉันค้างอยู่ลุกขึ้น จบ.
อ่านอรรถกถา 7 / 1อ่านอรรถกถา 7 / 269อรรถกถา เล่มที่ 7 ข้อ 272อ่านอรรถกถา 7 / 277อ่านอรรถกถา 7 / 664
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=7&A=2351&Z=2413
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=7404
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=7404
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๗  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๕๖
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :