ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 4 / 1อ่านอรรถกถา 4 / 108อรรถกถา เล่มที่ 4 ข้อ 109อ่านอรรถกถา 4 / 110อ่านอรรถกถา 4 / 252
อรรถกถา มหาวรรค ภาค ๑ มหาขันธกะ
ห้ามบวชทาส

               อรรถกถาทาสวัตถุกถา               
               วินิจฉัยในข้อว่า น ภิกฺขเว ทาโส นี้ว่า ทาสมี ๔ จำพวกคือ ทาสเกิดภายใน ๑ ทาสที่ช่วยมาด้วยทรัพย์ ๑ ทาสที่เขานำมาเป็นเชลย ๑ บุคคลที่ยอมเป็นทาสเอง ๑.
               ในทาส ๔ จำพวกนั้น ลูกนางทาสีในเรือนเป็นทาสโดยกำเนิด ชื่อว่าทาสเกิดภายใน. บุตรที่เขาช่วยมาจากสำนักมารดาก็ดี ทาสที่เขาช่วยมาจากสำนักนายเงินก็ดี บุคคลที่เขาใช้ทรัพย์แทนแล้วยกขึ้นสู่จารีตแห่งทาสถ่ายเอาไปก็ดี ชื่อว่าทาสที่ช่วยมาด้วยทรัพย์. ทาสทั้งสองจำพวกนี้ไม่ควรให้บวช เมื่อจะให้บวช ต้องทำให้เป็นผู้มิใช่ทาสด้วยอำนาจจารีตในที่ชนบทนั้นๆ แล้ว จึงควรให้บวช.
               ทาสที่ชื่อว่าเขานำมาเป็นเชลย คือ พระราชาทั้งหลายทรงทำการรบนอกแว่นแคว้น หรือรับสั่งให้เกลี้ยกล่อมกวาดต้อนเอาทั้งหมู่มนุษย์ซึ่งเป็นไททั้งหลาย มาจากภายนอกแว่นแคว้นก็ดี พระราชารับสั่งให้ริบบ้านบางตำบล ซึ่งกระทำผิดภายในแว่นแคว้นนั่นเอง ราชบุรุษทั้งหลายกวาดต้อนทั้งหมู่มนุษย์มาจากบ้านตำบลนั้นก็ดี ในหมู่มนุษย์เหล่านั้น ผู้ชายทั้งหมดเป็นทาส ผู้หญิงทั้งหมดเป็นทาสี บุคคลเห็นปานนี้จัดเป็นทาสซึ่งเขานำมาเป็นเชลย. ทาสนี้ เมื่ออยู่ในสำนักชนทั้งหลายผู้นำตนมา หรือถูกขังไว้ในเรือนจำ หรืออันบุรุษทั้งหลายควบคุมอยู่ ไม่ควรให้บวช. แต่เขาหนีไปแล้ว พึงให้บวชในที่ซึ่งเขาไปได้. ครั้นเมื่อพระราชาทรงพอพระหฤทัย ทรงทำการปลดจากจำโดยตรัสว่า จงปล่อยพวกทาสที่นำมาเป็นเชลย หรือโดยนัยเป็นสรรพสาธารณ์ พึงให้บวชเถิด.
               บุคคลที่ยอมตัวเป็นทาสเองทีเดียวว่า ข้าพเจ้าเป็นทาสของท่าน ดังนี้ เพราะเหตุแห่งชีวิตก็ตาม เพราะเหตุแห่งความคุ้มครองก็ตาม ชื่อว่าผู้ยอมเป็นทาสเองเหมือนคนเลี้ยงช้าง ม้า โคและกระบือเป็นต้นของพระราชาทั้งหลาย ทาสเช่นนั้นไม่ควรให้บวช.
               บุตรทั้งหลายของเหล่านางวัณณทาสีของพระราชา เป็นเช่นดั่งบุตรอำมาตย์. ถึงบุตรเหล่านั้นก็ไม่ควรให้บวชเหมือนกัน. เหล่าหญิงซึ่งเป็นไท แต่ไม่มีใครคุ้มห้าม จึงเที่ยวไปกับพวกนางวัณณทาสี จะให้บุตรทั้งหลายของหญิงเหล่านั้นบวชก็ควร. หากพวกหญิงเหล่านั้นขึ้นทะเบียนเสียเอง ไม่สมควรให้บุตรทั้งหลายของหญิงเหล่านั้นบวช ถึงพวกทาสของคณะทั้งหลายมีคณะภัททิปุตตกะเป็นต้น ซึ่งคณะชนเหล่านั้นไม่ยอมให้ก็ไม่ควรให้บวช.
               ขึ้นชื่อว่าทาสสำหรับอาราม ซึ่งพระราชาพระราชทานไว้ในวัดทั้งหลาย บรรดามี จะให้ทาสแม้เหล่านั้นบวช ย่อมไม่สมควร แต่ช่วยให้เป็นไทแล้วให้บวช สมควรอยู่.
               ในมหาปัจจรีอรรถกถาแก้ว่า ชนทั้งหลายนำทาสเกิดภายในและทาสที่ช่วยมาด้วยทรัพย์ มาถวายแก่ภิกษุสงฆ์ว่า ข้าพเจ้าถวายอารามิกทาส ทาสเหล่านั้นย่อมเป็นเช่นกับทาสที่เขาราดเปรียงบนศีรษะนั่นแหละ จะให้บวชก็ควร.
               ส่วนอรรถกถากุรุนทีแก้ว่า เขาถวายด้วยกัปปิยโวหารว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายอารามิกทาส ทาสนั้นอันเขาถวายแล้วด้วยโวหารอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตามที ไม่ควรให้บวชแท้. พวกคนเข็ญใจคิดว่า จักอาศัยพระสงฆ์เลี้ยงชีพ จึงเป็นกัปปิยการกอยู่ในวัดที่อยู่ จะให้คนเข็ญใจเหล่านั้นบวช ควรอยู่. บิดามารดาของบุตรใดเป็นทาส หรือมารดาเท่านั้นเป็นทาสี บิดาไม่เป็นทาส ไม่ควรให้บุรุษนั้นบวช. ญาติหรืออุปฐากของภิกษุถวายทาสว่า ขอท่านจงให้บุรุษนี้บวช เขาจักทำความขวนขวายแก่ท่าน หรือว่า ทาสส่วนตัวของภิกษุนั้นมีอยู่ ทาสนั้นภิกษุทำให้เป็นไทเสียก่อนแล้วจึงควรให้บวช.
               ในอรรถกถากุรุนทีแก้ว่า พวกนายถวายทาสว่า ขอท่านจงให้บุรุษนี้บวช ถ้าเขาจักยินดียิ่งในศาสนา, เขาจักไม่เป็นทาส ถ้าเขาจักสึก เขาจักคงเป็นทาสของพวกข้าพเจ้า ดังนี้ ชื่อว่า ทาสยืมไม่ควรให้เขาบวช. บุรุษใดเป็นทาสไม่มีนาย บุรุษแม้นั้นอันภิกษุให้เป็นไทก่อนจึงควรให้บวช. ภิกษุไม่ทราบให้บรรพชาหรืออุปสมบทแล้ว จึงทราบภายหลัง ควรทำให้เป็นไทเหมือนกัน. และเพื่อประกาศเนื้อความข้อนี้ พระโบราณาจารย์ทั้งหลาย จึงกล่าวเรื่องนี้ว่า :-
               ดังได้ยินมา นางกุลทาสีคนหนึ่งกับบุรุษคนหนึ่ง หนีจากอนุราธบุรีไปอยู่ในโรหนชนบท มีบุตรคนหนึ่ง. บุตรนั้นในเวลาที่บรรพชาอุปสมบทแล้ว เป็นภิกษุลัชชีมักรังเกียจ.
               ภายหลังวันหนึ่ง เธอถามมารดาว่า อุบาสิกา พี่น้องชายหรือพี่น้องหญิงของท่านไม่มีหรอกหรือ? ฉันจึงไม่เห็นญาติไรๆ เลย มารดาตอบว่า พ่อคุณ ฉันเป็นกุลทาสีในอนุราธบุรี หนีมาอยู่ที่นี่กับบิดาของคุณ.
               ภิกษุผู้มีศีลได้ความสังเวชว่า ได้ยินว่าบรรพชาของเราไม่บริสุทธิ์ จึงถามมารดาถึงชื่อและโคตรของสกุลนั้นแล้วมายังอนุราธบุรี ได้ยืนที่ประตูเรือนของสกุลนั้น. เธอถึงเขาบอกว่า นิมนต์โปรดข้างหน้าเถิดเจ้าข้า? ก็ยังไม่เลยไป.
               พวกเขาจึงพากันมาถามว่า มีธุระอะไรขอรับ? เธอจึงถามว่า นางทาสีชื่อนี้ของพวกท่านซึ่งหนีไปมีไหม? มีขอรับ ฉันเป็นบุตรนางทาสีนั้น ถ้าพวกท่านอนุญาตให้ฉัน ฉันจะบวช พวกท่านเป็นนายของฉัน. พวกเขาเป็นผู้รื่นเริงยินดี ยกเธอเป็นไทว่า บรรพชาของท่านบริสุทธิ์ขอรับ แล้วนิมนต์ให้อยู่ในมหาวิหารบำรุงด้วยปัจจัย ๔ พระเถระอาศัยสกุลนั้นอยู่เท่านั้น ได้บรรลุพระอรหัต.

               อรรถกถาทาสวัตถุกถา จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา มหาวรรค ภาค ๑ มหาขันธกะ ห้ามบวชทาส จบ.
อ่านอรรถกถา 4 / 1อ่านอรรถกถา 4 / 108อรรถกถา เล่มที่ 4 ข้อ 109อ่านอรรถกถา 4 / 110อ่านอรรถกถา 4 / 252
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=4&A=3032&Z=3043
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=1380
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=1380
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๔  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๖
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :