บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ว่าด้วยผู้เข้าสมาบัติฟังเสียงได้ ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายปุพพเสลิยะทั้งหลายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเสียงว่าเป็นหนามคือเป็นข้าศึก ต่อปฐมฌาน ก็ถ้าว่า ผู้เข้าฌานไม่ได้ยินเสียงไซร้ เสียงนั้นจะพึงเป็นหนาม คือเป็นข้าศึก ได้อย่างไร เหตุใด เพราะเหตุนั้น ผู้เข้าฌานย่อมได้ยินเสียง ดังนี้. คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำว่า ผู้เข้าสมาบัติเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อท้วงด้วยคำว่า ตราบใดที่บุคคลยังเข้าฌานอยู่ อารมณ์ทางปัญจทวารย่อมไม่มี ก็ครั้นเมื่ออารมณ์ทางปัญจทวารนั้นไม่มี ก็ถ้าเขาพึงได้ยินเสียงไซร้ เขาก็พึงเห็นแม้ซึ่งรูปได้ ดังนี้. คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเสียงว่าเป็นข้าศึก ท่านกล่าวแล้วเพราะความที่เสียงนั้นกระทำความรบกวน. จริงอยู่๑- ครั้นเมื่อเสียงอันโอฬารกระทบโสตะแล้ว การออกจากฌานย่อมมีได้ ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำนี้ เพราะฉะนั้น พระสูตรนี้จึงมิใช่ข้อพิสูจน์ว่า ผู้เข้าสมาบัติฟังเสียงได้ ดังนี้. ____________________________ ๑- คำบาลีว่า โอฬาริเกน หิ สทฺเทน โสเต ฆฏฺฏิเต ปฐมชฺฌานโต วุฏฺฐานํ โหติ เตเนตํ วุตฺตํ. คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสวิตกวิจารว่าเป็นข้าศึกต่อทุติยฌานเป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อให้รู้ว่าหนามคือข้าศึกแม้อื่นๆ ไม่มีอยู่ในภายในแห่งสมาบัติ ฉันใด แม้การฟังซึ่งเสียงเป็นต้นก็ย่อมไม่มีอยู่ในสมาบัติฉันนั้น. คำทั้งปวงมีอรรถตื้นทั้งนั้นแล. อรรถกถาสมาปันโนสัททังสุณาตีติกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๑๘ สมาปันโน สัททัง สุณาตีติกถา จบ. |