ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]อ่านอรรถกถา 33.1 / 1อ่านอรรถกถา 33.1 / 139อรรถกถา เล่มที่ 33.1 ข้อ 140อ่านอรรถกถา 33.1 / 141อ่านอรรถกถา 33.1 / 180
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค
๑๐. จูฬสุคันธเถราปทาน

หน้าต่างที่ ๖ / ๑๒.

               ยสวรรคที่ ๕๖#-               
               วัชชีปุตตเถราปทานที่ ๕ (๕๕๕)               
               ว่าด้วยบุพจริยาของพระวัชชีปุตตเถระ               
____________________________
#- วรรคนี้ในบาลีไทย ขาดหายไป แต่ของฉบับภาษาอื่นและอรรถกถา (มีอยู่) จึงนำมาเพิ่มให้ครบ พร้อมทั้งเพิ่มเลขข้อต่อจากข้อ ๑๔๐ ไปตามลำดับ.

                                   [๑๔๕] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้มี
                         พระรัศมีเป็นพัน เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
                         ผู้อันใครๆ เอาชนะไม่ได้ ทรงออกจากนิโรธ
                         แล้ว จะเสด็จไปสู่ที่โคจร.
                                   ข้าพเจ้ามีผลไม้อยู่ในมือ เห็นพระศาสดา
                         เสด็จเข้ามา มีจิตเลื่อมใส มีใจแช่มชื่น จึงถวาย
                         ผลไม้หมดทั้งพวง.
                                   ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ ข้าพเจ้าได้ถวาย
                         ผลไม้ใด ในครั้งนั้น ด้วยกรรมนั้น ข้าพเจ้าไม่
                         รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้.
                                   ข้าพเจ้าได้เผากิเลสทั้งหลายสิ้นแล้ว
                         ฯลฯ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.
                                   ข้าพเจ้าเป็นผู้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอน
                         ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำเสร็จแล้ว.
                                   ปฏิสัมภิทา ๔ ฯลฯ คำสอนของพระพุทธ
                         เจ้า ข้าพเจ้าได้ทำเสร็จแล้ว.
               ทราบว่า ท่านพระวัชชีปุตตเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยประการฉะนี้แล.
               จบวัชชีปุตตเถราปทาน               
               -----------------------------------------------------               
               ยศวรรคที่ ๕๖               
               ๕๕๕. อรรถกถาวัชชีปุตตเถราปทาน               
               พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-
               อปทานของท่านพระวัชชีปุตตเถระมีคำเริ่มต้นว่า สหสฺสรํสี ภควา ดังนี้.
               แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ.
               ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ ได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งกำลังเที่ยวภิกขาจารอยู่ มีใจเลื่อมใสได้ถวายผลกล้วย.
               ด้วยบุญกรรมนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก.
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดเป็นลิจฉวีราชกุมารในเมืองเวสาลี. เพราะท่านเป็นโอรสของเจ้าวัชชี จึงได้รับสมัญญาว่าวัชชีบุตร.
               ท่านเป็นหนุ่ม ในเวลาที่ศึกษาศิลปะเกี่ยวกับช้างเป็นต้น เพราะสมบูรณ์ด้วยเหตุ จึงเป็นผู้มีอัธยาศัยใคร่จะออกจากทุกข์เที่ยวไป ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว ได้มีศรัทธาบวชในสำนักของพระศาสดา บำเพ็ญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ไม่นานเท่าไรนักก็ได้อภิญญา ๖.
               ก็ท่านเป็นผู้ได้อภิญญา ๖ ในกาลต่อมา เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้วไม่นานนัก จึงทำหมายกำหนดการเพื่อสังคายนาพระธรรม เมื่อพระมหาเถระทั้งหลายประชุมกันในที่นั้นๆ.
               วันหนึ่ง ได้เห็นท่านพระอานนท์ซึ่งเป็นพระเสขบุคคลมีบริษัทใหญ่แวดล้อมกำลังแสดงธรรมอยู่ เมื่อจะทำความอุตสาหะให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุมรรคผลที่สูงขึ้นไปกว่าท่านพระอานนท์นั้น จึงกล่าวคาถานี้ว่า :-
                                   โคตมะเอ่ย! ท่านจงเข้าไปยังโคนต้นไม้
                         ในป่า จงตั้งพระนิพพานไว้ในหทัย จงเจริญ
                         ภาวนาและอย่าประมาท พูดซุบซิบนินทาคนอื่น
                         จักทำประโยชน์เช่นไร ให้สำเร็จแก่ท่านได้เล่า.
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รุกฺขมูลคหนํ ความว่า ป่าที่มีโคนต้นไม้
               จริงอยู่ ป่าที่ไม่มีโคนต้นไม้ก็มีอยู่ และโคนต้นไม้ที่ไม่มีในป่าก็มี.
               บรรดาบทเหล่านั้น ท่านแสดงถึงความไม่มีอันตรายคือลมและแดด เพราะเป็นสถานที่อันสมบูรณ์ด้วยร่มเงา ด้วยศัพท์ว่า รุกขมูละ. ท่านแสดงถึงความไม่มีอันตรายคือลม เพราะปราศจากสายลมและแสดงถึงความไม่เบียดเสียดด้วยฝูงชน ไว้ด้วย คหนะศัพท์.
               และท่านได้ประกอบบททั้งสองนั้นมุ่งถึงการบำเพ็ญเพียรทางภาวนา.
               บทว่า ปสกฺกิย แปลว่า เข้าไปแล้ว.
               บทว่า นิพฺพานํ หทยสิมึ โอปิย ความว่า ตั้งพระนิพพานไว้ในหทัย คือทำไว้ในจิตว่าเราปฏิบัติอย่างนี้แล้วจะพึงบรรลุพระนิพพานได้.
               บทว่า ฌาย ความว่า จงเพ่งด้วยการเพ่งไตรลักษณะ คือจงเจริญมรรคภาวนาอันประกอบด้วยวิปัสสนาภาวนา. ท่านเรียกพระธรรมภัณฑาคาริกโดยโคตรว่า โคตมะ.
               บทว่า มา จ ปมาโท ความว่า อย่าถึงความประมาทในกุศลธรรมทั้งปวงเลย.
               บัดนี้ ความประมาทเช่นใดมีแก่พระเถระ เมื่อจะแสดงถึงการห้ามความประมาทนั้น ท่านจึงกล่าวว่า กึ เต พิฬิพิฬิกา กริสฺสติ การพูดซุบซิบนินทาคนอื่นจักทำประโยชน์เช่นไรให้สำเร็จแก่ท่านได้เล่า ดังนี้ไว้.
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พิฬิพิฬิกา ความว่า กิริยาที่ซุบซิบนินทาคนอื่น ความเป็นไปแห่งเสียงซุบซิบนินทาคนอื่นก็อย่างนั้นแล.
               บทว่า กึ เต กริสฺสติ ความว่า การซุบซิบนินทาคนอื่น จักทำประโยชน์เช่นไรให้สำเร็จแก่ท่านได้เล่า เพราะฉะนั้น ท่านจึงได้ให้โอวาทว่า ท่านจงละการบัญญัติว่าคน จงขวนขวายในประโยชน์ของตนเถิด.
               พระเถระได้ฟังคำนั้นแล้ว เกิดความสลดใจตามคำอันระบายออกซึ่งความหอมฟุ้งที่ท่านผู้อื่นได้กล่าวแล้ว ทำราตรีโดยมากให้ล่วงไปด้วยการจงกรมพยายามเจริญวิปัสสนา เข้าไปสู่ที่นอนและที่นั่ง พอนั่งบนเตียงเท่านั้นก็คิดว่า เราจะนอนพักผ่อนสักเล็กน้อย ดังนี้แล้วจึงยกเท้าขึ้นจากพื้นพอศีรษะถึงหมอน ในขณะที่สรีระอยู่ในอากาศนั่นแล (อยู่ในท่าอิริยาบถ ๔) ก็ได้บรรลุพระอรหัต.
               ในกาลต่อมา พระวัชชีปุตตเถระเกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า สหสฺสรํสี ภควา ดังนี้.
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สหสฺสรํสี ซึ่งในที่นี้ควรจะกล่าวว่า อเนกสตสหสฺสรํสี บัณฑิตพึงทราบว่า ท่านกล่าวไว้แล้วว่า สหสฺสรํสี ก็เพื่อสะดวกในการประพันธ์คาถา.
               คำที่เหลือมีเนื้อความพอที่จะกำหนดได้โดยง่ายทีเดียวแล.
               จบอรรถกถาวัชชีปุตตเถราปทาน               
               -----------------------------------------------------               

               เนื้อความในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=33&siri=145

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค ๑๐. จูฬสุคันธเถราปทาน
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]
อ่านอรรถกถา 33.1 / 1อ่านอรรถกถา 33.1 / 139อรรถกถา เล่มที่ 33.1 ข้อ 140อ่านอรรถกถา 33.1 / 141อ่านอรรถกถา 33.1 / 180
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=33&A=3969&Z=4056
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=7129
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=7129
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๕  กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :