บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อปทานของท่านพระอุรุเวลกัสสปเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้. แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ท่านบังเกิดในเรือน และพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นว่าเขาไม่มีอันตราย จึงทรงพยากรณ์ว่า ในอนาคต เขากระทำบุญไว้ในภพนั้นเป็นอันมากจนตลอด คน ๓ คนเหล่านั้นได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข บูชาด้วยเครื่องบูชาอย่างยอดเยี่ยมได้กระทำกุศลไว้จนตลอดชีวิตแล้วท่องเที่ยวไปใน ทั้ง ๓ คนได้มีชื่ออย่างนี้ว่ากัสสปะ ด้วยอำนาจแห่งโคตร. คนทั้ง ๓ คนเหล่านั้นเจริญวัยแล้วก็ได้เล่าเรียนจบไตรเพท. บรรดาคนทั้ง ๓ เหล่านั้น คนพี่ชายใหญ่มีบริวาร ๕๐๐ คน คนกลางมีบริวาร ๓๐๐ คน คนน้องเล็กมีบริวาร ๒๐๐ คน. คนทั้ง ๓ นั้นตรวจดูสารถประโยชน์ในคัมภีร์ทั้งหมดของตน ได้เห็นแต่เพียงประโยชน์ปัจจุบันเท่านั้น จึงพากันยินดี บรรดาพี่น้อง ๓ คนนั้น คนพี่ใหญ่ได้ไปยังตำบลอุรุเวลาพร้อมกับบริวารของตน บวชเป็นฤๅษี ได้ปรากฏชื่อว่าอุรุเวลกัสสปะ. คนกลางบวชอยู่ที่ทางโค้งแม่น้ำคงคา ปรากฏชื่อว่านทีกัสสปะ. คนเล็กบวชอยู่ที่คยาสีสะได้ปรากฏชื่อว่าคยากัสสปะ. เมื่อพี่น้อง ๓ คนนั้นได้บวชเป็นฤๅษีอย่างนั้น ต่างก็อยู่กันในที่นั้นๆ โดยล่วงไปได้หลายวัน. พระโพธิสัตว์ของพวกเราได้เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว ทรงประกาศธรรม วิธีการบรรพชาของอุรุเวลกัสสปะนั้นและการกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ทั้งหมดจักมีแจ่มแจ้งใน แม้ถึงพี่น้องที่เหลืออีก ๒ คนนอนกนี้ พอได้ทราบข่าวว่าอุรุเวลกัสสปะผู้พี่ใหญ่นั้นบวชแล้ว ต่างก็พร้อมด้วยบริวาร พากันมาบวชในสำนักของพระศาสดาแล้ว. พี่น้อง ๓ คนทั้งหมดนั้นทรงบาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ ได้เป็นเอหิภิกขุแล้ว. พระศาสดา พระอุรุเวลกัสสปะนั้นพอได้บรรลุพระอรหัตแล้วอย่างนั้น เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อนของตน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้. ข้าพเจ้าจักพรรณนาเฉพาะบทที่ยากเท่านั้นแล. บทว่า โส จ สฬพํ ตมํ หนฺตฺวา ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าผุส มีวาจาประกอบความว่า ทำเทวโลกคือโลกสันนิวาสทั้งสิ้นให้ยินดี ให้อิ่มใจ ให้ชุ่มใจอยู่ ยังฝนคืออมตะมหานิพพานให้ตกลงไหลเอิบอาบแล. บทว่า ตทา หิ พาราณสิยํ มีอรรถวิเคราะห์ว่า คำว่า พารส แปลว่า ๑๒ ดุจในประโยคเป็นต้นว่า มนุษย์ ๑๒ คน เมืองที่มี ๑๒ ราศี ฤๅษีจากหิมวันตประเทศ และฤๅษีคือพระปัจเจกมุนีมาจากภูเขาคันธมาทน์โดยทางอากาศ ย่อมพากันไป คือหยั่งลง ได้แก่ย่อมเข้าไปในเมืองที่มี ๑๒ ราศีนั้น เหตุนั้น เมืองนั้นจึงชื่อว่าพาราณ อีกความหมายหนึ่งว่า สถานที่อันบุคคลคือพระสัมมาสัม บัณฑิตเรียกกันว่าพาราณสี ด้วยอำนาจทางศัพท์เป็นอิตถีลิงค์ เพราะว่า นครศัพท์ให้เป็นลิงควิปลาส. ในพระนครพาราณสีนั้น. บทว่า นิกฺขิตฺตสตฺถํ ปจฺจนฺตํ ความว่า ทำปัจจันตชนบทให้ทิ้งศัสตรา ให้วางอาวุธ ให้สิ้นพยศ. บทว่า กตฺวา ปุนรุปจิจ ตํ ความว่า แล้วกลับเข้ามาถึงยังพระนครนั้นอีก. คำที่เหลือมีเนื้อความพอที่จะกำหนดรู้ได้โดยง่ายทีเดียวแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๔. กัจจายวรรค ๘. อุรุเวลกัสสปเถราปทาน จบ. |