ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 32 / 1อ่านอรรถกถา 32 / 64อรรถกถา เล่มที่ 32 ข้อ 65อ่านอรรถกถา 32 / 66อ่านอรรถกถา 32 / 412
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๗. สกจิตตนิยวรรค
๓. ปัจจาคมนิยเถราปทาน (๖๓)

               ๖๓. อรรถกถาปัจจาคมนิยเถราปทาน               
               อปทานของพระท่านปัจจาคมนิยเถระมีคำเริ่มต้นว่า สินฺธุยา นทิยา ตีเร ดังนี้.
               พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี บังเกิดในกำเนิดแห่งนกจักรพราก ใกล้ฝั่งแม่น้ำสินธุคงคา ไม่กินสัตว์มีชีวิต เพราะตนประกอบด้วยบุญสมภารในกาลก่อน กินแต่สาหร่ายเท่านั้นเที่ยวไป.
               สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี เมื่อทรงกระทำอนุเคราะห์แก่สัตว์ ได้เสด็จไปในที่นั้น.
               ขณะนั้น นกจักรพรากนั้นเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ารุ่งเรืองอยู่ มีใจเลื่อมใส เด็ดดอกสาหร่ายจากต้นสาหร่ายมาบูชา ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้นเอง ท่านจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เกิดในเทวโลก เสวยสมบัติในฉกามาวจรสวรรค์ไปๆ มาๆ จุติจากอัตภาพนั้นแล้วเกิดในมนุษยโลก เสวยสมบัติมีจักรพรรดิสมบัติเป็นต้น.
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
               ท่านปรากฏโดยนามแห่งบุญในกาลก่อนว่า ปัจจาคมนิยเถระ เพราะเหตุที่ตนเป็นนกจักรพราก เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ไปในที่บางแห่งก็นำดอกไม้มาบูชา.
               ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สินฺธุยา นทิยา ตีเร
               ความว่า ชื่อว่า สินธุ เพราะกระทำเสียงว่า สิ ให้เคลื่อนไหวอยู่ ให้หวั่นไหวอยู่. ชื่อว่า นทิ เพราะกระทำเสียงให้บันลือไป.
               บทว่า จกฺกวาโก อหํ ตทา ความว่า ชื่อว่าจักกวากะ เพราะแล่นไปคือไปในน้ำ บนบกหรือบินไปในอากาศ เร็วเหมือนนกจักรพรากไปได้เร็วฉะนั้น.
               อธิบายว่า ในกาลนั้นคือในกาลที่ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี เราได้เป็นนกจักรพราก.
               บทว่า สุทฺธเสวาลภกฺโขหํ ความว่า ข้าพระองค์เคี้ยวกินเฉพาะสาหร่ายที่บริสุทธิ์ เพราะไม่เจือด้วยอาหารอื่นอยู่.
               บทว่า ปาเปสุ จ สุสญฺญโต ข้าพระองค์เป็นผู้สำรวมด้วยดี คือสำรวมศึกษาด้วยดีในการทำบาป ด้วยอำนาจวาสนาในกาลก่อน.
               บทว่า อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ ความว่า ข้าพระองค์ได้เห็นคือได้เฝ้าพระพุทธเจ้า ผู้ไม่มีธุลีคือไม่มีกิเลส เพราะเว้นจากราคะ โทสะ โมหะ.
               บทว่า อจฺฉนฺตํ อนิลญฺชเส ความว่า ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้เสด็จไปอยู่บนทางแห่งอากาศอันไม่มีร่องรอย.
               อธิบายว่า ข้าพระองค์ได้ประคอง คือคาบเอาดอกสาหร่ายด้วยปากของข้าพระองค์ ได้ปลูกความยินดียิ่งต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี คือได้บูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
               คำที่เหลือมีอรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล.
               จบอรรถกถาปัจจาคมนิยเถราปทาน               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๗. สกจิตตนิยวรรค ๓. ปัจจาคมนิยเถราปทาน (๖๓) จบ.
อ่านอรรถกถา 32 / 1อ่านอรรถกถา 32 / 64อรรถกถา เล่มที่ 32 ข้อ 65อ่านอรรถกถา 32 / 66อ่านอรรถกถา 32 / 412
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=32&A=2661&Z=2676
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=2354
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=2354
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๓  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :