บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญไว้ในพระพุทธเจ้าพระ สมัยนั้น ชนทั้งหลายได้นำดอกอุบล ๕ กำมือมา. ท่านถือดอกอุบล ๕ กำมือเหล่านั้นบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้กำลังเสด็จเที่ยวไปบนถนน. ดอกอุบลเหล่านั้นได้ลอยไปเป็นเพดานทำเป็นร่มอยู่ในอากาศไปพร้อมกับพระตถาคตทีเดียว. ท่านเห็นดังนั้นเกิดโสมนัส เป็นผู้มีสรีระอันปีติถูกต้องแล้ว ระลึกถึงบุญนั้นนั่นแลตลอดชีวิต จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว บังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไปๆ มาๆ อยู่. ในพุทธุปปาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลบรรลุนิติภาวะแล้ว เกิดศรัทธาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนาไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต. ท่านปรากฏโดยชื่อตามกุศลที่ตนบำเพ็ญมาว่า ปัญจหัตถิยเถระ ดังนี้. ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เมื่อจะประกาศทิฏฐปุพพจริตาปทานด้วยปัญญาโดยประจักษ์ จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สุเมโธ นาม สมฺ บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุเมโธ เชื่อมความว่า เมธาดี คือปัญญา มีปัญญาเครื่องแตกฉานการแทงตลอดสัจจะ ๔ เป็นต้นมีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าใด พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น คือพระสัม บทว่า โอกฺขิตฺตจกฺขุ แปลว่า มีตาทอดลง. บทว่า มิตภาณี ความว่า มีปกติรู้จักประมาณแล้วจึงพูด. อธิบายว่า รู้จักประมาณแล้วจึงแสดงธรรม. คำที่เหลือเข้าใจง่ายทั้งนั้นแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๕. อุปาลีวรรค ๕. ปัญจหัตถยเถราปทาน (๔๕) จบ. |