บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เจริญด้วยบุตรและภรรยา สมบูรณ์ด้วยสมบัติมีโภคะมาก. ท่านเลื่อมใสในพระรัตนตรัย เกิดศรัทธา ได้สร้างธรรมจักรสำเร็จด้วยรัตนะบูชาข้างหลังธรรมาสน์ในธรรมสภา. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านเสวยสักกสมบัติและจักกวัตติสมบัติ ในที่ที่ตนเกิดแล้วในเทวดาและมนุษย์. ในพุทธุปบาทกาลนี้ เกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง สมบูรณ์ด้วยสมบัติ เกิดศรัทธา บวชแล้วเจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต ปรากฏโดยนามที่เสมือนกับนามแห่งกุศลที่ท่านบำเพ็ญในกาลก่อนว่า ธัมมจักกิกเถระ. ท่านบรรลุพระอรหัตผลโดยสมควรแก่บุญสมภาร ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ดังนี้. บทว่า สีหาสนสฺส สมฺมุขา ความว่า ในที่พร้อมหน้า คือในที่ตรงหน้าพุทธอาสน์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประทับนั่ง. บทว่า ธมฺมจกฺกํ เม ฐปิตํ ความว่า เราได้แสดงรูปสีหะทั้งสองข้าง โดยอาการดุจธรรมจักร สร้างกระทำให้เหมือนกระจกในท่ามกลางตั้งธรรมจักรบูชา. เป็นอย่างไร? เชื่อมความว่า ธรรมจักรที่วิญญูชน คือบุคคลผู้มีปัญญาทั้งหลายสรรเสริญ ชมเชย กระทำ บทว่า จารุวณฺโณว โสภามิ ความว่า เราย่อมงาม คือไพโรจน์ประดุจมีวรรณะดังทองคำ. บาลีว่า จตุวณฺเณหิ โสภามิ ดังนี้ก็มี. อธิบายว่า เราย่อมงดงามคือไพโรจน์ด้วยวรรณะ ๔ กล่าวคือชาติแห่งกษัติรย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร. บทว่า สโยคฺคพลวาหโน ความว่า ประกอบด้วยยานมีวอทองเป็นต้น เสวกคือหมู่พลมีเสนาบดีและอำมาตย์เป็นต้น และด้วยพาหนะกล่าวคือรถเทียมช้างและม้าเป็นต้น. เชื่อมความว่า ชนเป็นอันมากคือมนุษย์เป็นอันมาก ประกอบตามคือคล้อยตามเรา แวดล้อมตลอดกาลเป็นนิตย์. คำที่เหลือรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๔. กุณฑธานวรรค ๙. ธรรมจักกิกเถราปทาน (๓๙) จบ. |