บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนมีตระกูล บรรลุนิติภาวะแล้ว วันหนึ่งฟังธรรมในสำนักพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งอันเลิศแห่งภิกษุผู้ทรงจีวรอันเศร้าหมอง หวังตำแหน่งนั้นจึงกระทำความปรารถนา กระทำบุญในภพนั้นๆ. ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าอัตถทัสสี บังเกิดในตระกูลพราหมณ์อีก ถึงความสำเร็จในวิชาศิลปะ วันหนึ่งเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี แวดล้อมไปด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จไปตามถนน มีใจเลื่อมใสถวายบังคมด้วย พระศาสดาทรงรับน้ำผึ้งแล้วได้กระทำอนุโมทนา. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย. ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ บังเกิดเป็นอำมาตย์ของพระราชาพระนามว่า กัฏฐวาหนะ ถูกพระราชานั้นส่งไปเพื่อนำพระศาสดามา ไปเฝ้าพระศาสดา ฟังธรรมแล้วได้ศรัทธา บวชแล้วบำเพ็ญ ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ได้นามว่าโมฆราช ได้ศึกษาศิลปะในสำนักพาวรีพราหมณ์ เกิดความสังเวช บวชเป็นดาบส มีดาบสพันหนึ่งเป็นบริวารถูกส่งไปยังสำนักพระศาสดาพร้อมด้วยอชิตดาบสเป็นต้น เป็นที่ ๑๕ ของดาบสเหล่านั้นถามปัญหา ในที่สุดแห่งการวิสัชนาปัญหาบรรลุพระอรหัต. ก็แลครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ทรงผ้าบังสุกุลอันประกอบด้วยผ้าเศร้าหมองโดยพิเศษทั้ง ๓ อย่าง คือเศร้าหมองด้วยศาสตรา ๑ เศร้าหมองด้วยด้าย ๑ เศร้าหมองด้วยเครื่องย้อม ๑. ด้วยเหตุนั้น พระศาสดาจึงทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งอันเลิศแห่งภิกษุทั้งหลายผู้ทรงไตรจีวรอันเศร้าหมอง. ท่านบรรลุพระอรหัตผลโดยสมควรแก่ความปรารถนาด้วยประการฉะนี้แล้ว เห็นบุพสมภารของตน เมื่อจะประกาศปุพพกัมมาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า อตฺถทสฺสี ตุ ภควา ดังนี้. คำทั้งหมดนั้นมีอรรถตื้นทั้งนั้น. ไหหรือหม้อ เขาเรียกว่า ปุฏกะ ในบทว่า ปุฏกํ ปูรยิตฺวาน ดังนี้. เชื่อมความว่า ท่านบรรลุหม้อให้เต็มด้วยน้ำผึ้ง อันปราศจากไข่แมลงวันไม่มีโทษ บริสุทธิ์ ประคองหม้อนั้นด้วยมือทั้งสอง ถือเอา โดยประการเอื้อเฟื้อ นำเข้าไปถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้แสวงคุณอันยิ่งใหญ่. คำที่เหลือมีอรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้น. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๔. กุณฑธานวรรค ๕. โมฆราชเถราปทาน (๓๕) จบ. |