บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้บำเพ็ญบารมีมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ พระองค์ สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดเป็นคนดูแลป่าไม้ ในตระกูลแห่งหนึ่งที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ. ในสมัยนั้น อุบาสกและอุบาสิกาล้วนมีศรัทธา มีความเลื่อมใส มีความพร้อมเพรียงกัน ตั้งใจว่า พวกเราจะสร้างศาลาสำหรับบำรุงพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเข้าไปสู่ป่าเพื่อ อุบาสกคนนั้น พอทราบความเป็นไปนั้นแล้วจึงพูดว่า พวกท่านอย่าคิดไปเลยดังนี้ แล้วได้ส่งเขาเหล่านั้นไป ได้ให้พวกเขาเหล่านั้นหามเสาไม้แก่ต้นหนึ่งไปแสดงแด่พระศาสดา. ด้วยการให้เสาไม้แก่นนั้นนั่นแล เขาเกิดโสมนัสในใจ ทำบุญคือการให้ไม้แก่นนั้นเป็นครั้งแรกแล้ว ก็ทำบุญมีการให้ทานเป็นต้นอย่างอื่นอีกเป็นอันมาก จุติจากอัตภาพนั้น ไปบังเกิดบนเทวโลก ได้เสวยทิพยสมบัติในกามาวจรสวรรค์ ๖ ชั้นกลับไปกลับมา ได้เสวยจักรพรรดิสมบัติในมนุษยโลกอีกหลายครั้ง และได้เสวยสมบัติคือเป็นพระราชาปกครองประเทศนับไม่ถ้วน. ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่งที่สมบูรณ์ด้วยศรัทธา พร้อม ท่านพอได้บรรลุพระอรหัตแล้วอย่างนั้น จึงได้ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศอ้างถึงความประพฤติที่มีมาในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า สิทฺธตฺถสฺส ดังนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิทธัตถะในคาถานั้น คือพระสัมมา บทว่า มหาปูคคโณ ความว่า ได้มีหมู่แห่งอุบาสกเป็นจำนวนมาก. บทว่า สรณํ คตา จ เต พุทฺธํ ความว่า อุบาสกเหล่านั้นเข้าถึง คบ หรือ บทว่า ตถาคตํ สทฺธหํ ความว่า ตั้งพระพุทธ บทว่า สพฺเพ สงฺคมฺม มนฺเตตฺวา ความว่า ทั้งหมดพบประชุมปรึกษากัน ให้สัญญากะกันและกัน มีฉันทะเป็นอันเดียวกัน สร้างโรงคือศาลาสำหรับบำรุง เพื่อประโยชน์แก่พระศาสดา. เชื่อมความว่า เมื่อยังไม่ได้เสาสักต้นหนึ่ง ในบรรดาทัพพสัมภาระทั้งหลาย จึงพากันเที่ยวค้นหาในป่าใหญ่. บทว่า เตหํ อรญฺเญ ทิสฺวาน เชื่อมความว่า เราได้เห็นพวกอุบาสกเหล่านั้นในป่า เข้าไปเป็นหมู่ ประคองอัญชลี กระทำอัญชลีประชุมนิ้วทั้ง ๑๐ ไว้เหนือเศียร ในกาลนั้นเราจึงถามหมู่อุบาสกว่า พวกท่านมายังป่านี้เพื่อต้องการอะไร. เชื่อมความว่า อุบาสกเหล่านั้นเป็นผู้มีศีล ถูกเราถามแล้ว จึงบอกเป็นพิเศษว่า เราเป็นผู้มีความประสงค์จะสร้างโรงบำรุง แต่พวกเรายังไม่ได้เสาอีกต้นหนึ่ง. เชื่อมความว่า พวกท่านจงให้เสาต้นหนึ่งแก่เราเถิด เราเองจักนำเสาต้นนั้นไปถวายยังสำนักพระศาสดา, ขอท่านผู้เจริญ อย่าได้พยายามในการนำเอาเสาไปเลย. บทว่า ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ ความว่า เราจะเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือจะเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม. อีกอย่างหนึ่ง คำนั้นเป็นทุติยาวิภัตติใช้ลงในอรรถแห่งสัตตมีวิภัตติ, อธิบายว่า ในโลกใด คือจะเป็นเทวโลก หรือมนุษยโลกก็ตาม. คำที่เหลือง่ายทั้งนั้นแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๒. สีหาสนิวรรค ๒. เอกถัมภิกเถราปทาน (๑๒) จบ. |