บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ ในเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดขึ้น ท่านรูปนี้ได้เกิดเป็นจอม สมัยหนึ่ง เมื่อจอมเทพนั้นตระเตรียมเพื่อจะทำสงครามระหว่างยักษ์ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระได้ทรงบังเกิดความกรุณาในสัตว์เหล่านั้น จึงเสด็จไปยัง หมู่จอมเทพเหล่านั้นได้ถึงสรณะที่ ๑ คือพระพุทธเจ้านี้แล. ด้วยบุญอันนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปใน ครั้นในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดมาในเรือนที่มีสกุล เจริญวัย ในกาลต่อมา ท่านได้ระลึกถึงกุศลในกาลก่อนได้ เกิดความ ในคำเริ่มต้นนั้นมีอรรถาธิบายว่า จอมยักษ์ทั้งสองไม่ปรากฏชื่อและโคตร เหมือนสุจิโลมยักษ์ ขรโลมยักษ์ อาฬวกยักษ์ ท้าวกุมภีร์และท้าวกุเวรเป็นต้น เมื่อจะแสดงอ้างถึงโดยประการอื่น ท่านจึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า อุภินฺ บทว่า สงฺคาโม สมุปฏฺฐิโต ความว่า ชื่อว่าสงคราม เพราะอรรถว่าเป็นสถานที่กลืนกินชั้นดี คือเข้าไปประชิดเพื่อการทะเลาะวิวาท, สงครามนั้นมีการตระเตรียม (ล่วงหน้า) เป็นอย่างดี คือตระเตรียมที่จะยึดในสถานที่แห่งหนึ่ง. บทว่า อโหสิ สมุปพฺยูฬฺโห ความว่า เป็นกองเข้าไปประชิดใกล้อย่างพร้อมกัน. บทว่า สํเวเชสิ มหาชนํ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งในอากาศแล้วยังหมู่ยักษ์เหล่านั้น ให้เกิดความสลดใจด้วยพระธรรมเทศนาอริยสัจ ๔ ได้แก่ทรงให้ถือเอา คือให้ทราบ ให้ตรัสรู้ ด้วยทรงชี้แจงถึงโทษ. คำที่เหลือในที่ทุกแห่งมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๒. มหาปริวารวรรค ๓. สรณคมนิยเถราปทาน (๑๑๓) จบ. |