ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 31 / 0อ่านอรรถกถา 31 / 226อรรถกถา เล่มที่ 31 ข้อ 227อ่านอรรถกถา 31 / 233อ่านอรรถกถา 31 / 737
อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ๑. ญาณกถา
สมสีสัฏฐญาณนิทเทส

               ๓๖. อรรถกถาสมสีสัฏฐญาณนิทเทส               
               [๒๒๗-๒๓๒] พึงทราบวินิจฉัยในสมสีสัฏฐญาณนิทเทสดังต่อไปนี้.
               พึงทราบการสงเคราะห์ทั้งหมดด้วยหมวด ๑๐ มีอาทิว่า ปญฺจกฺขนฺธา - ขันธ์ทั้งหลาย ๕.
               จริงอยู่ ท่านมิได้จัดธรรมทั้งหมดไว้แผนกหนึ่งๆ ด้วยหมวด ๘ ที่เหลือเว้นหมวดอายตนะ ธาตุ ด้วยสามารถธรรมหมวดหนึ่งๆ. ก็เพราะโลกุตรธรรมมิใช่เป็นธรรมที่ควรตัด ด้วยการตัดขาดเหตุ. ฉะนั้น โลกุตรธรรมแม้ท่านสงเคราะห์เข้าด้วยศัพท์ว่า สพฺพธมฺมา ก็ไม่พึงถือเอาในที่นี้ เพราะมีคำว่า สมุจเฉทะ ควรถือเอาเตภูมิกธรรมอันควรตัดด้วยการตัดเหตุ.
               บทว่า สมฺมา สมุจฺฉินฺทติ - ตัดขาดโดยชอบ.
               ความว่า เมื่อดับปริยุฏฐานกิเลสและอนุสัยกิเลสด้วยอำนาจแห่งวิกขัมปหานะ ตทังคปหานะและสมุจเฉทปหานะตามควร ชื่อว่าตัดขาดโดยชอบ.
               ท่านแสดงการตัดขาดโดยชอบ ด้วยเทศนาเป็นบุคลาธิฏฐานอย่างนี้.
               บทว่า นิโรเธติ - ให้ดับ คือให้ดับด้วยอนุปาทนิโรธ - ดับโดยไม่มีเกิดขึ้น.
               ด้วยบทนี้ท่านกล่าวถึงอรรถแห่งสมุจเฉท.
               บทว่า น อุปฏฺฐาติ - ย่อมไม่ปรากฏ.
               ความว่า เมื่อดับอย่างนี้แล้ว ธรรมนั้นๆ ก็ไม่ปรากฏขึ้นอีก คือไม่เกิดขึ้น.
               ด้วยบทนี้ท่านกล่าวถึงอรรถแห่งนิโรธ.
               ท่านแสดงถึงความไม่ปรากฏ ด้วยสามารถแห่งธรรมอันไม่ปรากฏ.
               บทว่า สมํ - ความสงบ คือ ชื่อว่าสงบเพราะกามฉันทะเป็นต้นสงบ.
               ธรรม ๓๗ คือธรรม ๗ มีเนกขัมมะเป็นต้นเหล่านั้น รูปฌานอรูปฌาน ๘, มหาวิปัสนา ๑๘, อริยมรรค ๔
               ท่านกล่าวธรรมเป็นประธานคือสีสะ ๑๓ ประการ ด้วยสามารถแห่งการสงเคราะห์ธรรมทั้งหมดที่เป็นสีสะ. แต่ในที่นี้ ธรรมเป็น ประธาน ๘ มีศรัทธาเป็นต้นย่อมควร. เพราะธรรมเป็นประธาน ๕ มีตัณหาเป็นต้นมิได้มีแก่พระอรหันต์.
               บทว่า ปลิโพธสีสํ - มีความกังวลเป็นประธาน คือมีความห่วงใยปลิโพธ. อธิบายว่า เป็นเครื่องกั้นทางไปนิพพาน.
               บทว่า สีสํ เป็นประธาน คือธรรมอันยิ่ง.
               ปลิโพธนั่นแหละเป็นประธาน หรือเป็นประธานในปลิโพธทั้งปวง มีการประกอบด้วยธรรมนั้นเป็นต้น เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ปลิโพธสีสํ.
               ในบทที่เหลือมีนัยนี้แล.
               แต่โดยความต่างกันในบทว่า พนฺธนํ - ความผูกพัน คือผูกพันในสงสารด้วยสามารถการเย่อหยิ่ง.
               บทว่า ปรามาโส คือ ความยึดมั่น.
               บทว่า วิกฺเขโป คือ ความฟุ้งซ่าน.
               บทว่า กิเลโส คือ ความเศร้าหมอง.
               บทว่า อธิโมกฺโข คือ น้อมใจเชื่อ.
               บทว่า ปคฺคโห ความประคอง คือความอุตสาหะ.
               บทว่า อุปฏฺฐานํ - เข้าไปตั้งไว้ คือการทำซ้ำๆ.
               บทว่า อวิกฺเขโป คือ ความไม่ฟุ้งซ่าน.
               บทว่า ทสฺสนํ - ความเห็น คือแทงตลอดตามความเป็นจริง.
               บทว่า ปวตฺตํ - ความเป็นไป คือความเป็นไปด้วยอุปาทินนกขันธ์.
               บทว่า โคจโร คือ อารมณ์.
               ธรรมมีอรรถเป็นประธาน เป็นหัวหน้า ในวาระแม้ ๑๒ เหล่านี้.
               บทว่า วิโมกฺโข คือ นิพพานอันเป็นนิสสรณวิมุตติ ในวิมุตติ ๕ คือ วิกขัมภนวิมุตติ ๑ ตทังควิมุตติ ๑ สมุจเฉทวิมุตติ ๑ ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ ๑ นิสสรณวิมุตติ ๑.
               บทว่า สงฺขารสีสํ - มีสังขารเป็นประธาน คือเป็นประธานแห่งสังขารอันเป็นสังขตะทั้งปวง.
               อธิบายว่า เป็นยอดสุด.
               ด้วยบทนี้ ท่านกล่าวถึงอนุปาทิเสสปรินิพพาน. หรือท่านกล่าวถึงขันธปรินิพพานด้วยเพียงไม่มีสังขาร.
               ชื่อว่า สมสีสี เพราะอรรถว่ามีความสงบ มีเนกขัมมะเป็นต้น และธรรมเป็นประธานมีศรัทธาเป็นต้น หรือมีความสงบและธรรมเป็นประธานเสมอกัน.
               อีกอย่างหนึ่ง การตรัสรู้และอนุปาทิเสสปรินิพพานในเพราะโรคอย่างหนึ่งก็ดี, ในเพราะอิริยาบถอย่างหนึ่งก็ดี, ในเพราะชีวิตินทรีย์อันเสมอกันก็ดี แห่งอริยสัจ ๔ เหล่านี้ คือ
                         ธรรมเป็นประธาน ๕ มีตัณหาเป็นต้น แห่งธรรมเป็น
                         ประธาน ๑๓ เป็นสมุทยสัจจะ. ธรรมเป็นประธาน ๕
                         มีศรัทธาเป็นต้น เป็นมรรคสัจจะ. ชีวิตินทรีย์มีความ
                         เป็นไปเป็นประธาน เป็นทุกขสัจจะ. วิโมกข์มีอารมณ์
                         เป็นประธาน และมีสังขารเป็นประธาน เป็นนิโรธสัจจะ.

               ย่อมมีแก่ผู้ใด ผู้นั้น ท่านกล่าวว่าเป็นสมสีสี เพราะมีความสงบ ดังได้กล่าวไว้แล้วในก่อนและมีธรรมเหล่านี้เป็นประธาน.

               จบอรรถกถาสมสีสัฏฐญาณนิทเทส               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ๑. ญาณกถา สมสีสัฏฐญาณนิทเทส จบ.
อ่านอรรถกถา 31 / 0อ่านอรรถกถา 31 / 226อรรถกถา เล่มที่ 31 ข้อ 227อ่านอรรถกถา 31 / 233อ่านอรรถกถา 31 / 737
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=31&A=2521&Z=2563
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=47&A=7544
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=47&A=7544
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๓  สิงหาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :