ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 213 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 215 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 217 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา วาโลทกชาดก
ว่าด้วย น้ำหาง

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภคนกินเดน ๕๐๐ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า วาโลทกํ อปฺปรสํ นิหีนํ ดังนี้.
               ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถีมีอุบาสก ๕๐๐ มอบความห่วงใยในเรือนให้บุตรภรรยา แล้วเดินทางร่วมกันไปฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา. ในอุบาสกเหล่านั้น บางพวกได้เป็นโสดาบัน บางพวกได้เป็นสกทาคามี บางพวกได้เป็นอนาคามี ไม่มีเป็นปุถุชนแม้แต่คนเดียว. ประชาชน แม้เมื่อนิมนต์พระศาสดา ก็เชิญอุบาสกเหล่านั้นร่วมด้วย. แต่คนรับใช้ ๕๐๐ ทำหน้าที่ให้ไม้สีฟัน น้ำล้างหน้า ผ้า ของหอม และดอกไม้ของพวกเขา เป็นคนกินเดนอาศัยอยู่. คนรับใช้เหล่านั้นบริโภคอาหารเช้าแล้วก็พากันเข้านอน ครั้นตื่นขึ้นพากันไปยังแม่น้ำอจิรวดี โห่ร้องปล้ำกันที่ฝั่งแม่น้ำ. อุบาสก ๕๐๐ เหล่านั้น มีเสียงน้อย มีเอิกเกริกน้อย ขวนขวายแต่ที่หลีกเร้น.
               พระศาสดาทรงสดับเสียงอื้ออึงของพวกกินเดนเหล่านั้น จึงตรัสถามพระเถระว่า ดูก่อนอานนท์ นั่นเสียงอะไร. กราบทูลว่า เสียงคนกินเดน พระพุทธเจ้าข้า. ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ คนกินเดนเหล่านี้บริโภคอาหารเดน แล้วพากันเกรียวกราว มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้แต่ก่อน คนพวกนี้ก็เกรียวกราวเหมือนกัน แม้อุบาสกเหล่านี้พากันสงบก็มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็พากันสงบเหมือนกัน.
               เมื่อพระเถระกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
               ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลอำมาตย์ ครั้นเจริญวัยแล้วก็ได้เป็นผู้ถวายอรรถและธรรมของพระราชา. ครั้นคราวหนึ่ง พระราชานั้นทรงสดับว่า ทางชายแดนเกิดจลาจล จึงรับสั่งให้เตรียมม้าสินธพ ๕๐๐ เสด็จพร้อมด้วยจตุรงคินีเสนา ครั้นปราบชายแดนให้สงบราบคาบแล้ว ก็เสด็จกลับกรุงพาราณสี มีพระราชโองการว่า ม้าสินธพลำบากมาก พวกท่านจงให้น้ำผลจันทน์สดแก่ม้าเหล่านั้น. ม้าเหล่านั้นครั้นดื่มน้ำจันทน์หอมแล้วก็กลับโรงม้า พักผ่อนในที่ของตนๆ. ก็กากผลจันทน์ที่เหลือจากคั้นให้ม้าเหล่านั้น มีน้ำจันทน์ติดอยู่เล็กน้อย. พวกมนุษย์จึงทูลถามพระราชาว่า บัดนี้ พวกข้าพระองค์จะทำอย่างไร. พระราชารับสั่งว่า เจ้าจงขยำเข้ากับน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าเปลือกปอ พวกเธอจงให้แก่ลาที่นำอาหารมาให้ม้าสินธพ.
               ลาทั้งหลาย ครั้นดื่มน้ำกากแล้วก็มึนเมา เที่ยววิ่งร้องอยู่แถวพระลานหลวง. พระราชาทรงเผยช่องพระแกล ทอดพระเนตรไป ณ พระลานหลวง ตรัสเรียกพระโพธิสัตว์ ซึ่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เมื่อจะตรัสถามว่า จงดูเถิด ลาเหล่านี้ดื่มน้ำกากเข้าไปมึนเมาแล้ว พากันร้องโดดโลดเต้นไปมา ส่วนม้าสินธพซึ่งเกิดในตระกูลสินธพ แม้ดื่มน้ำจันทน์หอมก็ไม่มีเสียง สงบเงียบ ไม่เอะอะ อะไรเป็นเหตุหนอ จึงตรัสคาถาแรกว่า :-

               ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกินน้ำหางมีรสน้อย เป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อยประณีต.


               ในบทเหล่านั้น บทว่า วาโลทกํ ได้แก่ น้ำที่กรองด้วยเส้นปอ. ปาฐะว่า วาลุทกํ บ้าง. บทว่า นิหีนํ คือ เลวตามสภาพของน้ำมีรสเลว. บทว่า น สญฺชายติ ได้แก่ ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพทั้งหลาย.

               พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า อะไรเป็นเหตุหนอ.
               พระโพธิสัตว์ เมื่อจะกราบทูลเหตุแด่พระราชา จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-

               ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชน สัตว์ผู้มีชาติอันเลวทราม ดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้วย่อมเมา ส่วนสัตว์ผู้มีธุระให้สำเร็จได้ เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศแล้ว ก็ไม่เมา.


               ในบทเหล่านั้น บทว่า เตน ชนินฺท ผุฏฺโฐ ความว่า ข้าแต่ท่านผู้เป็นจอมชน คือข้าแต่กษัตริย์ผู้สูงศักดิ์ ลานั้นมีเลวเป็นสภาพ เมื่อถูกความมีชาติเลวถูกต้องย่อมเมา. บทว่า โธรยฺหสีลี ได้แก่มีธุระให้สำเร็จ คือชาติม้าสินธพ ถึงพร้อมด้วยมารยาท มักนำธุระไป. บทว่า อคฺครสํ ความว่า ม้าสินธพแม้ดื่มรสน้ำผลจันทน์ที่กลั่นกรองไว้แต่แรก ก็ไม่เมา.

               พระราชาทรงสดับคำของพระโพธิสัตว์แล้ว รับสั่งให้ไล่ลาออกจากพระลานหลวง ทรงตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทรงกระทำบุญมีทานเป็นต้น แล้วเสด็จไปตามยถากรรม.

               พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
               ลา ๕๐๐ ในครั้งนั้น ได้เป็นคนกินเดนในครั้งนี้
               ม้าสินธพ ๕๐๐ ได้เป็นอุบาสก
               พระราชาได้เป็น อานนท์
               ส่วนอำมาตย์บัณฑิต คือ เราตถาคต นี้แล.

               จบ อรรถกถาวาโลทกชาดกที่ ๓

.. อรรถกถา วาโลทกชาดก ว่าด้วย น้ำหาง จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 213 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 215 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 217 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=1324&Z=1333
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=37&A=2505
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=37&A=2505
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๓  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :