ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 133 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 134 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 135 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา ฌานโสธนชาดก
ว่าด้วย สุขเกิดจากสมาบัติ

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการที่พระธรรมเสนาบดีพยากรณ์ปัญหาที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิสดาร ณ ประตูสังกัสนคร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า เย สญฺญิโน ดังนี้.
               ต่อไปนี้เป็นเรื่องอดีต ในการพยากรณ์ปัญหานั้น.
               ได้ยินว่า ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์กำลังจะมรณภาพที่ชายป่า ถูกพวกอันเตวาสิกถาม ก็กล่าวว่า เนวสัญญีนาสัญญี มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ฯลฯ (เหมือนกับเรื่องในปโรสหัสสชาดก) พวกดาบสไม่ยอมเชื่อถ้อยคำของอันเตวาสิกผู้ใหญ่ พระโพธิสัตว์จึงมาแต่พรหมชั้นอาภัสสระ ยืนอยู่ในอากาศ กล่าวคาถานี้ ความว่า :-
               "สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์เหล่านั้น ก็ชื่อว่าเป็นทุคตะ สัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้น ก็ชื่อว่าเป็นทุคตะ ท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์และอสัญญีสัตว์ ทั้งสองนี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้นเป็นสุขที่ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน"
ดังนี้.

               ในบรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบทว่า เย สญฺญิโน นี้ ท่านแสดงถึงหมู่สัตว์ที่มีจิตที่เหลือ เว้นท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน.
               บทว่า เตปิ ทุคฺคตา ความว่า เพราะไม่ได้สมาบัตินั้น แม้ชนเหล่านั้นจึงยังเป็นผู้ชื่อว่าทุคตะ.
               ด้วยบทว่า เยปิ อสญฺญิโน นี้ ท่านแสดงถึงอจิตตกสัตว์ผู้เกิดในอสัญญีภพ.
               บทว่า เตปิ ทุคฺคตา ความว่า ถึงแม้สัตว์เหล่านั้น ก็ยังคงเป็นทุคตะอยู่เหมือนกัน เพราะยังไม่ได้สมาบัตินี้นั้นแหละ.
               บทว่า เอตํ อุภยํ วิวชฺชย ความว่า พระโพธิสัตว์ให้โอวาทแก่อันเตวาสิกต่อไปว่า เธอจงเว้นเสีย ละเสีย แม้ทั้งสองอย่างนั้นคือ สัญญีภาวะและอสัญญีภาวะ.
               บทว่า ตํ สมาปตฺติสุขํ อนงฺคณํ ความว่า ความสุขในฌานนั้น คือที่ถึงการนับว่าเป็นสุข โดยเป็นธรรมชาติสงบระงับของท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ เป็นอนังคณะ คือปราศจากโทษ แม้เพราะความที่แห่งจิตมีอารมณ์แน่วแน่ มีกำลังเป็นสภาพ ความสุขนั้นก็ชื่อว่าเป็นของไม่มีกิเลสเครื่องยียวน.

               พระโพธิสัตว์แสดงธรรมสรรเสริญคุณของอันเตวาสิกด้วยประการฉะนี้แล้ว ก็ได้กลับคืนไปยังพรหมโลก คราวนั้น ดาบสที่เหลือต่างพากันเชื่อฟังอันเตวาสิกผู้ใหญ่.
               พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประชุมชาดกว่า
               อันเตวาสิกผู้ใหญ่ในครั้งนั้น ได้มาเป็น พระสารีบุตร
               ส่วนท้าวมหาพรหม(๑) ได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.
____________________________
(๑) หมายเอาพรหมผู้เป็นใหญ่ในอาภัสสรภูมิ ไม่ใช่ท้าวมหาพรหมในปฐมฌานภูมิ.

               จบ อรรถกถาฌานโสธนชาดกที่ ๔               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ฌานโสธนชาดก ว่าด้วย สุขเกิดจากสมาบัติ จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 133 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 134 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 135 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=889&Z=895
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=36&A=7112
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=36&A=7112
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๖  พฤษภาคม  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :