บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร? แม้พระเถระนี้ ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้ว ในพระ ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดในตระกูลอันมั่งคั่ง แคว้นโกศล ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้นามว่าอนูปโม เพราะสมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ ละกามทั้งหลาย บวชแล้วเพราะความเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอุปนิสัย กระทำ พระเถระเมื่อจะข่มจิตอันวิ่งไปอยู่ กล่าวเตือนตนด้วยคาถา ๒ คาถาเหล่านี้ความว่า จิตถึงความเพลิดเพลินเพราะธรรมใด ธรรมใดยกขึ้นสู่หลาว และจิตเป็นดังหลาว เป็นดังท่อนไม้ ขอท่านจงเว้นธรรมนั้นๆ ให้เด็ดขาด ดูก่อนจิต เรากล่าวธรรมนั้นว่า เป็นธรรมที่มีโทษ เรากล่าวธรรมนั้นว่า เป็นเครื่องประทุษร้ายจิต พระศาสดาที่ บุคคลหาได้โดยยาก ท่านก็ได้แล้ว ท่านอย่ามาชักชวนเรา ในทางฉิบหายเลย ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นนฺทมานาคตํ จิตฺตํ ความว่า จิตมาสู่ความเพลิดเพลิน ได้แก่จิตที่ยินดีเพลิดเพลินภพนั้นๆ แห่งตัณหาอันเป็นตัวเหตุแห่งความยินดีเพลิดเพลินในภพนั้นๆ มาถึงความยินดี ความเพลิดเพลิน จากภพนั้นไปสู่ภพนี้. บทว่า สูลมาโรปมานกํ ความว่า จิตอันกรรมกิเลสทั้งหลายยกขึ้นสู่ภพนั้นๆ อันชื่อว่าหลาว เพราะเป็นเช่นกับหลาว โดยฐานะเป็นที่เกิดแห่งทุกข์ตลอดกาลมีประมาณเท่านี้. บทว่า เตน เตเนว วชสิ เยน สูลํ กลิงฺครํ ความว่า ภพกล่าวคือหลาว และกามคุณกล่าวคือท่อนไม้ อันได้นามว่าเขียงสำหรับสำเร็จโทษมีอยู่ในฐานะใดๆ ท่านจะดำเนินไป คือเข้าถึงฐานะนั้นๆ แหละด้วยบาปจิตนั้นๆ ทีเดียว ได้แก่ไม่กำหนดความฉิบหายของตน. บทว่า ตาหํ จิตฺตกลึ พฺรูมิ ความว่า เพราะฉะนั้น เราจึงกล่าวธรรมนั้นว่า เป็นโทษของจิต คือเป็นกาลกรรณีของจิต เพราะเป็นความประมาท คือเราจะกล่าว คือจะบอกซ้ำถึงธรรมนั้น ว่าเป็นเครื่องประทุษร้ายจิต คือบ่อนทำลายจิต เพราะนำมาซึ่งความฉิบหายแก่สันดานอันมีอุปการะมากแก่ตน กล่าวคือจิต. บางอาจารย์กล่าวว่า จิตฺตทุพฺภคา บ้าง หมายความว่า สภาพจิตที่ไม่มีบุญวาสนา (หรือ) จิตที่มีบุญน้อย. ถ้าจะมีผู้ถามว่า จะบอกว่าอย่างไร? ตอบว่า จะบอกว่า พระศาสดาที่บุคคลหาได้โดยยาก ท่านก็ได้แล้ว คือโลกว่างจากพระ พระเถระเมื่อกล่าวสอนจิตของตนอยู่อย่างนี้นั่นแล เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑- ในกาลนั้น พระสัมพุทธเจ้านามว่าปทุมะ อยู่ที่ภูเขาจิตตกูฏ เราได้เห็นพระสยัมภูพุทธเจ้านั้นแล้วจึงเข้าไปเฝ้า ขณะนั้น เราเห็นต้นปรูมีดอกบานจึงเลือกเก็บแล้ว เอามาบูชาพระชินสัมพุทธเจ้านามว่าปทุมะ. ในกัปที่ ๓๗ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ทำกรรมใดไว้ในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา. เราเผากิเลสแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระ ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๒/ข้อ ๓๖๗ จบอรรถกถาอนูปมเถรคาถา ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๕ ๗. อนูปมเถรคาถา จบ. |