ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 294อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 295อ่านอรรถกถา 26 / 296อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๔
๘. นิสภเถรคาถา

               อรรถกถานิสภเถรคาถา               
               คาถาของท่านพระนิสภเถระ เริ่มต้นว่า ปญฺจ กามคุเณ หิตฺวา.
               เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร?
               แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายไว้ในภพนั้นๆ เกิดในเรือนแห่งตระกูล ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี บรรลุนิติภาวะแล้ว วันหนึ่งเห็นพระศาสดาเสด็จเที่ยวบิณฑบาต มีจิตเลื่อมใส ได้ถวายผลมะขวิด.
               ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปแต่ในสุคติภพอย่างเดียว เกิดในเรือนแห่งตระกูลในโกลิยชนบท ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้นามว่านิสภะ เจริญวัยแล้วเห็นพุทธานุภาพในสงครามของเจ้าศากยะและเจ้าโกลิยะทั้งหลาย แล้วได้ศรัทธาจิต บวชแล้ว บรรลุพระอรหัตในวันนั้นเอง.
               สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑-
               เราได้ถวายผลมะขวิดแด่พระสัมพุทธเจ้าผู้มีพระฉวีวรรณปานดังทองคำ ผู้สมควรรับเครื่องบูชา กำลังเสด็จดำเนินอยู่ในถนน.
               ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ถวายผลไม้ใดในกาลนั้น ด้วยการถวายผลไม้นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
____________________________
๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๑๐๒

               ก็พระเถระบรรลุพระอรหัตแล้ว เห็นภิกษุทั้งหลายผู้เป็นสหายของตนยังกาลเวลาให้ล่วงไปด้วยการอยู่อย่างประมาท.
               เมื่อจะโอวาทภิกษุเหล่านั้น ได้กล่าวคาถาที่ ๑ ความว่า
                         วิญญูชน ละเบญจกามคุณอันน่ารัก น่ารื่นรมย์ใจแล้ว
                         ออกบวชด้วยศรัทธา แล้วพึงทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ดังนี้.

               คาถาที่ ๑ นั้น มีอธิบายดังนี้
               วิญญูชนละ คือเลิกละได้แก่สละกามคุณ คือกามโกฏฐาสทั้ง ๕ มีรูปเป็นต้นอันชื่อว่าน่ารัก เพราะมีสภาพที่ยั่วยวน ชวนให้พาลชนรักใคร่. ชื่อว่าน่ารื่นรมย์ใจ เพราะมีสภาพเป็นที่เจริญใจ. ออกคือหลุดพ้นจากเรือน คือจากเครื่องผูกพันคือเรือน เข้าสู่บรรพชาเพศ จำเดิมแต่บวชแล้วก็เพียรพยายาม พึงเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ในวัฏฏะได้.
               พระเถระกล่าวสอนภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นอย่างนี้ แล้วกล่าวว่า ท่านทั้งหลายอย่าคิดว่า คนผู้นี้ดีแต่สอนคนอื่นเท่านั้น ส่วนตนเองไม่กระทำ ดังนี้แล้ว
               เมื่อจะประกาศความที่ตนเป็นผู้ปฏิบัติแก่ภิกษุเหล่านั้นจึงพยากรณ์พระอรหัตผล ด้วยคาถาที่สองความว่า
                         เราไม่อยากตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่เรามีสติ
                         มีสัมปชัญญะ รอเวลาอันควรอยู่ ดังนี้.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นาภินนฺทามิ มรณํ ความว่า เราไม่มุ่งหมายความตาย.
               ก็บทว่า นาภินนฺทามิ ชีวิตํ นี้ เป็นคำบอกเหตุของบทว่า "นาภินนฺทามิ มรณํ" นั้น เพราะเรายังไม่อยากมีชีวิตอยู่ ฉะนั้น จึงไม่นิยมยินดีความตาย.
               อธิบายว่า บุคคลใดก่อคือเข้าไปสั่งสมการปรุงแต่งกิเลส (อันเป็นเหตุ) แห่งชาติชราและมรณะสืบต่อไป บุคคลนั้นเมื่อยินดีการเกิดในภพใหม่ ชื่อว่าย่อมยินดีแม้ซึ่งความตายของตน เพราะเป็นผลให้เกิดในภพติดต่อกันไป เพราะยังละเหตุไม่ได้.
               ส่วนพระขีณาสพละอาจยคามิธรรม (ธรรมอันเป็นเหตุให้ถึงการก่อภพก่อชาติ) ตั้งอยู่ในอปจยคามิธรรม (ธรรมอันเป็นเหตุให้หมดภพหมดชาติ) เป็นผู้กำหนดรู้วัตถุ ชื่อว่าย่อมไม่ยินดีแม้ซึ่งความตาย เพราะความที่แห่งเหตุนั้นแล อันตนละได้แล้วด้วยดี.
               ด้วยเหตุนั้น พระเถระจึงกล่าวว่า นาภินนฺทามิ มรณํ นาภินนฺทามิ ชีวิตํ เรายังไม่อยากตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่.
               ถามว่า ถ้าพระขีณาสพมีความจำนงมุ่งหมายพระนิพพานอยู่อย่างนี้ ก็การดำรง (ชีวิตของท่าน) จนกว่าจะปรินิพพาน จะเป็นอย่างไร?
               พระเถระจึงกล่าว (เฉลย) ว่า และเรามีสติสัมปชัญญะ รอเวลาอันควรเท่านั้น (โดยมีอธิบายว่า) เมื่อเราบรรลุกิเลสปรินิพพานแล้ว เราชื่อว่ามีสติ มีสัมปชัญญะ เพราะถึงความไพบูลย์ด้วยสติและปัญญา รอเวลาขันธปรินิพพานอย่างเดียว เราชะเง้อคอยเวลาแห่งขันธปรินิพพานนั้นอยู่ แต่เราไม่มีความยินดีในความตาย หรือในชีวิตความเป็นอยู่ เพราะทั้งความตายและชีวิตนั้น เราเพิกถอนขึ้นด้วยอรหัตมรรคแล้วแล.

               จบอรรถกถานิสภเถรคาถา               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๔ ๘. นิสภเถรคาถา จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 294อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 295อ่านอรรถกถา 26 / 296อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=5948&Z=5952
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=32&A=10957
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=32&A=10957
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :